ฟอร์จูนเนอร์ข้ามโขงยังไร้เงา'เจ๊อ้วน'เมียเสี่ยบ่อนไก่ขอคืนไฟแนนซ์ส่งหนังสือรับกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ซุกป่า หลัง พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับการกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม (ผกก.พฐ.ฯ) พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ตรวจเก็บรายละเอียดของรถยนต์คันดังกล่าว เก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝง ทั้งในและนอกรถอย่างละเอียด โดยมีเสื้อผ้าผู้ชาย 1 ชุดอยู่ด้านหลังรถ นอกนั้นไม่พบร่องรอยใดๆ แม้ลักษณะคล้ายรอยเลือดก็ไม่มี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็สามารถรวบรวมหลักฐานที่ได้ ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 4 ขอนแก่น ตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ในห้องแล็บและเมื่อหลังได้ผลตรวจก็จะส่งให้ตำรวจ สภ.สวี จ.ชุมพร ประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป เพราะเป็น สภ.ต้นทางที่มีการแจ้งความไว้
ล่าสุดวันที่ 8 ก.พ.67 รถฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าวยังจอดอยู่หน้าโรงพัก สภ.เมืองนครพนม โดยมีแผงเหล็กกั้นไว้ ห้ามบุคคลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามา ซึ่ง ร.ต.ท.สิทธิพล วงศ์นิโลบล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ยังไม่มีผู้เช่าซื้อรถคือเจ๊อ้วน ภรรยาของเสี่ยบ่อนไก่ชนในพื้นที่ อ.สวี จ.ชุมพร นำเอกสารมาติดต่อเพื่อขอรับรถคืน แต่ได้รับการประสานจากบริษัทผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ว่าจะมีหนังสือมอบอำนาจให้ตัวแทนสาขาในพื้นที่ยื่นต่อพนักงานสอบสวนเพื่อขอรับรถกลับไปไว้ที่บริษัท โดยถึงเวลานี้ สภ.เมืองนครพนม ยังไม่มีใครเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความเกี่ยวข้องรถยนต์คันนี้ ซึ่งคดีมีการแจ้งความไว้ที่ สภ.สวี จ.ชุมพร
โดยคดีดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 67 เวลาประมาณ 18.00 น.มีชาวบ้าน ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม แจ้งหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวง ต.หนองญาติ (ตร.ทล.ต.หนองญาติ) ว่า พบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ชุมพร จอดทิ้งไว้อย่างมีพิรุธในป่าริมถนนบ้านดงโชค ต.หนองญาติ ทาง ตร.ทล.จึงปรสานไปยัง ร.ต.ท.สิทธิพล วงศ์นิโลบล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมตรวจสอบพบกุญแจรถทิ้งไว้ในเกะหน้ารถ และไม่มีใครแสดงตัวป็นเจ้าของ จึงนำรถยนต์มาไว้ที่งานสืบสวน สภ.เมืองนครพนม หรือห้องปฏิบัติการสืบสวนชุดพยัคฆ์
ภายหลังทราบว่าเป็นรถยนต์คันเดียวกันที่เจ๊อ้วน ชาว อ.สวี จ.ชุมพร ได้มีการแจ้งหายไว้ที่ สภ.สวี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 โดยระบุว่าหายไปพร้อมกับสามีที่เป็นคนขับ อายุ 55 ปี แต่ยังไม่รู้ว่าหายตัวไปไหน
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ขอรายละเอียดเกี่ยวกับการแจ้งหายของรถยนต์คันดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ต้นทางที่รับแจ้งจากเจ๊อ้วน ผู้มีชื่อเป็นผู้เช่าซื้อ ก่อนมีคำสั่งให้ พฐ.นครพนม ดำเนินการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดเพื่อเป็นหลักฐานประกอบในการดำเนินคดี และหาที่มาที่ไปของรถยนต์ว่า ทำไมถึงวิ่งมาถึงภาคอีสาน หรือหากมีการโจรกรรม ก็จะได้ใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
เบื้องต้นจากพฤติกรรม เชื่อว่ารถยนต์คันดังกล่าวนำเข้าพื้นที่ชายแดน เพื่อเตรียมส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากเป็นรถยนต์เป้าหมาย และเป็นที่ต้องการของคนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จากสถิติการตรวจยึดรถยนต์ข้ามโขง ส่วนใหญ่ผู้เช่าซื้อจะเป็นคนขายเองในบ่อนการพนัน ส่วนหนึ่งถูกโจรกรรม และหนีไฟแนนซ์ ซึ่งรถฟอร์จูนเนอร์คันนี้ กุญแจรถถูกทิ้งไว้ในเกะ เพื่อให้คนชำนาญพื้นที่มาขับต่อไป พฤติกรรมนี้เป็นที่รู้กันดี ในหมู่ขบวนการค้ารถยนต์ข้ามชาติ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี