สุดเศร้า! เผยผลผ่าซากแม่เต่ามะเฟืองเกยตื้นหาดท้ายเหมือง พบถูกเชือกที่เป็นลอบดักสัตว์น้ำรัดลำคอและใบพายทั้งสองข้างจนจมน้ำตาย พบในท้องมีไข่กว่า 136 ฟอง คาดเป็นแม่ท้ายเหมือง ที่จะขึ้นมาวางไข่ในฤดูกาลนี้
เมื่อวันที่ 24 ม.ค.2567 จากกรณีพบชาวบ้านในพื้นที่พบซากเต่าทะเลถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นชายหาดปาง ภายในอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่าเป็นซากเต่ามะเฟือง เพศเมีย มีเชือกพันรัดอยู่ที่ลำคอ และพายหน้าทั้ง 2 ข้าง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เต่าเสียชีวิต จึงได้เคลื่อนย้ายซากเต่ามาที่ทำการอุทยานฯ พร้อมประสานไปยังศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย และเก็บข้อมูลเชิงวิชาการต่อไปนั้น
ล่าสุด สัตวแพทย์หญิงพัชราภรณ์ แก้วโม่ง หัวหน้าศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหาหายากสิรีธาร ได้ผ่าพิสูจน์ซากเต่า พบเป็นเต่ามะเฟืองตัวเมีย วัดขนาดกระดองความกว้าง 105 ซม. ยาว 181 ซม. ถูกเชือกไนลอนสีเหลืองรัดลำคอและใบพายหน้าทั้งสองข้างอยู่หลายรอบ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เต่าจมน้ำตาย เมื่อผ่าท้องออกมาพบว่ามีไข่อยู่ในท้อง คาดว่าตายแล้วมากกว่า 4 วัน
นายปรารพ แปลงงาน อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง กล่าวว่า สาเหตุการตายของเต่ามะเฟืองนั้นเกิดจากการว่ายน้ำไปติดเชือกผูกลอบจับสัตว์น้ำของชาวประมงที่วางไว้ในทะเล เบื้องต้นคาดว่าเป็นแม่เต่ามะเฟืองหนึ่งในสามตัวที่ขึ้นมาวางไข่ในฤดูกาลนี้ และจากการดูวงรอบการวางไข่แล้ว น่าจะเป็นแม่ท้ายเหมือง ที่ขึ้นมาวางไข่แล้ว 4 ครั้งในฤดูกาลนี้ นับว่าเป็นความสูญเสียที่น่าเศร้าเป็นอย่างมาก
ขณะที่ ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า "กรณีพบเต่ามะเฟืองตายหาดท้ายเหมือง ผลการชันสูตรเบื้องต้นพบเป็นแม่เต่าเฟืองที่มีไข่ในท้อง ความยาวกระดอง 139 ซม หากคาดการณ์จากวงรอบการวางไข่ของแม่เต่ามะเฟืองชื่อ “ท้ายเหมือง“ ซึ่งครบกำหนดในระหว่างวันที่ 15-17 มกราคม 2567 แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่พบเห็นการขึ้นวางไข่ เมื่อเทียบเคียงกับจำนวนเวลาที่เต่ามะเฟืองตายมาแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นแม่เต่ามะเฟืองท้ายเหมือง ทั้งนี้การเปรียบเทียบข้อมูล mtDNA ของเต่ามะเฟืองตัวที่ตายกับลูกเต่าที่ฟักจะสามารถยืนยันได้ต่อไป
การสูญเสียแม่เต่ามะเฟืองแต่ละตัวเท่ากับการสูญเสียลูกเต่ามากกว่าหมื่นตัว ที่ตลอดชั่วชีวิตของแม่เต่าสามารถขยายพันธุ์ได้ การอนุรักษ์และปกป้องแม่เต่ามะเฟืองในช่วงการเข้ามาวางไข่ รวมถึงการปกป้องพ่อพันธุ์เต่าที่เข้ามารอผสมพันธุ์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก แม้ในบ้านเราจะยังไม่ประสบความสำเร็จในการติดตามการอพยพของแม่เต่ามะเฟือง แต่หากเทียบเคียงกับข้อมูลทีมีการศึกษาในต่างประเทศด้วยเครื่องส่งสัญญาณดาวเทียมพบว่าแม่เต่ามะเฟืองจะว่ายน้ำเป็นวงรอบ (loop) ในรัศมีประมาณ 80 กิโลเมตร ทั้งนี้แตกต่างกันไปตามลักษณะภูมิศาตร์และทิศทางการไหลของกระแสน้ำ เมื่อนำข้อมูลนี้มาจำลองบนแหล่งวางไข่ของประเทศไทยโดยมีศูนย์กลางบริเวณหาดท้ายเหมือง และไกลออกไปจากฝั่งถึงบริเวณร่องน้ำลึก ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าระหว่างช่วงเวลา 10 วันที่แม่เต่าจะย้อนกลับมาวางไข่ แม่เต่ามะเฟืองอาจว่ายไปไกลถึงหมู่เกาะสุรินทรฺ์ (หรือเหนือกว่า) และใต้สุดถึงบริเวณตอนใต้ของภูเก็ต
จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าในช่วงใกล้ขึ้นวางไข่ แม่เต่ามะเฟืองจะว่ายเข้ามาใกล้ฝั่งในรัศมีประมาณ 6 กิโลเมตร ทำให้เป็นพื้นที่เปราะบางและมีความเสี่ยงต่อการติดเครื่องมือประมงหรือเกี่ยวพันรัดกับขยะทะเลที่มีมากบริเวณใกล้ฝั่ง ในกรณีที่ผ่านมาของช่วงปลายปี 2566 ถึงต้นปี 2567 เราพบการเกยตื้นแล้วรวม 3 ครั้ง โดยเป็นการเกยตื้นที่เกิดจากการรัดพันของเชือกลอบเพียงเส้นเดียวถึง 2 ครั้ง ในขณะที่อีกครั้งเป็นการติดอวน ถึงแม้ว่าจากการเกยตื้นทั้งสามครั้ง มีเพียงตัวเดียวที่เสียชีวิต และเต่า 2 ตัวได้รับการช่วยเหลือให้กลับสู่ทะเลได้ แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดการสูญเสียแบบนี้อีก
ระยะเร่งด่วนน่าจะมีการสำรวจและลาดตระเวณพื้นที่ทางทะเลในรัศมี 6 กิโลเมตรจากฝั่ง เพื่อตรวจหาแม่เต่าที่รอขึ้นวางไข่ ตรวจสอบและแจ้งเตือน รวมถึงขอความร่วมมืองดใช้เครื่องมือประมงที่เป็นอันตรายในพื้นที่ๆพบแม่เต่า หรือให้มีการเฝ้าระวังประจำเครื่องมือเพื่อช่วยได้ทันกรณีติด การสำรวจและลาดตระเวณอาจใช้อากาศยานไร้คนขับร่วมกับทางเรือและจากบนหาด โดยเน้นพื้นที่บริเวณหน้าแหล่งวางไข่สำคัญ ในระยะยาวควรมีการประกาศพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่มีมาตรการลดภัยคุกคามต่อเต่าทะเล โดยเฉพาะพื้นที่ทางทะเลหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดท้ายเหมือง และหน้าหมู่เกาะพระทอง รวมกับการปรับเปลี่ยนหรือดัดแปลงเครื่องมือประมงบางประเภทให้มีความปลอดภัยกับเต่าทะเล"
ขณะที่ทางอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ได้โพสต์ผลการผ่าพิสูจน์ผ่านทางเฟซบุ๊ก "อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง Khao Lampi-Hat Thai Mueang NP" โดยระบุว่า
"จากการผ่าพิสูจน์ซากเต่าโดยสัตว์แพทย์พบว่าเต่ามะเฟืองที่ตายเกยตื้นบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา พบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากเชือกที่พันรัดบริเวณคอของเต่า ทำให้เต่าจมน้ำตาย จากหลักฐานปอดได้รับความเสียหาย ซากเริ่มเน่าและยังพบไข่ที่กำลังพัฒนา และไข่ที่สมบูรณ์อยู่ในรังไข่จำนวน 136 ฟอง ซึ่งถือเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญของสัตว์ทะเลที่มีขนาดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง"
ขอบคุณโพสต์จาก : อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง Khao Lampi-Hat Thai Mueang NP, Kongkiat Kittiwatanawong
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี