6 ม.ค.67 จากเหตุการณ์พบศพ"น้องนาย" อายุ 2 ขวบ 2 เดือน ถูกห่อผ้ายัดร่างไว้ในตู้เย็นภายในห้องนอนของสองสามีภรรยาคือนายแบงค์ อายุ 31 ปี และน.ส.ก้อย อายุ 25 ปี ซึ่งอ้างเป็นพ่อแม่บุญธรรมที่เลี้ยงของน้องนาย โดยสภาพศพขึ้นอืด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตร.สอบแม่บุญธรรมอ้างข้าวเหนียวติดคอเด็ก 2 ขวบดับก่อนถูกพ่อยัดใส่ตู้เย็น)
เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เดินทางเข้าสอบปากคำนายแบงค์ และน.ส.ก้อย สองสามีภรรยา โดยเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การว่าอ้างว่า การเสียชีวิตของน้องนาย เกิดจากอุบัติเหตุสำลักข้าวเหนียว ที่คุณปู่เป็นคนป้อน และยอมรับว่าสาเหตุที่ไม่กล้าแจ้งความหรือนำตัวน้องนายไปส่งโรงพยาบาลทันทีที่เกิดเรื่อง เนื่องจากกลัวความผิด และไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย
นอกจากนี้จากคำให้การของผู้ต้องหายังอ้างว่า น้องนายเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม และปล่อยร่างทิ้งไว้จนกระทั่งมีกลิ่น จึงนำร่างเข้าไปยัดไว้ในตู้เย็น เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมยอมรับว่า ผู้ต้องหาเคยลงมือทำร้ายน้องนายเนื่องจากดื้อและไม่เชื่อฟัง
"แต่จากคำให้การทั้งหมด ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากต้องรอผล ตรวจนิติวิทยาศาสตร์ จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อยืนยันว่าในกระเพาะอาหารของน้องนายมีข้าวเหนียวหรือไม่ แต่เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดี กับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในข้อหาไม่แจ้งการเสียชีวิตและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ"พล.ต.ต.ปรารถนา กล่าว
ด้านนายนพรัตน์ อายุ 29 ปี พ่อแท้ๆของน้องนาย หลังทราบข่าวได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ข้อมูลของน้องนายและข้อมูลของสองสามีภรรยา โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนรู้จักกับนายแบงค์ผ่านทางเพื่อน ขณะนั้นตนทำงานต้องดูแลลูกเอง และไม่มีเวลาดูแลเด็ก จากนั้นเมื่อ 2 เดือนก่อนนายแบงค์มาขอลูกตนไปเลี้ยง ซึ่งหลังจากเอาไปเลี้ยงตนก็โอนเงินให้นายแบงค์ตลอด วันละ 500 บาททุกวัน ขณะที่ตนเลี้ยงไม่เคยปล่อยปละละเลยลูกให้อยู่ในกรงหมา หรือปล่อยให้เห็บขึ้นหัว ตนเลี้ยงลูกในห้องตลอด ที่ตนให้ลูกไปเลี้ยงเพราะเห็นว่าเขารักเด็ก และตนก็ไม่มีเวลาดูแล
ส่วนตัวก็ไม่ได้สนิทกับสองสามีภรรยามากนัก ครั้งล่าสุดที่เจอลูกคือเมื่อสิ้นเดือน ธ.ค.66 ตอนนั้นยังไม่เห็นว่าน้องมีร่องรอยการถูกทำราย ไม่มีบาดแผล โดยปกติเขาก็จะถ่ายรูปลูกให้ดูอยู่ตลอด จนกระทั่งปีใหม่เขาเริ่มบ่ายเบี่ยงไม่ถ่ายรูปลูกหรือให้คุยโทรศัพท์ อ้างว่าลูกไปอยู่ที่บ้านแม่เขา ตนไม่เชื่อที่เขาอ้างว่าข้าวเหนียวติดคอคิดว่าเขาฆ่าลูกของตน หลังเกิดเหตุไม่ได้ถามหรือคุยกับเขาเลย ที่มั่นใจว่าเขาฆ่าลูกเพราะลูกรู้ทุกเรื่อง ตอนเลี้ยงเองก็เคยให้กินข้าวเหนียว กินได้ทุกอย่าง และไม่เชื่อว่าข้าวเหนียวจะติดคอ ลูกตายตั้งแต่วันที่ 2 แต่เพิ่งมารู้วันนี้จากข่าวเมื่อเช้า ทำไมเขาไม่บอกตั้งแต่วันแรก
นายนพรัตน์ กล่าวว่า สำหรับที่นายแบงค์มีพฤติกรรมรุนแรงนั้นเรื่องจริง เป็นคนอารมณ์ร้อน ก้าวร้าว แต่ที่ให้ลูกไปทั้งที่เขาอารมณ์ร้อนเพราะเห็นว่าลูกแฟนเขาเป็นคนเลี้ยง และเมื่อคืนเขาเพิ่งบอกว่าจะพาน้องนายไปเที่ยวที่เกาะล้าน ตนยังโอนเงินไปให้เมื่อคืน 300 บาท ยังรับไม่ได้ที่ลูกเสียชีวิต ตนรักลูกของมาก เลี้ยงลูกเองตั้งแต่เกิด เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวตอนนี้คิดถึงลูกมาก อยากบอกลูกว่ารักเขา ส่วนนายแบงค์ถ้าเป็นคนทำผิดก็ขอให้ยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำ ตนให้อภัย มันพลาดไปแล้ว กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ขอให้พูดความจริงออกมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำน.ส.กิ๊ก อายุ 24 ปี น้องสาวนายแบงค์ และนายนพรัตน์ พ่อแท้ๆของน้องนาย เพื่อรวบรวมข้อมูลประกอบสำนวนคดี และหาข้อเท็จจริงสาเหตุการเสียชีวิตของน้องนาย โดยเเจ้งข้อกล่าวหาคือ ไม่แจ้งสาเหตุการตาย และ ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพกับนายแบงค์ และน.ส.ก้อย หลังจากนี้ต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง และสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยหลังจากนี้อาจมีการตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี