ครอบครัวเศร้า! ลูกสาวไปทำงานเป็นผีน้อยที่เกาหลีใต้ เกิดอาการเครียดเส้นเลือดในสมองแตกกระทั่งเสียชีวิต
วันที่ ( 17 ธ.ค. 66 ) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า ได้รับการข้อมูลจากครอบครัวของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่อยู่ในพื้นที่ ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ว่าลูกได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ ในรูปแบบแรงงานที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากนั้นอยู่ๆก็ขาดการติดต่อกับทางครอบครัว กระทั่งมาทราบข่าวว่าลูกถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทางเกาหลีใต้จับกุม ในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และระหว่างที่ลูกถูกจับกุม ทางเพื่อนของลูกติดต่อมาหา และแจ้งว่าลูกป่วยหนัก มีอาการเส้นเลือดในสมองแตกซึ่งเกิดจากความเครียด
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนางกิ่งแก้ว มนตรี อายุ 49 ปี ( แม่ของผู้เสียชีวิต ) ซึ่งระหว่างที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทางบ้านกำลังจัดงานศพ และกำลังจะมีพิธีฌาปนกิจ โดยผู้เป็นแม่ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ลูกสาวคือ นางสาวอุษา คงเก่ง อายุ 26 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกสาวทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และเมื่อประมาณ 4-5 ปี ที่แล้ว ตนมารู้ว่าลูกจะเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ เพราะลูกโทรมาบอกตอนที่ลูกกำลังจะขึ้นเครื่องแล้ว และบอกให้ตนอวยพรให้ ตนไม่รู้ว่าลูกไปกับใคร ไปทำงานอะไร และใครเป็นคนติดต่อนายหน้าให้ เพราะลูกไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย รู้แค่เพียงว่าลูกเดินทางไปแบบผิดกฎหมาย ซึ่งระหว่างที่ลูกอยู่ที่เกาหลีใต้ ตนก็ได้ติดต่อกับลูกอยู่เรื่อยๆ ซึ่งตนมาทราบว่าลูกถูกทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทางเกาหลีใต้จับกุมได้ 3 วันแล้ว คือวันที่ 24 พ.ย. 66 และครั้งสุดท้ายที่ได้ติดต่อพูดคุยกับลูกคือช่วงเช้าของวันที่ 29 พ.ย. 66 และหลังจากนั้น เมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันเดียวกัน ตนได้รับการติดต่อจากเพื่อนของลูกว่าลูกของตนป่วยหนัก มีอาการเส้นเลือดในสมองแตกต้องเข้า ICU ตอนแรกตนก็ยังงงๆ และตกใจมาก ไม่เชื่อว่าเป็นลูกของตนเอง เพราะว่าช่วงเช้าในวันเดียวกัน ตนก็ยังโทรพูดคุยกับลูกอยู่เลย อีกอย่างที่ผ่านมาลูกก็ไม่มีโรคประจำตัวด้วย
นางกิ่งแก้ว มนตรี ยังให้ข้อมูลต่อว่า หลังจากที่ตนทราบข่าว ตนก็พยายามติดต่อหาคนรู้จักที่ไปทำงานอยู่เกาหลีใต้ เพื่อที่จะให้ช่วยเหลือนำตัวลูกส่งกลับมารักษาตัวที่ไทย แต่คนรู้จักนั้นก็ช่วยเหลือได้ไม่เต็มที่ เพราะว่าเขาก็เดินทางไปแบบผิดกฎหมายเช่นกัน แต่ทางคนรู้จักนั้นก็ได้พยายามหาช่องทางช่วย และบอกกับตนว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 150,000 บาท ตนก็ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อจะพาลูกกลับ แต่เนื่องจากตนไม่มีเงิน จึงได้พยายามหา และทยอยโอนไปให้เขา รวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 68,000 บาท แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร กระทั่งตนได้หาช่องทางติดต่อประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทางประเทศเกาหลีใต้ จนได้เดินทางไปหาลูกที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา และตนก็ได้ไปเห็นลูกอยู่ในสภาพอาการโคม่าไม่ได้สติ นอนอยู่ในห้อง ICU ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 02.36 น. ของวันที่ 9 ธ.ค. 66 ตามเวลาในประเทศเกาหลีใต้ ลูกก็หมดลมหายใจ
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทางเกาหลีใต้ ก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายนางสาวอุษา คงเก่ง ในระหว่างควบคุมตัว พร้อมทั้งเปิดกล้องวงจรปิดในพื้นที่ควบคุมตัวให้ทางผู้เป็นแม่ได้ดู อีกทั้งยังมีเอกสารจากทางโรงพยาบาลยืนยันว่านางสาวอุษา คงเก่ง มีอาการป่วยเส้นเลือดในสมองแตก และเสียชีวิตในเวลาต่อมาจริง
ทั้งนี้ นางกิ่งแก้ว มนตรี ยังเปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทางเกาหลีใต้ตั้งแต่วันแรก จนกระทั่งนำศพลูกกลับมาที่ไทย และได้บำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดนั้น ตนไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทางเกาหลีใต้ ยังมอบเงินช่วยเหลืองานศพเป็นเงิน 1 ล้านวอน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 22,400 บาท อีกด้วย
ส่วนสาเหตุที่ลูกมีอาการเครียดจนทำให้เกิดเส้นเลือดในสมองแตกนั้น ตอนนี้ตนก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร หรือว่าลูกมีความเครียดอะไรกันแน่ และส่วนเรื่องเงินที่ตนสูญไป 68,000 บาทนั้น ตนก็ได้พยายามติดต่อกับคนรู้จักอยู่ ซึ่งทางคนรู้จักก็บอกกับตนว่าจะพยายามหาเงินมาคืน แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะได้คืนเมื่อไหร่ จึงอยากฝากเป็นอุทาหรณ์สำหรับใครที่อยากไปทำงานต่างประเทศ ควรไปแบบถูกกฎหมายจะดีกว่า เผื่อเกิดอะไรขึ้นมามันจะง่ายต่อการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ และไม่เสี่ยงต่อการสูญเงินทิ้ง
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี