นายอำเภอพระธาตุพนม พร้อมดับเครื่องชนมาเฟีย ย้ำร้านค้างานนมัสการพระธาตุพนม ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ กรรมการวัดตีมึนโบ้ย อ้างไม่รู้เรื่องนายทุนผูกขาด
วันที่ 9 ม.ค.67 คืบหน้ากรณีวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระอารามหลวง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถึงแม้จะมีประเด็นข่าวแฉกลุ่มขบวนการนายทุนทำตัวเป็นมาเฟีย ผูกขาดการจัดพื้นที่ให้เช่าล็อกขายของ ในงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ที่จัดขึ้นทุกปีช่วงบุญเดือนสาม ขึ้น 8 ค่ำ-แรม 1 ค่ำ เดือน 3 และยังเป็นปัญหายืดเยื้อมานาน เกี่ยวกับมีกลุ่มนายทุนหากินกับวัด ใช้อภิสิทธิ์ในการผูกขาด เช่าแผงจำหน่ายสินค้าจากวัดพระธาตุพนม ในราคาประมาณล็อกละ 3,000-5,000 บาท เพื่อนำมาเช่าช่วงโกยกำไร เพิ่มมูลค่าขึ้นสูงตั้งแต่ 10,000-40,000 บาท นำส่วนต่างเข้ากระเป๋า ทำให้วัดถูกตำหนิจากคนภายนอก กล่าวหาว่ามีส่วนรู้เห็นกับขบวนการนี้ เพราะไม่มีการจัดประกวดราคา
นอกจากนี้จากราคาค่าเช่าล็อกแพงขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเป็นโดมิโน พ่อค้าแม่ค้าก็มีการปรับขึ้นราคาสินค้า เพื่อให้สมกับค่าเช่า ทำให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้ซื้อสินค้าแพง
เช่นเดียวกันกับปีนี้ จะมีการจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 17-25 กุมภาพันธ์ 2567 ช่วงนี้จึงพบว่ากลุ่มนายทุน เริ่มมีการเคลื่อนไหว วางแนวทางจับจองพื้นที่ตามอำเภอใจ เพื่อจัดเช่าแผงขายสินค้า บริเวณพื้นที่รอบวัดพระธาตุพนมฯทำให้มีแกนนำชาวบ้านบางส่วน ออกมาร้องเรียนต่อนายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบป้องกันการผูกขาดเช่าช่วงโก่งราคา ทั้งนี้ทางวัดอยู่ระหว่างการหารือแก้ไขปัญหา และวางแนวทางชัดเจน เพื่อแก้ไขปัญหา
ขณะเดียวกันนายอำเภอฯได้ลงพื้นที่ตรวจสอบยังพบว่า กลุ่มนายทุนอ้างว่ารับการว่าจ้างจากวัดพระธาตุพนมฯ ให้มาดำเนินการตั้งแผง แต่ไม่มีการแสดงเอกสารหลักฐาน การทำสัญญาว่าจ้าง แถมยังอ้างว่าประมูลให้มาตั้งแผงโครงเหล็ก และหลังคาเช่าสินค้า ขนาดห้องกว้างประมาณ 3 เมตร ยาว 4 เมตร ราคาห้องละ 700 บาท โดยวางตามพื้นที่ถนนหน้าวัด รวมถึงริมฟุตบาททางเท้าตามถนน ในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม โดยพบอีกว่าเป็นนายทุนคนเดิมที่เคยทำมานานนับ 10 ปี แต่ถึงขนาดนี้ยังไม่มีเอกสารหลักฐานจากวัด ว่าเป็นการประมูลหรือการทำแบบผูกขาด
สอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ค้า เปิดเผยว่าปกติพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ จะมาวางขายของสินค้าพื้นเมือง รวมถึงอาหารน้ำดื่ม แบบวางขายชั่วคราว ตามถนนเส้นหน้าวัดพระธาตุพนม แต่พอช่วงงานจะถูกไล่ออกจากพื้นที่เดิม เพราะมีการจัดล็อกห้องเช่าทุกปี ในส่วนของพื้นที่หน้าวัดจะแบ่งโซน คือ ขายสินค้าพื้นเมือง แบบให้พ่อค้าแม่ค้า ในพื้นที่เช่ากับวัด ไม่มีการประมูล ใช้ระบบความคุ้นเคย คนไหนสนิทสนมกับกรรมการวัดจะได้คิวก่อน ในราคาค่าเช่าห้องละ 3,500 บาท แต่พื้นที่โซนอื่นที่ขายของทั่วไป จะมีราคาแตกต่างกัน มีราคาประมาณ 5,000 – 6,000 บาท ยอมรับว่ามีการเช่าช่วงโก่งราคาจริง บางรายมีการปล่อยช่วงให้ พ่อค้าแม่ค้าต่างถิ่นมาเช่าสูงถึง 30,000-40,000 บาท เพราะทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาทุกปี จึงเกิดกลุ่มมาเฟียนายทุนผูกขาด ชาวบ้านทั่วไปเข้าไม่ถึง แม้กรรมการจะออกมาปฏิเสธ อ้างไม่มีส่วนรู้เห็นกับการตั้งล็อกครั้งนี้ แต่ชาวบ้านคนในพื้นที่รู้ดีที่สุด มิฉะนั้นคงไม่มีการผูกขาดมานานนับสิบปีเช่นนี้
ด้านนายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม เปิดเผยว่า สิ่งสำคัญในการจัดระเบียบการค้าขาย งานนมัสการองค์พระธาตุพนม คือ ความชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้ ในการเปิดแผงเช่าขายสินค้าของหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงคณะกรรมการวัด เพราะตนในฐานะพ่อเมืองธาตุพนมและต้องการส่งเสริม สร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ให้ประชาชนได้ซื้อสินค้า กินอาหารในราคาถูก จึงจำเป็นต้องมีการจัดระเบียบ โดยตนไม่ได้กล่าวหาใครว่ามีผลประโยชน์ หรือเป็นนายทุนมาเฟีย
แต่ที่ผ่านมายอมรับไม่มีความโปร่งใสในการบริหารจัดการ จึงต้องการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ตัดวงจรการโก่งราคาแผงเช่าขายสินค้า เพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัว เงินทุกบาททุกสตางค์ต้องเข้าวัดเป็นส่วนรวม ไม่ใช่เข้ากระเป่านายทุน หากถามว่าหนักใจหรือไม่ ที่ถูกนายทุนวิ่งเต้นโยกย้ายให้ออกจากพื้นที่ เพราะขวางทางทำมาหากิน ยืนยันว่าไม่หนักใจ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ทำถูกต้อง เพื่อส่วนรวม และเชื่อมั่นกระทรวงมหาดไทยมีคุณธรรมพอ ที่สำคัญตนเป็นลูกหลานชาวอำเภอธาตุพนม จะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี