ตำรวจดินแดง คุมตัวตะวัน -แฟรงค์  - ก่อเหตป่วนขบวนเสด็จ ฝากขังศาลอาญา ส่วนสายน้ำ ฝากขังตามหมายจับเก่า คดีพ่นสีกำแพง ขณะที่ ทนายความเตรียมยื่นเรื่องคัดค้านการฝากขัง 

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 9.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวน.ส. ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" นักกิจกรรมทางการเมือง จาก สน.ฉลองกรุง มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา12 วัน โดยมีรายงานข่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง จะนำสำนวนคดีตามไปสมทบภายหลัง สำหรับข้อหาตามหมายจับของตะวัน มี 3 ข้อหาได้แก่ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116  ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันก่อความรำคาญในที่สาธารณะ  ส่วนนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ คนขับรถยนต์  ซึ่งถูกควบคุมคุมตัวที่ สน.ดินแดง ถูกดำเนินคดี 5 ข้อหา ได้แก่ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น  ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ   และร่วมกันก่อความรำคาญในที่สาธารณะ  ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน  และบีบแตรรถยนต์โดยไม่มีเหตุอันควรตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อที่ยืนคัดค้านการฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้แก่น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ และ นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีขัดขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนิน  และสายน้ำ ผู้ต้องหาในคดีพ่นสีกำแพงพระบรมมหาราชวัง 

โดย ทนายกฤษฎางค์ ระบุว่า สาเหตุที่ต้องยื่นคัดค้านการฝากขัง เนื่องจากไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะต้องจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไปฝากขัง เพราะทำให้เสียสิทธิ์ ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การไต่สวนฝากขังนัดแรก ศาลต้องไต่สวนฝั่งผู้ฝากขังว่ามีเหตุผลอะไร แต่เมื่อวานนี้จะเห็นได้ว่า มีปัญหาไม่มีการไต่สวนฝากขังคดีของนักข่าวทั้ง 2 ราย ดังนั้น การฝากขังต่อศาลจะต้องมีเหตุผลตามกฎหมายที่เพียงพอ โดยจะเสนอเหตุผลต่อศาลให้เห็นว่า ผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและข้อหาที่ถูกดำเนินคดีนั้นเป็นข้อหาที่หนักเกินไปกว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหา 

ส่วนประเด็นเรื่องพนักงานสอบสวนยื่นท้ายคำร้องคัดค้านการประกันตัว ทนายความระบุว่า ประเด็นนี้ยังไม่เห็นเพราะตนเพิ่งมาที่ศาล แต่ตอนก็เชื่อว่า ยังไงพนักงานสอบสวนต้องคัดค้านการประกันตัวอยู่แล้ว เพราะลงทุนจับถึงขนาดนี้ ทั้งนี้หากศาลอนุญาตให้ฝากขังแล้ว จะดำเนินการยื่นประกันตัวในชั้นศาลหรือไม่ ต้องพูดคุยปรึกษาหารือกับผู้ต้องหาทั้ง 3 รายก่อน 

ทนายความระบุอีกว่า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการพบพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเลย เนื่องจากถูกแยกไปคุมขังต่างสถานีตำรวจ ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้ไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เนื่องจากตัวผู้ต้องหาเองหากถูกออกหมายจับที่ สน.ใด ก็ต้องไปคุมขังที่ สน.นั้น อันเป็นที่ทำการของพนักงานสอบสวนผู้ออกหมายจับ เว้นแต่ว่ามีเหตุอันควร ซึ่งตนเชื่อว่า กรณีนี้ไม่มีเหตุอันควรที่จะจำเป็นต้องแยกคุมขังแต่อย่างใด จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ซึ่งเรื่องนี้ตนก็คงจะต้องพูดในระหว่างการไต่สวนในชั้นศาล เพื่อให้ศาลเห็นว่า มีการกระทำที่ไม่ถูกหลักกฎหมาย 

ส่วนกรณีของสายน้ำที่ถูกออกหมายจับ ในคดีพ่นสีกำแพงพระบรมมหาราชวังตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 แต่เพิ่งถูกจับกุมเมื่อวานนี้นั้น ทนายความเชื่อว่า สื่อมวลชนทุกคนก็ตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้เหมือนกัน ซึ่งจากข้อเท็จจริงแล้วคดีนี้ สายน้ำได้ปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง มาก่อนหน้านี้หลายครั้งหลังถูกออกหมายจับ แต่ก็ไม่อยู่ตำรวจจับกุมแต่อย่างใด จึงถือได้ว่าหมายจับสิ้นผลแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า การจับกุมเมื่อวานนี้นั้นเป็นการจับกุมที่ถูกต้องหรือไม่ จึงเป็นข้อสงสัยว่า ทำไมถึงดองหมายจับนานขนาดนี้ รวมทั้งยังได้ตั้งคำถามกลับไปยังสื่อมวลชนว่า บางทีพวกเราก็อาจจะถูกหมายจับดองเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วก็เป็นได้ หลังจากนั้นทนายความก็เดินขึ้นศาลไป 

โดยบรรยากาศที่ศาลอาญารัชดาภิเษก พบเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วน เดินทางมารักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบอาคารศาลอาญา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล ได้นำแผงเหล็กมาปิดกั้น บริเวณทางขึ้นอาคาร โดยเปิดเพียงแค่ช่องทางเข้าออกช่องเดียวเท่านั้น เพื่อคัดกรองบุคคล ที่ผ่านเข้าออก

ขณะเดียวกัน เวลา 11 .12 ตำรวจ สน.พระราชวัง ควบคุมตัวนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ “สายน้ำ” ผู้ต้องหาในคดีพ่นสีกำแพงพระบรมมหาราชวัง จาก สน.ทุ่งสองห้อง มายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นคำร้องฝากขังต่อศาล 

โดยในระหว่างที่รถควบคุมผู้ต้องหาได้ขับมาถึงศาลอาญา มีมวลชนบางส่วนมายืนรอคอยให้กำลังใจ และตะโกนชื่อ "สายน้ำ" โดยสายน้ำได้ชู 3 นิ้วพร้อมตะโกนว่า "ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม" "ยกเลิก 112" ก่อนที่รถควบคุมตัวผู้ต้องหาจะขับไปบริเวณด้านหลังของศาล 

ขณะที่ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนแจ้งว่าอยู่ในระหว่างการไต่สวนฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 รายในคดีขบวนเสด็จและคดีพ่นสีกำแพงพระบรมมหาราชวัง หลังจากที่ทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายยื่นคัดค้านการขอฝากขัง

ทั้งนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงเงื่อนไขการขอคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้องต่อศาลได้ แต่หากศาลอนุญาตให้ฝากขังและทนายความฝั่งผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ก็จะยกเงื่อนไขประมาณ 2-3 ข้อ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1 มาใช้แสดงต่อศาล

ทั้งนี้ เงื่อนไขที่พนักงานสอบสวนจะยื่นต่อศาลอันเป็นเหตุควรเชื่อว่าไม่ให้สั่งปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ให้ประกันตัวตามกฎหมายมาตราดังกล่าว ประกอบไปด้วย 5 เงื่อนไข ได้แก่

1) ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี2) ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน3) ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปก่อเหตุอันตรายประกันอื่น4) ผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันไม่น่าเชื่อถือและ 5) การปล่อยตัวชั่วคราวจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของพนักงานสอบสวนหรือศาล

เวลา 11.30 น.หยก เยาวชนอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มแนวร่วมนักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมพวกอีกส่วนหนึ่ง ได้เดินทางมาสมทบที่ศาลอาญา เพื่อฟังการไต่สวนฝากขังของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย โดยในเวลาไล่เลี่ยกัน น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม นักกิจกรรมทางการเมือง ได้เดินทางมายังศาลด้วย