กสม.ชงข้อเสนอแนะถึง‘รมว.ยุติธรรม’ เน้นย้ำปฏิบัติ‘ผู้ต้องขัง’ตามหลักสากล แนะใช้เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยสูงอายุ แทนใส่กุญแจเท้า
11 มกราคม 2567 นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงถึงกรณี กสม.ทำข้อเสนอแนะไปยังพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่องการเน้นการปฏิบัติให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ต้องขังให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล หลังได้มีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวของกรมราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ห้องกักตรวจคนเข้าเมือง และห้องซักถามในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงเรือนจำกลางจังหวัดสงขลา โดยรับทราบข้อเท็จจริงและปัญหาพบว่าสภาพความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังสูงอายุซึ่งเป็นผู้ป่วยอยู่ระหว่างเตรียมออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอกเรือนจำไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างปกติ จากอาการบาดเจ็บและถูกใส่กุญแจข้อเท้าทั้งสองข้าง อีกทั้งพื้นที่เรือนจำสงขลารองรับผู้ต้องหาที่ความจุ 1.2 ตารางเมตรต่อคน ต่ำกว่ามาตรฐานของกรมราชทัณฑ์ที่กำหนดไว้ 1.6 ตารางเมตรต่อคน และต่ำกว่ามาตรฐานสากล ที่ 2.25 ตารางเมตรต่อคน และไม่มีห้องสำหรับปรึกษาคดีโดยเฉพาะเพื่อให้บริการแก่นักโทษและทนายความ และเจ้าหน้าที่เรือนจำสงขลาต้องการให้เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินค่าอาหารผู้ต้องขังให้ทันตามกำหนด และเพิ่มงบค่าอาหารผู้ต้องขัง
ทั้งนี้ กสม.ได้พิจารณาข้อกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนแล้วเห็นว่าการดูแลและปฏิบัติต่อผู้ต้องขังต้องให้สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศถือว่ามีความสำคัญ เพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศและเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองกับประเทศที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ แลไม่ห่างผลกระทบต่อการเข้าเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สหประชาชาติ วาระปี 2568-2670
กสม.จึงมีมติให้ส่งข้อเสนอแนะหรือแนวทางในการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยธรรมไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการในการดูแลผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยจนไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างปกติ ควรให้เจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยอย่างใกล้ชิดแทนการใช้เครื่องพันธนาการ ซึ่งเป็นมาตรการที่เพียงพอและเหมาะสมแก่กรณี ขณะที่เรือนจำกลางสงขลาควรเพิ่มพื้นที่ห้องควบคุมให้สอดคล้องตามมาตรฐานสากล โดยการบริหารจัดการในทางกายภาพ เช่น การกระจายผู้ต้องขังไปยังเรือนจำอื่น และจัดห้องทนายความเพื่อให้ผู้ต้องขังปรึกษาหารือกับทนายความของตนได้เป็นการเฉพาะและเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ควรเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกำหนดเวลาไม่ให้ค้างจ่าย อีกทั้ง พิจารณาค่าอาหารผู้ต้องขังให้เหมาะสมกับการส่งเสริมโภชนาการและค่าครองชีพในปัจจุบันด้วย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี