พี่ชายเมาเบียร์เดินเข้าร่วมงานสวดศพพ่อคืนสุดท้าย ถูกน้องสาวแท้ๆ ไล่ตะเพิดให้ออกจากงานน้อยใจ คว้าเชือกไนล่อนแขวนคอดับกับต้นไม้
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 6 ม.ค.67 ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดอนนาง พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบผู้เสียชีวิตผูกคอกับต้นไม้บริเวณคันวังเลี้ยงปูทะเลฝั่งตรงข้ามทางเข้าวัดคลองพระราม หมู่ที่ 13 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุ พบเป็นวังเลี้ยงปูทะเลขนาดใหญ่บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ทางเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าจากถนนใหญ่เลาะไปตามคันวังประมาณ 60 เมตร พบต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ขนาดความสูงกว่า 2 เมตรปลูกอยู่กลางคันวัง บริเวณลำต้นพบเชือกไนล่อนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้วผูกเป็นบ่วงวงกลมคล้องกับกิ่งไม้ไว้และบริเวณโคนต้นพบขวบเบียร์ยี่ห้อหนึ่งถูกดื่นจนเหลือค่อนขวด ห่างกันเล็กน้อยพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อภายหลัง นายบุญธรรม รอดสุพรรณ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ 1 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ นอนหงายอยู่บนพื้นดิน สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตลายทางดำสลับขาว สวมกางเกงขาวสีขาว โดยมีรองเท้าแตะยางสีดำถูกถอดวางไว้ใกล้ศะโดยมีนางพรภิรมณ์ เงินเหรียญ อายุ 57 ปี ภรรยานั่งร้องไห้จับร่างของสามีโดยมีญาติๆค่อยพัดและพูดปลอดใจอยู่ตลอดเวลา
จากการสอบถามนายศักดิ์ดา ซุ่นปุย อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/2 หมู่ที่ 13 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ผู้ที่มาพบศพคนแรกเล่าว่า ตนเป็นผู้เช่าวังแห่งนี้เลี้ยงปูทะเลมานานหลายปี ก่อนเกิดเหตุตนได้พายเรือเก็บลอบดักปูทะเลที่ตนวางไว้เมื่อช่วงบ่ายเพื่อจะนำปูทะเลไปขาย เมื่อพายเรือมาถึงบริเวณต้นชมพูพันธุ์ทิพย์สังเกตเห็นขวดเบียร์มาวางไว้บริเวณโค่นต้นไม้จึงเงยหน้าขึ้นดูบนต้นไม้ต้องตกใจพบมีคนมาถูกคอตายที่ต้นไม้ จึงรีบจอดเรือวิ่งไปเรียกคนงานที่อยู่ในร้านขายปูทะเลที่อยู่ฝั่งเดียวกับวัดให้รีบมาดูพร้อมช่วยเหลือแต่ไม่ทันการณ์ผู้ตายเสียชีวิตไปนานแล้ว
ด้าน นายขวัญเมือง รอดสุพรรณ อายุ 72 ปี พี่ชายของผู้ตายพูดอย่างคับแค้นใจว่า ครอบครัวตนได้จัดงานศพพ่ออยู่ในวัดคลองพระราม ซึ่งคืนนี้เป็นการสวดคืนสุดท้ายแล้วพรุ่งนี้จะเผาร่าง กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ผู้ตายได้เดินเข้ามาในงานศพพ่อและได้ดื่มเบียร์มาจนเมาไม่มากนัก เมื่อน้องสาวเห็นเข้าจึงต่อว่าและไล่ตะเพิดไม่ให้เข้ามาร่วมงานพร้อมไล่ให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน ด้วยความน้อยใจผู้ตายจึงเดินกลับบ้านก่อนที่จะมาพบภรรยาผู้ตายกลางทาง ก่อนที่ภรรยาเดินมาส่งแค่บริเวณทางเดินเข้าคันวังเพราะเป็นเส้นทางที่ต้องเดินผ่านอยู่ทุกวันและแวะซื้อเบียร์ร้านขายของชำติดมือไปด้วย หลังจากนั้นได้มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าผู้ตายผูกคอกับต้นไม้เสียชีวิตแล้ว จึงรีบเดินทางมาดู ตนรู้สึกน้อยใจอย่างมากเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะน้อยใจและลงมือจบชีวิตตนเองได้แบบนี้ ทั้งที่ยังไม่ได้เผาร่างพ่อเลยแต่ต้องกลับมาทำงานศพของน้องชายอีก
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์พร้อมประสานญาติให้เดินทางไปติดต่อขอรับศพมาดำเนินการตามประเพณีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี