‘ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์’ลงพื้นที่รับแจ้งความ-สอบปากคำพยาน กรณีตัด‘ไม้พะยูง’ในโรงเรียนหลายแห่ง พบมูลความผิดจริง คาดรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จ 30 วัน เผยมีข้าราชการเอี่ยว 6 คน จ่อเชือดผิดมาตรา 157
จากกรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อย่างไร้ร่องรอย เมื่อช่วงคืนวันที่ 5 ส.ค.66 ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบมีบุคคลของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง 8 ราย และยังมีปัญหาการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่ให้นายหน้าเข้ามาตัดถึง 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาท ซึ่งมีราคาต่ำกว่าราคาตลาด โดยเรื่องนี้ จังหวัดได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. , สตง. , ป.ป.ท. เอาผิดทางวินัย แพ่ง และอาญา พร้อมตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจสอบติดตามปัญหาการตัดไม้พะยูงในพื้นที่ จนพบความเสียหายหลายอำเภอ มีไม้พะยูงถูกตัดมากกว่า 60 ต้น
จนเรื่องนี้นายวิรัช พิมพะนิตย์ สส.พรรคเพื่อไทย ได้นำเสนอเป็นญัตติ เพื่อลากไส้ขบวนการเขมือบไม้พะยูง ขณะเดียวกันนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธาน กมธ.ปปช. สภาผู้แทนราษฎร ได้นำเรื่องเข้าพิจารณา โดยเชิญอธิบดีกรมธนารักษ์ , อธิบดีกรมป่าไม้ , สพฐ.เขต 2 และผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าชี้แจงและเชื่อว่ากรณีนี้เป็นฝีมือของข้าราชการบางคน ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าตัดไม้พะยูงตามโรงเรียน ขณะที่ชาวบ้านที่รักษ์ผืนป่าทยอยส่งหลักฐาน การประมูลไม้พะยูงขายหลายแห่ง โดยปรากฏ ที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคม ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก และที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก อีกด้วย
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 28 มกราคม 2567 ที่ สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ (ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์) ลงพื้นที่รับแจ้งความกรณีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ โรงเรียนหนองโนวิทยาคม ต.หัวหิน และโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ ต.คำเหมือดแก้ว โดยนายยุทธนา คงสมมาตย์ ปลัดอาวุโส อ.ห้วยเม็ก ในฐานะประธานสอบสวนข้อเท็จจริง มอบหมายนายวราวุธ ปู่แก้ว ปลัดอำเภอห้วยเม็ก ในฐานะตัวแทนคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริง นำเอกสารตรวจสอบข้อเท็จจริง เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้มี พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก , พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ห้วยเม็ก , พ.ต.ท.วสุวัฒน์ หลานวงษ์ พนักงานสอบสวน และ พ.ต.ท.ไพศาล ใจเกษม พนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด เข้ามาเสริมทีมทำคดีนี้ด้วย
จากนั้นเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ตรีวิทย์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมภาร และ พ.ต.ท.ไพศาล เดินทางไปที่ สภ.หนองกุงศรี เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีกับตำรวจท้องที่ และสอบปากคำพยาน กรณีตัดไม้พะยูงที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคม
พล.ต.ต.ตรีวิทย์ กล่าวว่า จากการประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในเขตโรงเรียนหนองโนวิทยาคม 9 ต้น และโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ 3 ต้น รวมทั้งโรงเรียนคำไฮวิทยา 22 ต้น กับอีก 2 ตอ โดยนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มีคำสั่งให้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการตรวจสอบเชิงรุก หลังจากชาวบ้านได้แจ้งเบาะแสมาที่ฝ่ายความมั่นคง และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นำโดยนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าทำการตรวจสอบคู่ขนานกับ ป.ป.ช. , ป.ป.ท. โดยพบมูลการขออนุญาตตัด ให้อนุญาตตัดขาย และประเมินราคาขายต่ำกว่าท้องตลาดมาก คาดว่าการซื้อขายไม้พะยูงในที่ราชพัสดุทำเป็นขบวนการ ขัดคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด และคำสั่งที่ ว.20 ของกรมธนารักษ์ และเชื่อว่ามีข้าราชการเกี่ยวข้องหลายคน
พล.ต.ต.ตรีวิทย์ กล่าวว่า ในฐานะฝ่ายตำรวจ เป็นหนึ่งในคณะทำงานตรวจสอบ รักษาผลประโยชน์ของทรัพยากรแผ่นดิน และโดยหน้าที่ ขณะที่ทางจังหวัดได้มอบหมายให้คณะทำงานในอำเภอท้องที่นั้นๆ สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนได้ ตนจึงได้เดินทางมารับเรื่อง และรับแจ้งความพร้อมสอบปากคำพยานเพิ่มเติมในครั้งนี้
“เบื้องต้นได้ให้พนักงานสอบสวนลงรับเป็นคดีไว้แล้ว จากนั้นจะได้ออกหมายเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และแจ้งให้มารับข้อกล่าวหา หากไม่มาตามหมายก็จะออกหมายจับต่อไป โดยข้อมูลที่พบคือเป็นการซื้อขายที่ผิดธรรมชาติ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 30 วันในการรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้น แจ้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 กับข้าราชการที่เกี่ยวข้องประมาณ 6 ราย” พล.ต.ต.ตรีวิทย์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี