สาวไทยโร่ร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ล่าตัวหนุ่มอเมริกันที่รู้จักในแอปหาคู่ หลอกให้รัก ซ้อมทำร้าย ลักทรัพย์ ข่มขู่คุกคาม แอบถ่ายคลิปไปขาย ด้านตำรวจเตือนภัยควรตรวจสอบให้รอบคอบ ระวังตกเป็นเหยื
8 ม.ค.67 ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาหญิงสาว 1 ใน 3 ราย เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูก หนุ่มอเมริกันล่าแต้มในแอปฯ หาคู่ หลอกคบหาสร้างฝันมีครอบครัวที่อบอุ่น ก่อนมีความสัมพันธ์แอบถ่ายคลิป ซ้อมทำร้าย ลักทรัพย์ ข่มขู่คุกคาม และเอาคลิปไปเผยแพร่ขายในกลุ่มต่างๆ โดยขอให้ติดตามตัวหนุ่มอเมริกันรายนี้มาดำเนินคดี เพราะถือเป็นภัยร้ายของผู้หญิง หวั่นเอาคลิปสาวๆ ไปขายกลุ่มลับ คาดยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายไม่กล้าออกมาแจ้งความ
โดยเหยื่อรายที่ 1. อายุ 31 ปี อาชีพโปรแกรมเมอร์ รู้จักกับนายโทมัส อายุ 33 ปี สัญชาติอเมริกัน ในแอปพลิเคชั่นหาคู่ หลังได้พูดคุยกันอยู่ประมาณ 4 เดือน นายโทมัส บอกว่าตนเองเป็นอดีตทหารปลดประจำการ ขณะนี้ทำงานขับรถบรรทุกอยู่ที่อเมริกา ต้องการคบหากับผู้หญิงไทยที่นิสัยดีและสร้างครอบครัวที่อบอุ่น และเจอกับตนเองในช่วงเดือน เม.ย.65 ระหว่างที่อยู่ด้วยกันประมาณ 2 เดือน นายโทมัสพูดสร้างฝันสวยงาม การวางแผนชีวิต บอกว่าจะพาไปจดทะเบียนและขอวีซ่าพาไปอยู่ที่อเมริกา ตนหลงเชื่อจึงได้ยอมจ่ายค่าโรงแรมที่พักให้ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท และมีความสัมพันธ์กัน แบะมาจับได้ว่าคบหญิงอื่นอีกจึงขอยุติความสัมพันธ์และไม่รู้ว่าถูกนายโทมัสแอบถ่ายคลิปเอาไว้
เหยื่อรายที่ 2. น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี อาชีพพนักงานต้อนรับ เล่าว่า ได้รู้จักกับนายโทมัสในแอปพลิเคชั่นหาคู่ แอปฯเดียวกันกับน.ส.เอ โดยวิดีโอคอลคุยกันอยู่หลายเดือน จนช่วงเดือนมิ.ย.65 นายโทมัสเดินทางมาหาและอยู่กินกันที่ห้องพักย่านบางชัน พร้อมกับจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยา ระหว่างที่อยู่ด้วยกันนายโทมัสมักจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวเวลาโมโหจะทำลายข้าวของเสียหาย ทำร้ายทุบตีที่ศีรษะตนบาดเจ็บ
ต่อมาวันที่ 9 ก.ย.65 ผู้เสียหายจับได้ว่านายโทมัสแอบคุยกับผู้หญิงคนอื่นและมีการไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกับผู้หญิงชาวอินโดนีเซีย ที่ประเทศอินโดนีเซีย จึงได้ทะเลาะมีปากเสียงกัน และนายโทมัสได้ทำร้ายร่างกายตนโดยการบีบคอ เอาหมอนกดที่ใบหน้า ซึ่งวันนั้นก่อนที่นายโทมัสจะหนีไปได้ขโมยสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงของตนไปด้วย จึงได้ไปแจ้งความที่ สน.บางชัน ซึ่งตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปยื่นต่อศาลในการใช้ฟ้องหย่า แต่นายโทมัสไม่ยอมอย่าแถมยังส่งคลิปโป๊และคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ไปให้เพื่อนๆ และที่ทำงานของผู้เสียหายเพื่อประจานในโซเชียลจนต้องลาออกจากงาน และป่วยเป็นแพนิค ต้องย้ายที่ทำงานจากกรุงเทพฯ ไปอยู่ที่จ.ภูเก็ต
ขณะที่เหยื่อรายที่ 3 อายุ 33 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ระบุว่า ได้รู้จักกับนายโทมัส ทางแอปพลิเคชั่นหาคู่เดียวกับน.ส.เอ และน.ส.บี โดยคุยกันเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.66 นายโทมัสบอกว่าอยากสร้างครอบครัวกับสาวไทย ก่อนจะนัดเจอกันที่อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ในวันที่ 15 ธ.ค.66 วันแรกที่เจอกันนายโทมัสได้ขอตนแต่งงานแต่ตนได้ปฏิเสธโดยขอให้ดูใจเรียนรู้กันไปก่อน โดยช่วงที่อยู่ด้วยกัน 1 อาทิตย์ ที่ห้องพักในอ.บางใหญ่ ตนรู้สึกว่านายโทมัสเป็นคนที่อารมณ์รุนแรง ชอบสบถด่าคนอื่น และคิดว่าคงไปกันไม่ได้
ซึ่งต่อมาตนได้ขอยุติความสัมพันธ์กับนายโทมัสและตกลงจะแยกย้ายกันในตอนเช้า แต่คืนนั้นนายโทมัสได้นอนหลับแกล้งทำเป็นละเมอและต่อยเข้าที่ใบหน้าตน โดยอ้างว่าเป็นเอฟเฟคจากที่เคยเป็นทหารมา จากนั้นนายโทมัสก็ได้ขึ้นคร่อมนั่งทับร่างของตนและใช้หมอนกดที่ใบหน้าตนจนเกือบจะหายใจไม่ออก ก่อนจะถีบตนตกจากเตียงและตามมาบีบคอตนอย่างแรงจนจะทนไม่ไหว จนตนเองต้องอ้อนวอนร้องขอชีวิตจึงรอดมาได้และรีบวิ่งหนีออกจากห้องพักแจ้งตำรวจสภ.บางใหญ่ มาช่วยเหลือ แต่นายโทมัสปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรพร้อมทั้งเอาโทรศัพท์มือถือของตนไปด้วย
ขณะนี้ตนทราบว่านายโทมัสยังอยู่ในไทย พร้อมกับได้พูดคุยกับน.ส.เอ และน.ส.บี ผู้เสียหายอีก 2 ราย ต้องการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะนายโทมัสเป็นคนอันตราย เป็นภัยร้ายของผู้หญิง จึงตัดสินใจรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดพากันเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา ประธานมูลนิธิปวีณาฯ
นางปวีณา กล่าวว่า จากที่ผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ได้เล่าว่าก่อนหน้านี้ นายทอมก็เคยมีภรรยาเป็นชาวฟิลิปปินส์ ชาวจีนอยู่ที่อเมริกา และมีพฤติกรรมรุนแรง ชอบคุยกับหญิงสาวหลายรายในแอปฯ หาคู่ต่างๆ เช่นเดียวกัน โดยขณะนี้สาวไทยตกเป็นเหยื่อนายทอมถึง 3 ราย จึงได้ขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยระงับการเดินทางออกนอกประเทศจนกว่าจะจับกุมตัวได้ ทั้งนี้คาดว่ายังมีหญิงสาวผู้เสียหายอีกหลายรายที่ไม่กล้าออกมาแจ้งความเพราะอับอาย ทั้งนี้พบข้อมูลว่านายโทมัส เป็นสมาชิกกลุ่มลับที่มีการขายคลิปโป๊เปลือย คลิปลามก และมีคลิปหญิงสาวหลายรายถูกปล่อยขายในกลุ่มลับ ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย จึงเกรงว่าคลิปของตนจะถูกขายในกลุ่มลับด้วย และเกรงว่านายทอมจะไปหลอกหญิงสาวรายอื่นๆ สร้างความเสียหาย จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯติดตามคดี
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คนร้ายจะใช้แผนประทุษกรรมเดิมๆ ในลักษณะคล้ายกับแก๊งโรแมนสแกม หลอกให้รักออนไลน์ กรณีนี้เป็นการรู้จักกันผ่านทางแอปหาคู่ เนื่องจากรู้จุดอ่อน กลุ่มคนที่อยู่ในแอป เป็นคนโสดและต้องการผู้ชายมาดูแล มีการสร้างสตอรี่ต่างๆ หลอกสร้างอนาคต หลอกมีความสัมพันธ์ ถ่านคลิปไปขายในเว็บโป๊ ล่าสุดมีรายงานว่านายโทมัส เดินทางออกนอกประเทศแล้ว ปลายทางที่เวียดนาม ตั้งแต่เมื่อวานนี้ จึงสั่งการให้ตำรวจ สภ.บางใหญ่ เร่งรัดในการออกหมายจับ พร้อมประสานอินเตอร์โพลในการล่าตัวมาดำเนินคดี ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เฝ้าระวังการเดินทางเข้าของนายโทมัส หากพบตัวให้จับกุมทันที พร้อมเตือนภัยสาวไทย ให้ตรวจสอบประวัติของชายหนุ่มที่รู้จักกันผ่านแอปหาคู่ ให้ดีก่อนตัดสินใจคบหากัน เพราะอาจตกป็นเหยื่อถูกหลอก ถูกถ่ายคลิปไปประจานเพื่อเรียกร้องทรัพย์สิน หรือถูกนำคลิปแบล็กเมลไปขายในช่องทางต่างๆ
ทั้งนี้ จากการตรวจประวัติ พบนายโทมัส เดินทางเข้าออกไทยตั้งแต่ปี 2565 ใช้วีซ่าท่องเที่ยว เฉลี่ยเดินทางเข้าออกไทย ปีละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมที่สหรัฐ พบว่ามีประวัติลักทรัพย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี