9 มกราคม 2567 เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ร.ต.อ.สมบัติ สมบัติโยธา รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม รับแจ้งเหตุพบศพคาดว่าจะถูกฆาตกรรม ที่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านหนองโพด หมู่ 5 ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ก่อนแจ้งกู้ขีพ อบต.แวงน่าง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.มหาสารคาม และผู้บังคับบัญชาทราบและรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ

โดยในที่เกิดเหตุพบเป็นป่าสาธารณะประโยชน์ท้ายหมู่บ้านพบหลุมขนาดใหญ่ถูกขุดลึกลงไปประมาณ 1 เมตร กว้างประมาณ 2 เมตร พบศพถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอนและผ้าห่ม จนท.จึงได้ขุดศพขึ้นมา สภาพศพนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อสีแดง กางเกงขาสั้น ตามตัวมีร่องรอยเขียวช้ำหลายแห่ง ก่อนนำศพไปเก็บรักษาที่ รพ.มหาสารคาม เพื่อรอแพทย์ชันสูตร

พ.ต.อ.ไกรทอง ชัยสิงห์ ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.ดาราพร พลศรี หรือแพร อายุ 30 ปี เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย อบต.แวงน่าง โดยเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ แม่ของ น.ส.แพร ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันว่าลูกสาวได้หายตัวไป ทางเจ้าหน้าที่และญาติได้ออกตามหา 

ต่อมาเมื่อช่วงเย็นทางญาติได้พบหลุมดินที่เมื่อ 4 วันที่แล้วได้ขุดหลุมไว้เพื่อจะใช้ฝังขยะ แต่กลับมีดินถมขึ้นมาจนเกือบเต็ม จึงสงสัยว่าน่าจะมีการอำพรางศพ จึงไปดูใกล้ๆก็พบว่า มีเศษเสื้อผ้าคล้ายกับผู้เสียชีวิตสวมใส่ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่และขุดร่างขึ้นมาก็พบว่าเป็นศพของ น.ส.ดาราพร จริงในลักษณะร่างถูกพันด้วยผ้าปูที่นอน สีชมพูอ่อน เมื่อเปิดผ้าออกก็พบร่างผู้เสียชีวิต

ซึ่งหลุมที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านสวนของผู้เสียชีวิตประมาณ 700 เมตร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุและเดินทางไปที่บ้านสวนของผู้ตาย พบมีรอยเลือดตามพื้นบ้าน กลอนประตูถูกทำลายซึ่งหลังเกิดเหตุสามีของผู้ตายได้หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่ง จนท.จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป

นายเจริญ พลศรี อายุ 54 ปี พ่อของ น.ส.แพร กล่าวว่า ลูกสาวคบกับลูกเขยคนนี้มาได้ประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมาก็ทะเลาะกันบ่อย ตนก็เคยเตือนไปหลายครั้ง ทะเลาะกันก็เรื่องกินเหล้าเมา บางทีก็เรื่องเงิน เรื่องหึงหวงหรือไม่ตนก็ไม่รู้ มีอยู่ครั้งนึงที่ตนได้ยินว่า หมดเงินเพราะมึงหลายครั้งแล้ว ตนก็บอกไปว่า อยู่ด้วยกันก็ต้องหาให้ลูกให้เมียกิน เขยคนนี้ไม่เคยช่วยงานทางบ้านเลย ไปทำไร่ทำนาก็มีแต่ตนที่ไปคนเดียว

อยากฝากบอกลูกเขยว่า หากเป็นลูกผู้ชายก็อยากให้มามอบตัว อย่าทำตัวแบบนี้ หนีไปก็หนีไม่พ้น แถมยังอำพรางคดี ทารุณมาก หมอชันสูตรบอกว่า ลูกตนยังไม่ทันตาย ก็ถูกฝังทั้งเป็น หากลูกตนตายเพราะอุบัติเหตุก็จะไม่เสียใจขนาดนี้ มาฆ่าคนแบบทรมาน ทำลงไปได้ยังไง หมอลงความเห็นว่าขาดอากาศหายใจ

โดยนายเจริญ พ่อผู้ตาย ได้เผยแชทไลน์ของลูกสาว ล่าสุด เมื่อช่วงเวลา 22.41 น. ของวันอาทิตย์ ที่ 7 มกราคม 67 ในแชทระบุว่า พ่อแพรไปต่างจังหวัดเด้อ แพรออกงาน อบต.แล้ว สิไปทำงานใหม่ มีเงินจังกลับ สิติดต่อไปหาลูกเอง พ่อนอนแล้วบ่ ขึ้นรถแล้ว ต่อมาช่วงเลา 07.33 น. ของวันที่ 8 มกราคม 67 ไลน์มาว่า เด็กน้อยไปโรงเรียนไป่พ่อ (เด็กๆ ไปโรงเรียนรึยังพ่อ) มันได้หยังกิน (มันได้อะไรกิน) ซึ่งตนก็ได้โทรกลับไป แต่ก็ไม่รับสาย 

ซึ่งคาดว่าคนที่แชทไลน์มาหาตน ไม่น่าจะใช้แพรลูกสาวตน แต่เป็นลูกเขยที่หลบหนีไป ส่งแชทมาตบตาเหมือนว่าลูกสาวตนยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ทางครอบครัวได้ขาดการติดต่อกับลูกสาวไปแล้ว คาดว่าช่วงเวลานั้นลูกสาวตนน่าจะเสียชีวิตแล้ว  

นายตุ๊ ฤกษ์งาม เพื่อนบ้าน เล่าว่า เมื่อคืนนี้ตนกินเหล้าเมา พอเช้ามาเมียมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนเด็กสองคนนี้ทะเลาะกัน ไม่รู้ว่าเป็นอะไรรึป่าว พอช่วงสายๆ แม่ของแพรก็มาตามหาแพร ตนก็บอกไปว่าไม่เห็น ไม่รู้เรื่อง ต้องไปถามแฟนตน แต่ก็ได้บอกไปว่าได้ยินเสียงทะเลาะกัน แต่ไม่ได้ยินเสียงตีกัน

ล่าสุดวันนี้ 9 มกราคม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ. จว.มหาสารคาม เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า ทางพนักงานสอบสวนกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และพยานแวดล้อม เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยได้มีการสอบปากคำพยานบุคคลไปแล้วจำนวน 4 ปาก เพื่อประกอบสำนวนคดี 

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับตัวผู้ต้องสงสัย จากศาลจังหวัดมหาสารคาม จากหลักฐานที่ปรากฏน่าสงสัยได้ว่าสามีผู้ตาย เป็นผู้ต้องสงสัย เพราะหายตัวไปหลังจากเกิดเหตุ ซึ่งก็จะพยายามตามตัวมาสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ส่วนปมสังหารคาดว่ามาจากสาเหตุการทะเลาะวิวาท เพราะว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีปากเสียงและมีการลงไม้ลงมือกันบ่อยครั้ง ซึ่งคนแถวบ้านก็รู้กันดีว่าทั้งคู่ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ  ส่วนเรื่องชู้สาวนั้นก็ต้องรอตรวจสอบอีกครั้งว่ามีสาเหตุอื่นมาเกี่ยวข้องหรือไม่ สำหรับผลตรวจเลือด หรือผลดีเอ็นเอ ก็จะได้ประสานทาง พฐ. อีกครั้ง.012