แขวงทางหลวงชนบทสั่งเจ้าหน้าที่นำแผงมาปิดกั้นห้ามรถผ่านบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง "ท่าชุมพล–คลองข่อย" ตำบลคลองข่อย อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรีชั่วคราว หลังเกิดสะพานทรุดตัว 50 เซนติเมตร (ซม.) หวั่นไม่ปลอดภัย ชาวบ้านเผยสาเหตุที่ทำให้สะพานทรุดตัวคาดเกิดจากรถบรรทุกน้ำหนักเกินขนาดใหญ่ทั้งรถสิบล้อ รถพ่วง รถบรรทุกอ้อยที่วิ่งหลบด่านตรวจชั่งน้ำหนักตัดเข้ามาข้ามสะพานแห่งนี้
วันนี้ (23 ม.ค.67) เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบท ได้นำแผงกั้นมาวางปิดถนนบริเวณทางขึ้นสะพานท่าชุมพล-คลองข่อย พ.ศ.2547 ข้ามแม่น้ำแม่กลองหมู่ที่ 4 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ทั้ง 2 ฝั่ง หลังเกิดปัญหาทรุดตัวของสะพานประมาณ 50 เซนติเมตร (ซม.) มีสภาพแตกร้าวหลายจุดจนเห็นเหล็กเส้นที่หุ้มตัวคานสะพาน ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านยังคงขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์ผ่านในเส้นทางดังกล่าวกันตามปกติ เนื่องจากไม่รู้ว่ามีปัญหาสะพานทรุดตัวเกิดขึ้น
แต่เมื่อวันนี้ เจ้าหน้าที่มีการนำแผงมาปิดกั้นขวางถนนแล้ว ก็จะทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านไม่ได้เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทได้ตรวจสอบสภาพความปลอดภัยเสียก่อน พร้อมทั้งจะได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่สัญจรไปมาไปใช้สะพานเพื่อข้ามฝั่งแม่น้ำแม่กลองที่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.โพธาราม และ อ.บ้านโป่ง อ.เมืองได้
นายองการค์ ชาวบ้านพื้นที่หมู่ที่ 4 เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้สะพานทรุดตัวคาดว่าเกิดจากรถบรรทุกหนักเกินน้ำหนักขนาดใหญ่ที่เป็นรถบรรทุกอ้อยจะวิ่งมาจากไร่อ้อยแล้วตัดเข้ามาข้ามสะพานแห่งนี้ไปยังโรงงานน้ำตายในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง นอกจากนี้ยังมีรถที่วิ่งหลบด่านตรวจชั่งน้ำหนักที่อยู่แถวๆ ด่านช่างบางลาน มีทั้งรถสิบล้อ รถพ่วงวิ่งมาทางนี้ด้วย พอวิ่งหลบด่านมาแล้วก็จะวิ่งเข้าด้านหลังด่าน ผ่านเส้นทางคลองชลประทานผ่านหลังด่านเพื่อเข้าเส้นทางหลัก รถที่วิ่งจะเป็นรถที่บรรทุกหนักจะวิ่งผ่านเส้นทางนี้เพื่อไปออก อ.บ้านโป่ง ต่อไปที่ จ.กาญจนบุรีได้
"สะพานนี้ลักษณะน่าจะเป็นสะพานถนนที่สร้างมาให้รถในชุมชนวิ่งผ่าน ไม่ได้รองรับเส้นทางหลักใหญ่ ระดับรถพ่วงน้ำหนักประมาณ 30 ตัน บรรทุกอ้อย ช่วงกลางคืนจะเจอบ่อยมาก รถที่มาจากต่างจังหวัดจะมากลางคืนด้วย เป็นสาเหตุที่ทำให้สะพานทรุด เจอรถบรรทุกหนักก็รองรับไม่ไหว"
ด้านนายเรืองนาม เทียมเสมอ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ แขวงทางหลวงชนบทราชบุรี เปิดเผยว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาได้ดำเนินการทดสอบตรวจสอบสภาพความเสียหายแล้วว่าเป็นอย่างไร มีการเช็คระดับดูว่ามีการทรุดตัวมากน้อยแค่ไหน เบื้องต้นได้ดำเนินการแก้ไข โดยการถ่ายระดับ มีการเช็คระดับไว้แล้ว และจะดำเนินการต่อไปอีก 1 อาทิตย์ว่าจะมีการทรุดตัวมากแค่ไหนอีก ส่วนเรื่องการแก้ไขระยะยาวทางแขวงฯได้ดำเนินการผ่านไปที่กรมทางหลวงชนบทแล้ว ทางกรมจะส่งเจ้าหน้าที่มาภายในอาทิตย์นี้ เพื่อมาดูว่าเกิดการทรุดตัวอย่างไร อยู่ที่เข็มหรืออยู่ที่ตัวตอม่อสะพานหรืออย่างอื่น ส่วนการปิดการจราจรเบื้องต้นจะให้รถจักรยานยนต์วิ่งผ่านได้ก่อน และจะเช็คระดับสะพานว่ามีการทรุดตัวมากน้อยแค่ไหน
"ต่อจากนั้นอีก 1 อาทิตย์จะให้รถยนต์กะบะรถ 4 ล้อเล็กวิ่งผ่านก่อนและจะเช็คระดับอีกครั้ง จะเช็คระดับต่อไปเรื่อยว่าจะทรุดตัวอีกแค่ไหน หรือไม่ ถ้าไม่ทรุดตัวมากนักก็จะให้รถใหญ่ ที่มีน้ำหนักไม่เกินที่กำหนดวิ่งขึ้นสะพานได้บางคัน"
นายเรืองนาม กล่าวต่อว่า สำหรับสภาพที่เห็นตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ยังพอผ่านได้ แต่ไม่ต้องการให้เสียหายมากขึ้นจึงต้องป้องกันไว้ก่อน ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2551 เคยเกิดการทรุดตัวมาแล้วมีการแก้ไขไปแล้ว ส่วนครั้งนี้มีการทรุดตัวมากขึ้นน่าจะเกิดจากฐานล่างเป็นเสาเข็มแล้วมีการเคลื่อนตัวของน้ำแล้วพัดทรายที่อยู่ก้นเสาเข็มออกไป ทำให้ชั้นของเข็มทรุดตัวลงไปด้านล่าง ส่วนกรณีมีชาวบ้านบอกว่ามีรถบรรทุกหลบด่านวิ่งผ่านนั้นมันก็มีส่วนเพราะน้ำหนักที่กำหนดไว้ประมาณ 25 ตัน รถถ้าน้ำหนักเกิน 25 ตันก็มีผล ส่วนรถบรรทุกอ้อยอาจจะมีน้ำหนักเกินก็ได้ ก็มีผลอยู่บ้าง แต่ไม่รู้ว่าผลเกิดขึ้นจริงแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบทจะได้ประชาสัมพันธ์ ผ่านเฟซบุ๊ก สื่อโซเชียลต่างๆ ในการประกาศให้ประชาชนรับทราบ และจะนำป้ายประชาสัมพันธ์มาติดการเตือนใช้เส้นทาง การประชาสัมพันธ์ใช้ทางลัด ทางเลี่ยงผู้ใช้รถใช้ถนนทราบ แต่ตอนนี้จะให้ใช้แค่รถจักรยานยนต์ข้ามผ่านได้ก่อนเท่านั้น โดยชาวบ้านสามารถวกรถกลับไปใช้เส้นทางได้อีกประมาณ 2 กม. มีสะพานแบบนี้อีก 1 ตัว ซ้าย ขวา หรือจะใช้สะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง - วัดไทรอารีย์รักษ์ เป็นสะพานที่ห่างออกไปอีก 2 กม.ได้เช่นกัน และจะวกกลับมาในเส้นทางที่คู่ขนานกับลำคลองติดแม่น้ำแม่กลองได้ เพื่อเข้าชุมชนในพื้นที่เชื่อมต่อกันได้ตามปกติ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี