ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI ได้ถูกนำมาใช้ในทุกแวดวงอุตสาหกรรมมาสักระยะหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตลาด โรงงานอุตสาหกรรมไปจนถึงด้านการแพทย์ และกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว นับเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่กำลังกระทบต่อทุกคนและทุกประเทศ เพราะถูกนำมาใช้ในแทบทุกอุตสาหกรรมและทุกกลุ่มอาชีพ ตลอดจนในชีวิตประจำวันของทุกคน จึงกล่าวได้ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากเทคโนโลยี AI นี้ เช่นเดียวกับการที่เทคโนโลยีใหม่เปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในอดีตที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็น “เทคโนโลยีเครื่องจักรกล”ที่ก่อให้เกิดการ “ปฏิวัติอุตสาหกรรม” ในช่วงปี พ.ศ.2303 หรือ “เทคโนโลยีสารกึ่งตัวนำ” ที่ก่อให้เกิดการ “ปฏิวัติอิเล็กทรอนิกส์” ในช่วงปี พ.ศ.2490 แต่ที่แตกต่างกันคือ “เทคโนโลยี AI” นี้ จะสร้างผลกระทบรุนแรงและรวดเร็วต่อเศรษฐกิจกว่าทุกเทคโนโลยีที่ผ่านมา
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่าในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) จึงผลักดันให้มีการเริ่มจัดทำแผนการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ AI ของประเทศ โดยในครั้งนี้ที่ประชุมซึ่งประกอบด้วย กรรมการจากผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น อธิการบดี ข้าราชการระดับสูง CEO ปตท. SCG และไทยพาณิชย์ เป็นต้น ได้พิจารณาเห็นชอบร่างแผนการใช้ประโยชน์ AI พร้อมทั้งให้ความเห็นเชิงนโยบายก่อนนำเสนอคณะกรรมการ AI แห่งชาติต่อไป
“สำหรับแผนนี้จะทำให้เกิดการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ AI อย่างเป็นรูปธรรมเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและลดการเสียเปรียบทางเศรษฐกิจ โดยจะต้องใช้และพัฒนาผู้เชี่ยวชาญที่เป็นคนไทยให้มากที่สุดและเร็วที่สุด ควบคู่กับการนำเข้าเทคโนโลยี AI จากต่างประเทศ โดยการทำงานต้องมีการวางแผน แบ่งงาน และร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ พร้อมกลไกการสนับสนุนจากภาครัฐในจุดที่สำคัญ จึงจะประสบความสำเร็จในเชิงการใช้ประโยชน์และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” รมว.อว. ระบุ
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ กระทรวง อว. ได้เตรียมรายชื่อคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (National AI Committee) ชุดใหม่ ซึ่งมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกรรมการชุดนี้มีผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติกระทรวง อว. เป็นเลขานุการร่วมกับเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลฯ (DE)
ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผอ.สวทช. กล่าวเสริมว่า สาระสำคัญที่ได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการในวันนี้มีประโยชน์ต่อการดำเนินงานเป็นอย่างมาก การเห็นชอบของคณะกรรมการ กวทช. ครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการลงรายละเอียดในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อการพัฒนาประเทศไทย พ.ศ.2565-2570 (Thailand National AI Strategy) ซึ่งอาศัยกำลังทั้งจาก สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร เพราะจากผลสำรวจความพร้อมในการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในประเทศไทย ในปี 2566 พบว่า มีหน่วยงานเพียง 15.2%จากกลุ่มตัวอย่างสำรวจที่ได้เริ่มมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้งานแล้ว แสดงถึงความต้องการขับเคลื่อนผลักดันระบบนิเวศของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ภายในประเทศทั้งองคาพยพ
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ai.in.th/
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี