"ธรรมนัส"เปิดงาน"เทศกาลข้าวหอมมะลิโลก 2566" หวังเชื่อมตลาดในและต่างประเทศ สร้างมูลค่าข้าวหอมมะลิ เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดงานเทศกาลข้าวหอมมะลิโลก ครั้งที่ 23 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 13 ธันวาคม 2566 ณ ลานสาเกตนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลด้านการเกษตรเพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นการยกระดับสินค้าเกษตร เสริมศักยภาพเกษตรกรด้วยการผลักดันส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ตามนโยบาย 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ในส่วนของการส่งเสริมศักยภาพข้าวไทยนั้น ได้ให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปข้าว ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการเพิ่มมูลค่าข้าวให้กับเกษตรกรไทย เกิดการสร้างงานเป็นการเพิ่มโอกาสและขีดความสามารถด้านการแข่งขันทางการค้า โดยใช้องค์ความรู้จากการวิจัยด้านนวัตกรรมการแปรรูป เพื่อนำไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยและได้คุณภาพตามมาตรฐาน
ทั้งนี้ ข้าวหอมมะลิ เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของจังหวัดร้อยเอ็ด โดยจังหวัดร้อยเอ็ดมีพื้นที่ในทุ่งกุลาร้องไห้ถึงร้อยละ 46 ของพื้นที่ทุ่งกุลาทั้งหมด 2.1 ล้านไร่ ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด 986,807 ไร่ สุรินทร์ 575,993 ไร่ ศรีสะเกษ 287,000 ไร่ มหาสารคาม 193,890 ไร่ และ ยโสธร 64,000 ไร่ เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิ 105 ซึ่งมีการปรับปรุงและรับรองพันธุ์ในปี 2502 ในชื่อ “ขาวดอกมะลิ 105” ถือเป็นสายพันธุ์ข้าวที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ คนทั่วไปจะรู้จักจากคำนิยามว่า “หอม-เรียวยาว-ขาวนุ่ม” ด้วยคุณสมบัติพิเศษ คือ ความนุ่มของข้าว และกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้จนทั่วโลกยอมรับว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก จนได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI
สำหรับงานเทศกาลข้าวหอมมะลิโลก ครั้งที่ 23 จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในกระบวนการผลิตที่เหมาะสมกับพื้นที่ สู่การทำเกษตรสร้างมูลค่า เพื่อเป็นเวทีเชื่อมโยงตลาด ระหว่าง กลุ่มกษตรกรและผู้รับซื้อข้าวทั้งในและต่างประเทศ ให้มีช่องทางการขายที่หลากหลาย โดยอาศัยความร่วมมือภาครัฐและเอกชนด้านการเกษตรเป็นกำลังสำคัญ ซึ่งจะเป็นอีกพลังที่เข้มแข็งในการพัฒนาความร่วมมือด้านการเกษตร ตลอดจนสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้โดยใช้ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพื่อยกระดับภาคเกษตร และช่วยเหลือเกษตรกรไทย ให้กินดีอยู่ดี โดยได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ องค์กรภาคเอกชน สภาอุตสาหกรรมจังหวัดร้อยเอ็ด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด ชมรมโรงสีข้าวจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้แทนกลุ่มองค์กรเกษตรกร และผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ
ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมและนิทรรศการต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ 1) นิทรรศการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดย กรมส่งเสริมการเกษตร 2) นิทรรศการ การส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิในพื้นที่ทุ่งกุลาทั้ง 5 จังหวัด โดยสำนักงานเกษตรจังหวัด 5 จังหวัดในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ (ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร มหาสารคาม) 3) นิทรรศการ การผลิตพันธุ์ข้าวคุณภาพดี โดย ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวร้อยเอ็ด 4) นิทรรศการ ประกวดค้นหาสุดยอดความหอมของข้าวหอมมะลิโลกของจังหวัดร้อยเอ็ด โดย สำนักงานสหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด 5) การเจรจาการค้าข้าวหอมมะลิและจัดทำบันทึกข้อตกลง ระหว่างผู้ขายข้าวในจังหวัดร้อยเอ็ดและผู้รับซื้อจากในและต่างประเทศดำเนินการ โดย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด 6) นิทรรศการผลงานด้านนวัตกรรมทางด้านการผลิต การแปรรูป สินค้าทางการเกษตร โดย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดร้อยเอ็ด และ 7) นิทรรศการเรื่อง การพัฒนาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาด้วยการวิจัย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดย หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี