ศธ.เดินหน้าแก้หนี้ครู เตรียม MOU สถาบันการเงิน-สหกรณ์ออมทรัพย์ ขอลดดอกเบี้ยเหลือไม่เกินร้อยละ 4.75 ชะลอฟ้องล้มละลายครูหนี้วิกฤต 3 ปี
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานเป็นการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ ศธ.ครั้งที่ 1/2567 โดยมีผู้บริหารองกรหลัก ศธ. ผู้แทนจากสถาบันการเงินต่างๆ และสหกรณ์ออมทรัพย์ฯเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลงร่วมมือหรือ MOU แก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยมีสาระสำคัญ 4 มาตรการ คือ ขอความร่วมมือกับสถาบันการเงิน และสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ในการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เหลือไม่เกินร้อยละ 4.75 ชะลอการฟ้องล้มละลายครูที่มีหนี้วิกฤต หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL เป็นระยะเวลา 3 ปี ขยายงวดการผ่อนชำระถึงอายุ 75 ปี และการรวมหนี้รีไฟแนนซ์ โดยจากนี้จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย เพื่อลงนามความร่วมมือ MOU อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
"นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รายงานความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ผ่านสถานีแก้หนี้ในจังหวัดต่างๆ พบว่าสามารถช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินครูไปได้ระดับหนึ่ง และขณะนี้ทุกหน่วยงานเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาหนี้สินครู อย่างเช่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ ก็ขอความร่วมมือไปยังสหกรณ์ครูทั่วประเทศ ให้ช่วยกันลดดอกเบี้ยเงินกู้ไม่ให้เกินร้อยละ 4.75 ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากหลายแห่ง และบางแห่งยังมีการรวมหนี้รีไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูที่อยู่ในร่าง MOU โดยมาตรการนี้ ขึ้นอยู่กับศักยภาพของสถาบันการเงินและสหกรณ์ออมทรัพย์แต่ละแห่ง หากที่ใดสามารถรวมหนี้ได้ก็ถือเป็นเรื่องดี ขณะที่ธนาคารออมสิน ก็ยืนยันมาแล้วว่า ในช่วงนี้จะไม่มีการฟ้องล้มละลายครูที่มีหนี้วิกฤต หรือหนี้NPL เป็นเวลา 3 ปี ส่วนจำนวนครูมีเท่าไรนั้นยังไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นข้อมูลของทางธนาคาร" นายสุรศักดิ์ กล่าว
รมช.ศธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมกำชับไปยังหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด ว่าการหักเงินเดือนชำระหนี้จะต้องให้ครูมีเงินเหลือใช้ในชีวิตประจำวัน ร้อยละ 30 ของเงินเดือน ซึ่ง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ.ก็มีความห่วงใย และได้กำชับไปยังหน่วยงานในสังกัด ศธ.ที่รับผิดชอบ ต้องทำตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือนบำนาญข้าราชกานเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้แก่สวัสดิการภายในส่วนราชการและสหกรณ์ พ.ศ.2551 โดยหักเงินเดือนได้ไม่เกิน 70% หรือให้เงินเดือนเหลือสุทธิ ไม่น้อยกว่า 30% เพื่อให้ครูอยู่ได้ และในหนังสือยินยอมกับต้นสังกัดให้หักเงินเดือน ก็ให้เขียนกำกับไว้ด้วยว่า หักได้ไม่เกิน 70% หากหน่วยงานใดหักเงินเดือนครูเกิน 70% จะมีความผิด ผู้ถูกหักสามารถฟ้องร้องเป็นคดีอาญาได้
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ยังห่วงใย กรณีครูที่ถูกฟ้องล้มละลายว่าต้องออกจากราชการหรือไม่ ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ก็ได้ยืนยันแล้วว่า กรณีครูที่ถูกฟ้องล้มละลายจากการกู้เงิน ที่ไม่ใช่การทุจริต จะไม่ถูกออกจากราชการ ซึ่งระเบียบดังกล่าวใช้กับหน่วยงานราชการทุกแห่ง ดังนั้น ครูก็ไม่ต้องห่วงในเรื่องจะต้องถูกออกจากราชการแล้ว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี