มหากาพย์ “นิกกี้ขยี้ข่าว” ขอยืมเงิน แลกกับการไม่แฉคลินิกความงาม ผู้เสียหายยัน เป็นเรื่องเก่าขุดคุ้ยมาทำไม
วันที่ 8 มกราคม 2567 รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี เจ้าของคลินิกความงามท่านหนึ่ง ไปร้องกับเพจ “เป็นหนึ่ง” หลังถูกเพจดัง “นิกกี้ขยี้ข่าว” แบล็กเมลข่มขู่เพื่อเรียกเงิน 300,000 บาท เพื่อที่จะไม่ให้เปิดโปงว่า ในอดีตเมื่อ 3 ปีก่อนทางคลินิกเคยโดนสั่งปิด
คุณโบว์ เจ้าของคลินิกเสริมความงาม เล่าว่า เมื่อ 3 ปีก่อน ทางคลินิกเคยโดนสั่งปิดเพราะสามีของตนไปฉีดคอลลาเจนให้ลูกค้า ก่อนถูกล่อซื้อจากทางเจ้าหน้าที่ จึงทำให้เกิดเรื่องและโดนสั่งปิดไป แต่ตนก็ได้มาเปิดคลินิกใหม่ซึ่งทำถูกต้องตามกฏหมายทุกอย่าง
เมื่อเร็วๆนี้มีพนักงานชายที่ถูกทางคลินิกเชิญให้ออกจากงาน จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พนักงานคนนั้นจึงเกิดความคับแค้น ส่งข้อมูลเก่าของทางคลินิกไปให้เพจดัง “นิกกี้ขยี้ข่าว” เพื่อโจมตีทางคลินิก
ทางคุณโบว์พยายามจะติดต่อไปชี้แจงกับทางเพจ นิกกี้ขยี้ข่าว ยืนยันว่าตัวเองทำถูกต้อง ไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย ไม่ใช้หมอกระเป๋า ไม่ใช้ยาเถื่อน แต่เขาก็บอกว่าจะขอยืมเงินเรา 3 แสนบาท แล้วเร่งรัดให้เราโอนเงิน มีการอ้างผู้ใหญ่ในกระทรวง อ้างตำรวจ จนเราหวาดกลัวไปหมด แต่ก็หาเงินให้เขาไม่ได้
ขณะที่ ทางนิกกี้ เจ้าของเพจ นิกกี้ขยี้ข่าว เล่าว่า ตนทำเพจนี้ขึ้นมา เพราะสนใจเรื่องศัลยกรรมความงาม และชอบการรายงานข่าวต่างๆ จึงเปิดเพจมา และได้ให้การช่วยเหลือผู้เสียหายมาหลายคดี ในการหาทนายว่าความต่างๆ
วันที่ผู้เสียหายติดต่อมา เป็นคนที่ชื่อ “นุ่น” โทรมา เรายังไม่รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง แต่เราติดธุระเรื่องที่ดินอยู่ ต้องใช้เงิน 7 หลัก เขาโทรมาเราก็บอกว่ายังไม่ว่าง แต่เขาดูร้อนใจ ก็เลยบอกไปว่า เรายังช่วยใครไม่ได้ เรายังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย เพราะเราต้องรีบหาเงิน 1 ล้านก่อน หรือว่าน้องจะช่วยพี่ไหมล่ะ มีเงินให้พี่ยืมไหม แล้วเดี๋ยววันจันทร์พี่จะคืนให้ มีหลักฐานการโอนที่ดินทุกอย่างว่าเราต้องการหาเงินมาใช้โอนที่ดินด่วนจริงๆ
อ้อ ชลิดา เพจเป็นหนึ่ง ถามว่า แล้วคุณนิกกี้สนิทกับคุณโบว์แค่ไหน ถึงกล้ามายืมเงิน ทั้งยังเร่งรัดให้เขาโอนมา
สำหรับเรื่องของคลินิกของคุณโบว์ เราได้หลักฐานเป็นแชตไลน์กลุ่ม ที่มีหมอเสริมความงามไปสอบถามเกี่ยวกับคลินิกของเขา ว่าใช้ยาอะไร จากไหน ได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ แต่ทางคลินิกเขาไม่ยอมตอบ
เขาบอกว่าคลินิกเขากำลังถูกโจมตีอย่างหนัก นิกกี้ก็บอกว่า เดี๋ยวเสร็จธุระตรงนี้แล้วเราจะช่วยดูให้ และจะช่วยแก้ข่าวให้เขากลับมายืนในวงการเสริมความงามได้อีก แต่ก่อนจะเสร็จธุระได้เราต้องหาเงินให้ได้ก่อน นุ่นก็บอกว่านุ่นจะช่วยหาเงินให้ โดยนุ่นจะไปถามจากโบว์ เจ้าของคลินิกให้
โบว์บอกว่าพยายามหาเงินมาให้เขา แต่หาไม่ได้ เพราะไม่มีเงินจริงๆ แต่เขาก็ยังโพสต์อย่างต่อเนื่อง ว่าจะแฉคลินิกในโคราช จะแฉหมอเถื่อนอะไรต่างๆ นานา ทำให้เรากลัวว่าเสื่อมเสียชื่อเสียง กลัวมาก จนต้องทักไปขอความช่วยเหลือ ขอยืมเงินจากคนนั้นคนนี้เต็มไปหมด จนมีคนมาสอบถามเราว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จนมีคนเปิดประเด็นว่านิกกี้ขยี้ข่าว ข่มขู่เอาเงินจากตน
อ้อ ชลิดา ยังบอกอีกว่า ระหว่างที่เขาโทรคุยกับคุณโบว์ เขายังบอกว่าพี่ยื้อตำรวจมานานแล้ว จะเอายังไง รีบโอนได้ไหม ยังมีการอ้างผู้ใหญ่ในกระทรวง ทำให้ผู้เสียหายยิ่งเดือดเนื้อร้อนใจเข้าไปใหญ่ เหมือนเขาเอาตำรวจ เอาผู้ใหญ่มาข่มขู่ให้เขาโอนเงิน
ทางทนายเจมส์ ซึ่งมานั่งร่วมในรายการ ยืนยันว่า ตนเกี่ยวข้องในข้อเท็จจริงเดียว คือนิกกี้โทรมาขอยืมเงินจริงๆ ในวันเกิดเหตุ แต่ตนไม่รู้หรอกว่าเขายืมใครบ้าง ซึ่งนิกกี้ก็เร่งรัดตนเหมือนกัน ว่าต้องใช้เงินด่วน แต่ในเรื่องคดีความ หรือข้อพิพาทต่างๆ ทนายเจมส์ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย และไม่ได้เป็นทนายให้
ขณะที่นายราเชน ตระกูลเวียง หัวหน้าพรรคทางเลือกใหม่ โฟนอินเข้ามาชี้แจงว่า นิกกี้เป็นทีมประชาสัมพันธ์ของพรรคทางเลือกใหม่ เพิ่งแต่งตั้งมา 2 เดือน ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์พรรค และรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน แต่ไม่ได้มอบหมายอำนาจให้ไปตรวจสอบใคร
ซึ่งเรื่องนี้ขัดแย้งกับคำพูดของนิกกี้ ที่บอกว่า ผู้ใหญ่สั่งมา ให้มากวาดล้างคลินิกเถื่อน ซึ่งนิกกี้ยอมรับว่าใช้คำพูดผิดไป และสุดท้ายทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกันให้ถึงที่สุด ทางคุณโบว์จะดำเนินคดีกับนิกกี้ และอดีตพนักงาน และทางนิกกี้ก็บอกว่าจะดำเนินคดีกลับเหมือนกัน เพราะข้อเท็จจริง เราไม่ได้ข่มขู่ใคร
ต่อมามีคำสั่งด่วนปลดนิกกี้ จากตำแหน่งโฆษกพรรคทางเลือกใหม่ เนื่องจากมันเป็นเรื่องจริยธรรมทางการเมือง เพราะหลังจากที่รายการออกอากาศ คณะกรรมการบริหารพรรคโทรมากันเยอะมาก พอมีประเด็นอย่างนี้เกิดขึ้น ตนต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการปลดเขาออกจากตำแหน่งก่อน
คุณนิกกี้เป็นคนที่ดีมาก ช่วยเหลือสังคม โดยส่วนตัวตนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขาเลย และรู้สึกว่าเขาช่วยเหลืองานอย่างดีมาตลอด แต่ด้วยจุดยืนของพรรคที่ต้องให้ความสำคัญกับคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานภาครัฐเป็นสำคัญ ดังนั้นเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ก็ต้องรับผิดชอบด้วยวิธีก่อน
อีกหนึ่งประเด็นเป็นเรื่องราวของ คุณปิ่น เจ้าของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ เดินเข้ามาร่วมในรายการ เผยว่า ตนก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับผลกระทบจากคุณนิกกี้ หลังเขาไปทำศัลยกรรมหน้าอก เมื่อปี 2555 ตามหลักการแพทย์แล้ว ซิลิโคนจะเสื่อมสภาพตามกาลเวลา เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ปรากฎว่า 2561 เขามาโพสต์เรื่องราวทำให้โรงพยาบาลเสื่อมเสียชื่อเสียง เราติดต่อเขาไป เพื่อขอให้เขาลบโพสต์ เพราะมันไม่จริง
แต่สุดท้ายเขาไม่ยอมลบ จนเราต้องยอมจ่ายเงิน 4 แสนบาท เพื่อให้จบเรื่อง พอจ่ายไปแล้ว เขาลบ แล้วเอาเงินไปแก้ไขหน้าอกของเขา แต่พอปี 2566 เขาก็กลับมาโพสต์อีก มาขอให้เราลงโพสต์ประชาสัมพันธ์กับเขาอีก 4 แสนบาท แต่เราไม่สนใจจะลงกับเขา พอเราไม่ลงเราก็ให้เฟซบุ๊กอวตารมาดิสเครดิตโรงพยาบาลเราไม่หยุด
ปิ่น เลอลักษณ์ บอกว่าทำธุรกิจก็เหนื่อยอยู่แล้ว ยังต้องมาเจอคนคอยกลั่นแกล้ง หาเรื่องเราไม่หยุด เราจะต้องมาคอยจ่ายเงินให้เขาตลอดหรือยังไง เราอัดอั้นตันใจจนต้องมาระบายในรายการ
คณะที่นิกกี้บอกว่าไม่จริง และได้ท้าให้โฟนอินกับผู้เสียหายอีกคนเข้ามาในรายการ ว่าไปทำศัลยกรรมหน้าอกมา แล้วมีปัญหาจริงๆ เพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้ขุดคุ้ยเรื่องราวมาดิสเครดิต เขามาร้องเรียนกับเราจริงๆ
ท้ายที่สุดคุยกันไม่จบ ต้องให้แต่ละฝ่ายไปแจ้งความเอาผิดกันตามกฎหมาย โดยทุกฝ่ายยืนยันว่าจะดำเนินการตามข้อกฎหมายให้ถึงที่สุด ซึ่งทนายแก้วบอกว่า ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว บนโต๊ะนี้จะต้องมีคนที่เบิกความเท็จหนึ่งคนแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี