โรงเรียนของหนู! ตะลึงทั้ง รร.มีครูคนเดียว ผอ.แก้สถานการณ์ คว้าธุรการสวมบทครู วอน ศธ.ให้ความสำคัญ รร.เล็กๆ ด้วย
เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานเรื่องราวเกี่ยวกับการศึกษาของไทย ว่า พัฒนาก้าวไกลมากน้อยแค่ไหน เพราะยังมีหลงเหลือเหมือนอยู่ในยุคกระดานชนวน กล่าวคือในพื้นที่จังหวัดนครพนม พบโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลตัวจังหวัดมากนัก แต่คล้ายอยู่ห่างไกลปืนเที่ยง ได้แก่ โรงเรียนบ้านดงโชค หมู่ 1 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เพราะทั้งโรงเรียนมีครูสอนอยู่คนเดียว รับผิดชอบการเรียนการสอนนักเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาล 2 ถึงระดับประถม 6 รวมทั้งสิ้น 19 คน
โดยนายสุนทร ผูนา ผู้ใหญ่บ้านดงโชคหมู่ 1 เปิดเผยว่าโรงเรียนแห่งนี้ชาวบ้านร่วมกันบริจาคที่ดินก่อสร้าง เริ่มจากปี 2484-2548 มีครูใหญ่ 6 คน จากนั้นก็เปลี่ยนผู้บริหารมาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน(ผอ.) ถึงขณะนี้มี 3 คน ปัจจุบันมีนายศุภมาศ กุลตังวัฒนา เป็น ผอ. ขณะที่นักเรียนส่วนใหญ่เป็นลูกหลานที่พ่อแม่มาฝากปู่ย่าตายายเลี้ยง หรือมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ที่มีอาชีพเป็นเกษตรกร ดังนั้นผู้ปกครองจึงนำลูกหลานมาฝากครู ขณะออกไปทำงานในไร่นา
นายสุนทร ยังกล่าวถึงเรื่องการขาดแคลนอีกว่า งบประมาณที่ได้มีไม่มาก ชาวบ้านจึงลงขันกัน เช่น จัดผ้าป่าสามัคคี ได้เงินมาก็มอบให้ ผอ. ไปซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอน เหมือนกล้องวงจรปิดก็เป็นเงินที่ได้จากการตั้งผ้าป่า ถ้ารอเงินจากหลวงตกมาคงยาก
ด้านนายศุภมาศ กุลตังวัฒนา ผอ.โรงเรียนบ้านดงโชค กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่ทั้งโรงเรียนมีครูคนเดียว คือ น.ส.ธัญลักษณ์ ดีจันทร์ อายุ 23 ปี ตำแหน่งครูผู้ช่วย ที่เพิ่งบรรจุเป็นข้าราชการครู เมื่อเดือนพฤศจิกายน 66 ที่ผ่านมา ส่วนคนเก่าย้ายไปสอนโรงเรียนใหม่ เพราะสอบบรรจุได้ วิธีแก้ไขก็เอาพนักงานราชการที่ปกติทำหน้าที่อื่นมาช่วยสอน รวมถึงการทำความสะอาดห้องน้ำ ยอมรับว่าทุลักทุเลพอสมควร ทุกคนแทบไม่มีสิทธิ์ลา หากคนใดคนหนึ่งป่วย ความโกลาหลจะเกิดขึ้นทันที เคยให้ผู้เรียนจบปริญญาตรีในหมู่บ้านมาช่วยสอน ก็ถูกดราม่าจนต้องยกเลิกไป ในขณะที่งบประมาณได้มาเพียงปีละ 3 หมื่นบาทเศษเท่านั้น
ส่วนกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2542 กรณีครูไม่ต้องเข้าเวรแล้ว หลังเกิดเหตุรุนแรงกับครูถูกทำร้ายในพื้นที่ จ.เชียงราย ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมาก และเห็นว่ารัฐบาลควรยกเลิกมตินี้นานแล้ว ที่ผ่านมาครูต้องมาอยู่เวรในวันหยุด โดยครูผู้หญิงอยู่เวรกลางวัน และครูผู้ชายอยู่เวรกลางคืน
ขณะที่น.ส.ธัญลักษณ์ ดีจันทร์ ครูผู้ช่วย กล่าวว่า ชั้นอนุบาล 2-3 ทาง ผอ.มอบให้ น.ส.สุภาพร อินคง เจ้าหน้าที่ธุรการดูแล ตนเองรับผิดชอบชั้น ป.1-ป.3 ส่วนนายสมบัติ โสมี พนักงานราชการที่ขอตัวมาสอนชั้น ป.4-ป.6 การสอนจะดูที่แต่ละวิชาว่าสามารถสอนรวมกันได้หรือไม่ ถ้ารวมได้ก็จะเอานักเรียนมาเรียนรวมกัน ยอมรับว่าเหนื่อย แต่เห็นหน้าน้องๆ แล้วรู้สึกมีพลัง เป็นไปได้อยากให้มีครูมาเพิ่ม การเรียนการสอนก็จะมีประสิทธิภาพ
ด้านนายสมบัติ โสมี อายุ 33 ปี เปิดเผยว่าเด็กที่นี่ขาดโอกาส จึงเพิ่มทักษะการเรียนรู้ เพราะคำนึงถึงอนาคตของพวกเขา แม้ทางโรงเรียนได้รับงบประมาณมาน้อยนิด แต่ต้องการให้ลูกหลานเปิดโลกทัศน์กว้างขึ้น จึงจัดทัศนะศึกษาไปยังจังหวัดใกล้เคียง ค่าจ้างเหมารถตกประมาณ 1 หมื่นบาท เป็นเงินงบประมาณที่ได้จากรัฐ แต่ทุกคนต้องกินจึงให้นักเรียนห่อข้าวจากบ้านไปด้วย ส่วนกับข้าวช่วยกันควักกระเป๋าคนละเล็กละน้อย และอีกส่วนหนึ่งได้จากงบอาหารกลางวันของเทศบาลตำบลหนองญาติ ที่ช่วยเหลืออยู่ก่อนแล้ว ตนได้เห็นน้องๆ ตื่นเต้นกับบันไดเลื่อนห้างสรรพสินค้า เพราะพวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน จึงอยากให้เขาได้รับการพัฒนาการที่ดีกว่านี้
นอกจากนี้ นายศุภมาศ กุลตังวัฒนา ผอ. ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยงบประมาณมีน้อย จึงต้องไปขอความอนุเคราะห์จากหลายหน่วยงาน เช่น กรมทางหลวง ทหาร ตำรวจ ฯลฯ ด้านอุปกรณ์ทางการกีฬา หรือสิ่งของที่เกี่ยวกับการเรียนการสอน ยังดีที่มีผู้ปกครองของน้องๆ มาช่วยกันทำความสะอาด จึงอยากให้กระทรวงศึกษาธิการเหลียวมอง และให้ความสำคัญโรงเรียนขนาดเล็ก น้องๆ เหล่านี้ต้องได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ
---017
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี