ศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งคุก ‘อานนท์’กับพวก 4 รายชุมนุมม็อบ 18 พฤศจิกาไปราษฎรประสงค์ หน้าสำนักงาน ตร.ฐานร่วมกันมั่วสุมฯคนละ 1 เดือน ปรับคนละ 2 หมื่น โทษจำคุกรอลงอาญา-ขณะที่ ‘ไผ่’โชคดีศาลยกโทษจำคุกให้หลังรอลงอาญาไม่ได้โดนกระทำผิดซ้ำ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 มกราคม ที่ห้องพิจารณาคดี 505 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุงศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีร่วมกันชุมนุม ม็อบ 18 พฤศจิกา ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอานนท์ นำภา อาชีพทนายความ นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ร่วมกันเป็น จำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐาน ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้สั่งการ ,ร่วมกันชุมนุมใดๆ โดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ,พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง,พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะตลอดจนผู้ชุมนุมไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 385 ,ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวาง หรือทอดทิ้งสิ่งของ หรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด,พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 19 ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆ บนถนน,พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 12 ร่วมกันขูด กระเทาะ ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใดๆ บนถนน,ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่,ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน,ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ร่วมกันทําให้เสียทรัพย์ กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ม็อบการชุมนุม 18 พฤศจิกา ไปราษฎรประสงค์ บริเวณสี่แยกราชประสงค์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
วันนี้ศาลได้เบิกตัวนายอานนท์ จำเลยที่ 1 จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ขณะที่จำเลยอื่นที่ได้ประกันตัวเดินทางมาศา
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานโจทก์เเล้วเห็นว่า พวกจำเลยมีความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้สั่งการ ที่จำเลยอ้างว่า ที่มีการปาสีใส่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติเพราะมีการฉีดน้ำสลายการชุมนุมเมื่อ 1 วันก่อน จึงมาชุมนุมปาสีที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาตินั้นศาลเห็นว่าที่จำเลยอ้างว่า เป็นการโต้ตอบการกระทำนั้น ฟังไม่ขึ้น ย่อมถือว่าเป็นเจตนาของจำเลยเอง
การกระทำของจำเลยทั้งสี่ เป็นกระทำผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 วรรคสาม ซึ่งเป็นการมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวาย
พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1,2 เเละ 4 คนละ 1 เดือนปรับคนละ 20,000 บาท ในส่วนของจำเลยที่ 4 ซึ่งเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนให้บวกโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 1 เดือน10 วัน เเละปรับ 26,000 บาท แต่เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาที่จะบุกเข้าไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นการชุมนุมสาธารณะปราศจากอาวุธมีการปาสีเพียง 20 นาทีก็ยุติการชุมนุม เป็นการเเสดงออกทางสัญลักษณ์ จึงให้รอการลงโทษจำเลยที่ 1,2เเละ4 มีกำหนด 2 ปี
ส่วนจำเลยที่ 3 ซึ่งไม่อาจรอการลงโทษได้ เนื่องจากจำเลยที่ 3 เคยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดมาก่อนจึงไม่อาจรอการลงโทษได้ เห็นสมควรให้ยกโทษจำคุกเสียตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 55 ส่วนข้อหาอื่นยกฟ้องจำเลยทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี