ผอ.สำนักฯ 3 (บ้านโป่ง) สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าปฏิบัติหน้าที่ระมัดระวังช้างป่าหลังพบช้างป่ากระจายอาศัยอยู่หลายพื้นที่เกรงจะได้รับอันตราย พร้อมสั่งบังคับใช้กฎหมายกับผู้ต้องหาลอบเผาป่า หลังอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ - เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พบจุดความร้อนเพียบ
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (5 ก.พ.67) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการลาดตระเวน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ บ้านหนองหอย หมู่ 4 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช มอบหมายให้นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายประวัฒน์ พวงทอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า (สบอ.3 บ้านโป่ง) ร่วมกับนายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นายสุพล คำเสนาะ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ประชุมวางแผนเพื่อเร่งดำเนินการจัดการกับไฟป่าที่ตรวจพบจุดความร้อน (Hot Spot) ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระและในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมกันหลายจุด
โดยนายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) ได้บัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเองและสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ สถานีควบคุมไฟป่าสลักพระ - เอราวัณ สถานีควบคุมไฟป่าแม่น้ำภาชี สถานีควบคุมไฟป่าเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน รวมทั้งสถานีควบคุมไฟป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านทิศตะวันตกและศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรีกว่า 80 นาย ปูพรมเข้าปฏิบัติการในการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นแต่ละจุดให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผอ.สบอ.3(บ้านโป่ง) ยังได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้น แต่ต้องใช้ความระมัดระวังโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน เพราะปัจจุบันช้างป่าได้กระจายไปอาศัยอยู่ในหลายพื้นที่จึงเกรงว่าเจ้าหน้าที่จะได้รับอันตรายจากภัยช้างป่า และยังได้เน้นย้ำด้วยว่าหากพบผู้กระทำผิดลักลอบเข้าไปเผาป่า ให้จับกุมดำเนินคดีด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดอีกด้วย
ทั้งนี้ นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เปิดเผยว่า การพบจุดความร้อนทำให้เกิดไฟป่าขึ้นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระนั้นเกิดจากฝีมือมนุษย์ที่ลักลอบเผาเพื่อต้องการล่าสัตว์ป่าและการเก็บหาของป่าให้ง่ายขึ้น แต่จากการที่สังเกตเห็นพบว่าจุดความร้อนที่ทำให้เกิดไฟป่ามันเกิดขึ้นบนภูเขาทุกครั้ง โดยช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้งและจุดที่ไฟไหม้เป็นป่าไผ่ ซึ่งหน้าแล้งสัตว์ป่าคงไม่ไปอาศัยอยู่บนภูเขาและสัตว์ป่าคงจะไม่กินใบไผ่ที่แห้งแล้ว
ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่าการเผาน่าจะมาจากฝีมือของชาวบ้านผู้ที่เสียผลประโยชน์จากการลักลอบตัดไม้ไผ่มากลั่นแกล้งมากกว่า เพราะการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่เราเมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมานั้นสามารถจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมของกลางเป็นไม้ไผ่หรือไม้รวกได้จำนวนหลายร้อยลำ หลังจากนำตัวผู้กระทำความผิดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีแล้วเสร็จ อีกไม่กี่วันก็เกิดไฟไหม้ขึ้นใกล้กับหน่วยที่เจ้าหน้าที่จับกุม แต่ครั้งนี้ไฟไหม้บนภูเขา ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยยังไม่ทันระวัง เพราะช่องทางลักลอบขึ้นไปจุดไฟบนภูเขามีอยู่หลายช่องทาง
ดังนั้น หลังจากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะร่วมกันลาดตระเวนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและหากพบเกิดไฟไหม้จุดไหนเจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปถึงจุดนั้นให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และในวันนี้ นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง)ได้ถ่ายทอด นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งอธิบดีกรมอุทานฯ ที่ได้สั่งการให้บังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด ซึ่งจะเป็นการป้องปรามผู้ที่คิดจะทำผิดเกิดความเกรงกลัวต่อกฎหมายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ได้รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศของจังหวัดกาญจนบุรี ประจำวันที่ 5 ก.พ.67 เวลา 08.00 น.โดยสถานีตรวจวัด ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรีว่า "ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่า 41.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ"
แนะนำให้เด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์และ ผู้ป่วยในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ และอ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์ ส่วนประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากอนามัย
สำหรับจุดความร้อน (Hotspot) ที่พบในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มีมากถึง 146 จุด ประกอบด้วย ป่าอนุรักษ์ 60 จุด ป่าสงวน 28 จุด เขต ส.ป.ก.8 จุด พื้นที่เกษตร 20 จุด ริมทางหลวง 1 จุด และจุดอื่นๆ 29 จุด เส้นทางการเคลื่อนที่ของฝุ่นละอองมาจากแหล่งกำเนิดทั้งภายในและภายนอกจังหวัด - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี