‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’เตือนภัยมิจฉาชีพสร้าง‘เพจตำรวจ’ปลอมอื้อ แอบอ้างรับแจ้งความออนไลน์หวังหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวเหยื่อ แนะวิธีเช็ค‘ของจริง’
9 มกราคม 2567 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) , พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ. ศปอส.ตร. แจ้งว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ อีกทั้งในช่วงนี้คนร้ายยังสร้าง Page Facebook ตำรวจปลอมขึ้นมาแอบอ้างรับแจ้งความออนไลน์ เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ หรือเพื่อหลอกเอาทรัพย์สินเหยื่อซ้ำเติม
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนถึงข้อสังเกตการแยกแยะ Page Facebook ของตำรวจปลอมและพฤติการณ์ของ Page Facebook ปลอมของตำรวจ ดังนี้
#คนร้ายปลอม Page Facebook ตำรวจแอบอ้างรับแจ้งความ
คนร้ายสร้าง Page Facebook ปลอมขึ้นมาโดยตั้งชื่อเพจเป็นหน่วยงานตำรวจหรือศูนย์ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และยังได้เผยแพร่โฆษณาผ่านทาง Facebook เพื่อเพิ่มโอกาสให้เหยื่อมองเห็น Page มากขึ้น โดยนำคลิปวิดีโอและเนื้อหาจากเพจตำรวจจริงมาใส่ในโฆษณาเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ เมื่อเหยื่อซึ่งมีประสงค์ที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายพบเห็น Page หรือโฆษณาดังกล่าวเข้า เหยื่อได้ติดต่อ Page ปลอมของคนร้ายไปเพื่อจะแจ้งความ คนร้ายจะให้เหยื่อแจ้งข้อมูลส่วนตัว ส่งหลักฐาน แล้วแอบอ้างว่าจะนำเงินที่เหยื่อถูกโกงไปมาคืนเหยื่อ แต่ต้องโอนเงินเป็นค่าดำเนินการ/ค่าล่อซื้อ/ค่าทนาย ฯลฯ ให้แก่คนร้ายที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สุดท้ายเหยื่อไม่ได้เงินที่ถูกหลอกไปคืน แถมยังเสียเงินเพิ่มจากการถูก Page Facebook ปลอมหลอกซ้ำอีก
#ตัวอย่าง Page Facebook ปลอมแอบอ้างเป็นตำรวจรับแจ้งความ
จุดสังเกต
1. ชื่อเพจมักเป็นชื่อหน่วยงานที่ไม่มีอยู่จริง หรือชื่อผิด
2. เพจปลอมไม่มีเครื่องหมายยืนยันตัวตนท้ายชื่อเพจ
3. เพจเหล่านี้มักสร้างมาไม่นาน หรืออาจเป็นเพจที่มีการซื้อต่อมาและเปลี่ยนชื่อในภายหลัง
4. คนร้ายพยายามปลอมยอดผู้ติดตามโดยพิมพ์เลขยอดคนกดถูกใจ/ติดตาม ไว้ที่รายละเอียดของเพจ
5. เพจแท้มีเครื่องหมาย blue tick ( ) จะอยู่หลังชื่อเพจ แต่เพจคนร้ายจะนำ blue tick ( ) มาใส่ไว้ที่หน้าภาพหน่วยงาน
วิธีป้องกัน
1. เพจจริงของทางตำรวจมีเครื่องหมายยืนยันตัวตนท้ายชื่อเพจและมีข้อมูลความโปร่งใสเพจครบถ้วน
2. เพจของทางตำรวจไม่มีการรับเรื่องร้องทุกข์/แจ้งความ/ส่งหลักฐานในการดำเนินคดีผ่านทางเพจ
3. แจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th เท่านั้น
4. หากมีข้อสงสัย/สอบถาม โทรปรึกษาศูนย์ AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับช่องทางรับรู้ข่าวสารเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่ สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com Facebook https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.go.th
ด้าน “ตำรวจไซเบอร์” แจ้งว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพได้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กแฟนเพจแอบอ้างหน่วยงานราชการมากมาย โดยมักอ้างว่าให้บริการรับแจ้งความออนไลน์ รับให้ความช่วยเหลือ หรือ รับให้คำปรึกษาแก่ประชาชนแบบออนไลน์ หากมีผู้หลงเชื่อ มิจฉาชีพจะใช้วิธีสร้างบัญชีโซเชียลมาพูดคุยกับเหยื่อโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สุดท้ายจะขอเอกสารประจำตัวเหยื่อโดยให้ส่งทางแชทพร้อมกับบอกให้โอนเงิน โดยใช้วิธีการข่มขู่ด้วยบทลงโทษทางกฎหมาย หรืออ้างเหตุผลต่างๆ เพื่อให้เหยื่อยอมโอนเงิน
ปัจจุบันสามารถสังเกตเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ตำรวจไซเบอร์” ของจริงได้ ดังนี้
1. สังเกตชื่อและเครื่องหมาย เพจแท้ชื่อ “ตำรวจไซเบอร์-บช.สอท.” มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า หรือ Meta Verified ยืนยัน
2. สังเกตยอดผู้ติดตาม เพจแท้มีผู้ติดตามกว่า 1.8 แสนคน (ระวังมิจฉาชีพพิมพ์ยอดผู้ติดตามของปลอมไว้ที่รายละเอียดของเพจ)
3. สังเกต URL โดยกดที่จุด 3 จุด กดที่ลิงก์เพจ เพจของแท้ URL หลังเว็บไซต์เฟซบุ๊กต้องเป็น /CybercopTH
4. สังเกตความโปร่งใสของเพจ เพจแท้ถูกสร้างเมื่อ 20 มกราคม ค.ศ.2021
ทั้งนี้ ตำรวจไซเบอร์ ไม่มีการรับแจ้งความผ่านเฟซบุ๊ก ไม่มีการรับแจ้งความผ่านแชทไลน์ ไม่มีการรับแจ้งความผ่าน direct message (DM) ของแอปใดใดทั้งสิ้น ถ้าเจอลักษณะนี้เมื่อไหร่ให้ท่องไว้ ว่ามันคือ “มิจฉาชีพ”
หากพี่น้องประชาชนท่านใดตกเป็นเหยื่อโจรออนไลน์ สามารถแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ (เฉพาะคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) ที่เว็บไซต์นี้เท่านั้น www.thaipoliceonline.go.th หากมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี