ตร.ท่องเที่ยวภูเก็ต ทลายแก๊งโรแมนซ์สแกมผิวสีแชตหลอกคนไทย เหิมเกริมตั้งตนเป็นพ่อค้ายา “โคเคน” ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ มีสาวไทยเป็นคนกดเงินส่งต่อไปให้หัวหน้าที่ประเทศไนจีเรีย

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 19.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ. พิสิทธิ์ สวัสดิถาวร ผกก.2 บก.ทท. พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 (ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต) พ.ต.ท.พิทยา เทพเมือง สว.กก.2 บก.ทท.3 พร้อมพวก ได้รับการประสานจาก สภ.บางพลี ให้ติดตามหาบุคคลตามหมายจับ ของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 32/2567 ให้จับกุม น.ส.กัญญธนัฎฐ์ ทศธรรม สัญชาติ ไทย อายุ 32 ปี ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงหรือแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน 

จากนั้นชุดสืบสวนลงพื้นที่นำหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 32/2567 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 7/140 หมู่ที่ 1 หมู่บ้านพัชรีถลาง ต.เทพกษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผลการดำเนินการ

จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย 1.น.ส.กัญญธนัฎฐ์ สัญชาติ ไทย อายุ 32 ปี 2.ชาวต่างชาติผิวสี สัญชาติไนจีเรีย อยู่เกินหรือ overstay จำนวน 1401 วัน พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดประเภท โคเคน จำนวน 8 กรัม พันด้วยเทปกาวสีดำ เป็นก้อนกลมขนาดประมาณ 0.5 ซม. พร้อมเครื่องชั่งดิจิตอล และซองบรรจุ จำนวน 50 ซอง 3.ชาวต่างชาติผิวสี สัญชาติ ไนจีเรีย อยู่เกินหรือ overstay จำนวน 1728 วัน

พ.ต.ท.พิทยา เทพเมือง สว.กก.2 บก.ทท.3 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนหาข่าวพบภูเก็ตมีชาวผิวสี หรือชาวต่างชาติที่มาจากประเทศโซนแอฟริกาใต้ ลักลอบกระทำผิดในลักษณะที่เป็นโรแมนซ์สแกม หรือการใช้หน้าเพจเฟสบุ๊คปลอมตัวตนจริง และหลอกลวงให้ผู้อื่นโอนเงินให้ โดยอ้างเหตุผลที่ทำให้ผู้ที่หลงเชื่อและโอนเงินให้ ในทุกพื้นที่ในประเทศไทย และมีเครือข่ายผู้กระทำความผิดต่างๆ กัน เช่น ชาวผิวสี ทำหน้าที่หลอกให้เชื่อ ส่วนจะใช้คนไทยในการเปิดบัญชีธนาคาร และเปิดแอปพลิเคชั่นธนาคารออนไลน์ เพื่อโอนเงินเข้ามา และมีคนไทย (น.ส.กัญญธนัฎฐ์ ) ทำหน้าที่กดเงินสดออกมาและโอนต่อไปยังบัญชีอื่นๆ เช่น เข้าบัญชีชาวผิวสี ซึงเป็นหัวหน้าแก็งค์อยู่ที่ประเทศไนจีเรีย ซึ่งที่ผ่านมามีคนหลงเชื่อและมีการสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการกวดขันจับกุมดังกล่าว 

ทั้งนี้ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นหนึ่งในแก๊งโรแมนซ์สแกมและได้ตั้งตนเป็นพ่อค้ายาแอบขายยาเสพติดประเภท โคเคน ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในจ.ภูเก็ตเป็นอาชีพเสริมอีกด้วย 

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป