รวบ‘กอล์ฟ ฟลิ้นท์สโตนส์’อดีตนักแบดมินตันเยาวชนท็อป3 ประเทศ ลวงสาวฉกไอแพด-รถ
3 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ร่วมจับกุม นายศุภกิตติ์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน” โดยจับกุมตัวได้ในร้านอินเตอร์เน็ต ซอยประชาสงเคราะห์ 45 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายศุภกิตติ์ หรือ “กอล์ฟ ฟลิ้นท์สโตนส์” อดีตนักแบดมินตันเยาวชนระดับท็อป 3 ของประเทศ ซึ่งมีพฤติการณ์ลวงผู้หญิงให้รักผ่านแอปหาคู่ ก่อนเดินทางไปคบหาอยู่กินฉันแฟน และถือโอกาสทีเผลอนำทรัพย์สินของหญิงสาวที่ถูกหลอกคบหาไปขาย อีกทั้งยังมีพฤติการณ์เห็นรถจักรยานยนต์ (จยย.) ซึ่งมีผู้เสียหายจอดเสียบกุญแจคาไว้กับรถ แอบฉกขับหนีไปขายต่อ โดยผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ และศาลจังหวัดบุรีรัมย์พิจารณาออกหมายจับ 1 หมายจับ และผู้ต้องหาอยู่ระหว่างหลบหนี และต่อมาชุดสืบสวนนครบาล ร่วมกับชุด PCT 5 ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว
นายศุภกิตติ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าหลังจากที่ตนเรียนจบจากโรงเรียนมัธยมศึกษาชื่อดังย่านหัวลำโพง ในโควตานักกีฬาแบดมินตัน ช่วงนั้นตนมุ่งมั่นเล่นกีฬาจนมีชื่อชั้นติดในระดับท็อป 3 ของประเทศ จนได้โควตาทุนของมหาวิทยาลัยชื่อดัง เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ก่อนจะเรียนไม่ไหว จึงเลิกเรียน หันมารับสอนแบดมินตันแทน จนมีเงินก้อนนำมาลงทุนขายอุปกรณ์กีฬาแต่เจ๊งไม่ประสบความสำเร็จ
ส่วนเรื่องคดี รับสารภาพว่า เมื่อช่วงประมาณเดือน พ.ย.2566 ตนได้รู้จักกับผู้เสียหายผ่านแอปหาคู่ คุยกันในแอปประมาณ 3 วัน และได้ขอคอนแท็กเพิ่มเป็นเพื่อนกันทางเฟซบุ๊ก แล้วได้ทักแชทและโทรคุยกันทางเฟซบุ๊กแทน ประมาณ 1 เดือน ต่อมาวันที่ 19 ธ.ค.2566 ตนได้เดินทางไปหาผู้เสียหายในเมืองบุรีรัมย์ และได้ไปอยู่ที่หอพักด้วยกัน คบกันในลักษณะเป็นแฟน ต่อมาประมาณวันที่ 23 ธ.ค.2566 ตนได้นำไอแพดแอร์ 4 ของผู้เสียหายไปขายที่ร้ายขายโทรศัพท์มือถือ ภายในห้างในตัวเมืองบุรีรัมย์ ได้เงินมาจำนวน 8,000 บาท
ต่อมาเมื่อประมาณวันที่ 7 ม.ค.2567 ตนได้นำรถจักรยานยนต์ พร้อมกุญแจรถคันดังกล่าวของผู้เสียหายไปฝากขายที่ร้านรับซื้อ ไม่ทราบชื่อตั้งอยู่ใกล้กับ บขส.จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เงินมาจำนวน 10,000 บาท จากนั้นเมื่อตนทราบว่าผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดี จึงได้หลบหนีเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร อาศัยร้านอินเตอร์เน็ตเป็นที่นอน เงินที่ได้นำไปเล่นพนันออนไลน์จนหมดตัว จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้คาร้านอินเตอร์เน็ตในที่สุด
สำหรับคดีที่ถูกกล่าวหาว่าลักรถจักรยานยนต์ที่เสียบกุญแจคาไว้นั้น อ้างว่าไม่มีเจตนาลักเอาไป เพียงแต่แอบขับไปใช้และนำมาจอดคืนที่จุดเดิม โดยไม่ทราบว่ามีบุคคลใดมาลักต่อไปอีกหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การแต่อย่างใด โดยจากการตรวจสอบข้อมูลผ่านเว็บไซต์ blacklistseller พบข้อมูลว่ามีผู้เสียหายแจ้งเตือนข้อมูลผู้ขายที่ควรระวังไว้จำนวน 2 รายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายศุภกิตติ์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาลIDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี