รัฐบาลจ่อออกมาตรการตรวจสอบ‘เบอร์ต้องสงสัย’ ระงับทันทีกรณีมีประวัติการโทรมากกว่า 100 สายต่อวัน ครอบครองซิมมากกว่า 50 หมายเลข แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังพบประชาชนถูกหลอกลวง-ดูดเงินจำนวนมาก
12 ธันวาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์
นายภูมิธรรม กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าปัจจุบันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง รัฐบาลจึงได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามแนวนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้ภาครัฐและเอกชนบูรณาการทำงานร่วมกัน ออกนโยบายขจัดปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ประชาชน และป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กรณีหลอกลวงและดูดเงินประชาชน
ด้านนายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กระทรวงดีอีเอส ได้รับแจ้งปัญหาจากประชาชนกว่า 80,000 สาย จึงได้กำหนดแนวทางการทำงานร่วมกับศูนย์AOC สายด่วน 1441 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ตรวจสอบฐานข้อมูลที่มีอยู่ทุกสัปดาห์ ทำให้พบว่า มีหมายเลขที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ จำนวนมากกว่า 10,000 หมายเลข ทางศูนย์ AOC จึงได้อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระงับการให้บริการหมายเลขดังกล่าว
“พร้อมกับออกมาตรการให้ผู้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ติดตามและตรวจสอบข้อมูลผู้ที่เข้าข่ายการกระทำผิด กรณีที่พบว่าผู้ใช้โทรศัพท์มีประวัติการติดต่อมากกว่า 100 สายต่อวัน หรือครอบครองซิมมากกว่า 50 หมายเลข เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินระงับใช้บริการหมายเลขนั้นในทันที โดยผู้ที่เป็นเจ้าของหมายเลขจะต้องมาแสดงตนพร้อมกับเอกสารหลักฐานภายในระยะเวลา 15 วัน เพื่อเข้าชี้แจงรายละเอียดต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ในทันทีหลังจากที่รัฐบาลแถลง” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ส่วนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่หลุดไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ตอนนี้มีข้อมูลที่ถูกอ้าง และถูกโจมตี แต่เรามีคณะกรรมการคุ้มครองรักษาความปลอดภัยทางด้านข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งมีการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา หากหน่วยงานใดสงสัยว่าข้อมูลของของตัวเองอาจจะถูกแฮกก็สามารถนำมาให้ตรวจสอบได้ ที่ผ่านมาจึงมีหน่วยงานที่แจ้งความประสงค์ว่าต้องการตรวจสอบกว่า 9000 แห่ง และได้ดำเนินการตรวจสอบไปแล้วไม่น้อยกว่า 5,000 แห่ง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี