6วันอันตรายปีใหม่!ดับพุ่ง 256 ราย อุบัติเหตุ 2,083 ครั้ง เจ็บระนาว 2,106 คน ‘เมืองกาญจน์-กรุงเทพ’ยึดแชมป์สูญเสียสะสม ขณะที่ 11 จังหวัด‘ตายเป็นศูนย์’ ด้าน‘ศปถ.’กำชับจังหวัดสร้างมาตรการตระหนักใช้รถจักรยานยนต์ปลอดภัย เตรียมสรุปผลดำเนินงาน
4 มกราคม 2567 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3ม.ค.67 ซึ่งเป็นวันที่6ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 239 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 250 คน ผู้เสียชีวิต 35 ราย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 37.66 ตัดหน้ากระชั้นชิด 21.76 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 14.64 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 84.07 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 84.10 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 44.35 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 24.27 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 15.01-16.00 น. ร้อยละ 9.62 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 50-59 ปี ร้อยละ 21.05 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,789 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,515 คน
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (11 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (15 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครปฐม (3 ราย)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค. 66 – 3 มกราคม 67) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,083 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 2,106 คน ผู้เสียชีวิต รวม 256 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ กาญจนบุรี (77 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (83 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (17 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 11 จังหวัด
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงหกวันที่ผ่านมาพบว่ายานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือจักรยานยนต์ คิดเป็นร้อยละ 84.07 เพื่อเป็นการลดความรุนแรงของการบาดเจ็บและความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากการใช้ยานพาหนะดังกล่าว ขอให้ประชาชนสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ รวมถึงปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด ขับขี่ด้วยความระมัดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้ร่วมใช้เส้นทาง
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยและเสริมสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ขอให้จังหวัด หน่วยงาน และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมสร้างการรับรู้ผ่านการประชาสัมพันธ์เรื่องพฤติกรรมเสี่ยงหลักที่ต่อให้เกิดอุบัติเหตุให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด การดื่มแล้วขับ การตัดหน้ากระชั้นชิด และการไม่สวมหมวกนิรภัย นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือให้จังหวัดขับเคลื่อนมาตรการองค์กรด้านการสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ลงไปถึงระดับพื้นที่ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และหมู่บ้าน โดยในชุมชน หมู่บ้าน ให้ทำประชาคมกำหนดเป็นข้อปฏิบัติ เพื่อให้ทุกคนเกิดความปลอดภัยเมื่อใช้รถจักรยานยนต์
ด้านนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพการจราจรวันนี้ พบว่าเส้นทางสายหลักมีสภาพการจราจรคล่องตัวขึ้น จึงคาดการณ์ว่าประชาชนส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานครและพื้นที่เศรษฐกิจใหญ่ ๆ เรียบร้อยแล้ว ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้ประสานจังหวัดเตรียมสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 โดยตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 – 4 มกราคม 2567 ผ่านกลไกสนับสนุนการดำเนินงานต่าง ๆ โดยเฉพาะระบบรายงานอุบัติเหตุทางถนน e – Report ข้อมูลการสอบสวนข้อมูลเชิงลึกกรณีเกิดอุบัติเหตุรุนแรง เพื่อวิเคราะห์สาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่จะนำไปสู่การกำหนดมาตรการและกลยุทธ์ในการสร้างความปลอดภัยทางถนนทั้งในช่วงปกติและเทศกาลสำคัญให้สอดคล้องกับสถานการณ์และรูปแบบการเดินทางของประชาชนต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี