‘อธิบดีปศุสัตว์’ยันไม่รู้จัก‘เฮียเก้า’ ปฏิเสธจัดสรรโควตาบริษัทขายส่งตีนไก่ไปจีน ด้าน‘ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ’ย้ำเจ้าหน้าที่เกษตรฯ พร้อมให้ข้อมูล‘ดีเอสไอ’ทุกเรื่อง โต้มาพบ‘รมว.ยุติธรรม’ขอเบรกหมายจับ ลั่นมีหลักฐานถึงคนในกระทรวงเกษตรฯออกหมายจับได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ ขณะที่‘ทวี สอดส่อง’ยันไม่กดดัน
เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 16 มกราคม 2567 ที่อาคารกระทรวงยุติ ธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ , นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลนนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ประมาณกว่า 10 คน เข้าพบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือและส่งมอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการสวมสิทธิ์ส่งออกตีนไก่ไปจีน ในประเด็นการประสานข้อมูลและความร่วมมือในการคลี่คลายคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีเนื้อสัตว์เถื่อนกว่า 10,000 ตู้ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
นายสัตวแพทย์สมชวน ยืนยันว่า การเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในวันนี้ เป็นเพียงการหารือและแสดงถึงความพร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูลในการตรวจสอบขบวนการลักลอบนำเข้าและส่งออกเนื้อสัตว์เถื่อนให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
“ยืนยันว่าไม่รู้จักหรือมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ เฮียเก้า หรือนายหลี่ หนึ่งในผู้ต้องหาขบวนการลักลอบสวมสิทธิ์ตีนไก่ เนื่องจากกรมปศุสัตว์ต้องประสานงานกับเอกชนมากมายในการค้าระหว่างประเทศ จึงเป็นธรรมดาที่จะรู้จักกับบุคคลต่างๆมากมายที่เข้ามาพูดคุยและขอถ่ายรูป นอกจากนี้ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์พยายามปราบปรามขบวนการหมูเถื่อนอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าในช่วงที่มีคดีเรื่องหมูเถื่อน ผมดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง ไม่มีอำนาจสั่งการกรมปศุสัตว์” นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าว
ด้านนายธนดล กล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้นำข้าราชการในสังกัดเข้ามาพบและหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยอมรับว่าคดีดังกล่าวสร้างความคลางแคลงใจต่อการปฏิบัติงานของกระทรวง และส่งผลกระทบต่อการส่งออกตีนไก่ และผู้ประกอบการที่กระทำถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากกรมสอบสวนคดีพิเศษต้องการข้อมูล หรือพยานหลักฐานในด้านใด สามารถทำหนังสือแจ้งมายังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูล
“ไม่ปฏิเสธว่ามีเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ ทุกองค์กรล้วนมีคนไม่ดี แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีหนังสือสั่งการแล้วว่าหากพบข้าราชการในกระทรวงที่ทุจริต นอกจากจะถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีตามมาตรา 157 ด้วย และหากพบพยานหลักฐานก็สามารถออกหมายจับได้เลย” นายธนดล กล่าว
ด้านนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จากการพูดคุยในวันนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้ยืนยันว่าจะดำเนินการตามพยานหลักฐานที่แท้จริง ไม่มีการปกป้องผู้ใดเป็นพิเศษและไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง หลังจากนี้หากอธิบดีกรมปศุสัตว์และคณะประสงค์จะเข้ามาชี้แจงรายละเอียดก็สามารถดำเนินการได้ ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือจะทำเอกสารชี้แจงในภายหลัง และยืนยันว่าการขอเข้าพบเพื่อขอไม่ให้ออกหมายจับอธิบดีกรมปศุสัตว์นั้นไม่เป็นความจริง หากเป็นเรื่องจริงคงเจรจากันในทางลับ ไม่แจ้งให้สื่อมวลชนมาทำข่าว และคงไม่มีใครกล้ามาขอ เรื่องนี้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และขณะนี้ยังไม่มีขั้นตอนการออกหมายเรียกข้าราชการระดับสูงตามที่เป็นกระแสข่าว ส่วนหลังจากนี้จะพิจารณาออกหมายเรียกใครบ้างนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า จะไม่มีการกดดันพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษในการทำคดีมีเพียงการให้กำลังใจเสียมากกว่า แต่ไม่ขอตอบในรายละเอียดของคดีเนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการชี้นำ ขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคลิปเสียงของนายมานพ ผู้สื่อข่าวพิเศษสำนักข่าวแห่งหนึ่งกับอดีตอธิบดีกรมปศุสัตว์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเจรจาวิ่งเต้นคดี พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการตรวจสอบ เพราะหลักฐานต่างๆสามารถนำมากล่าวอ้างได้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับ ร.อ.ธรรมนัส หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ยอมรับว่ามีการพูดคุยกัน และ ร.อ.ธรรมนัส ยินดีที่จะร่วมมือสนับสนุนข้อมูลทุกอย่าง หากต้องการข้อมูลก็สามารถติดต่อมาได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี