“ธรรมนัส”ขึ้นเขาใหญ่ หย่าศึกอุทยานฯกับส.ป.ก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง พิพาท“จุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.” ในพื้นที่อุทยานฯ
15 ก.พ.67 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพิพาท “จุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.” พร้อมทั้งเข้าตรวจสอบการดำเนินงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ว่า จากกรณีพิพาท “จุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.” ที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ตรวจพบการบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตอุทยานฯ เพื่อทำการเกษตรประมาณ 3 ไร่ ซึ่งพบว่ามีหลักหมุด ส.ป.ก. จำนวน 3 หมุด ปักอยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งต่อมาได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบถามกลับไปยังสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ที่ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน จนเกิดเป็นกรณีพิพาท
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ “ร้อยเอกธรรมนัส ได้ขอให้เจ้าหน้าที่สองฝ่ายมีการเจรจาในทางที่ดี ซึ่งภายหลังการประชุมได้มีการจัดตั้งคณะกรรมแก้ไขปัญหาระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป โดยจะไปใช้ความรู้สึกไม่ได้ ต้องทำตามกฎหมาย เอากฎหมายเป็นหลัก ไม่งั้นทะเลาะกันตาย กฎหมายของแต่ละกระทรวงก็ต้องยึดของแต่ละกระทรวง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ภายใต้รัฐบาลเดียวกันต้องยึดหลักกฎหมาย จะทำอะไรห้ามใช้อารมณ์ จะไปถอดหมุดมันทำไม่ได้ ทรัพย์สินของหลวงของทางราชการเหมือนกัน ต้องคุยกัน ถ้ายังไม่สรุปอย่าไปออกโซเชียล มันเสียหายถึงรัฐบาล ถ้าผมไม่ลงมาท่านนายกจะว่ายังไง 2 กระทรวงทะเลาะกันเอง มาจากพรรคเดียวกัน มันไม่ได้ ต้องยึดหลักกฎหมายเป็นหลักซึ่งทางส.ป.ก.เหมือนกัน ตรงไหนมีหลักฐานเราต้องชี้แจง อุทยาน ป่าไม้ก็เหมือนกัน ไม่ว่าอะไรก็เป็นรัฐบาลเดียวกัน ภายใต้การกำกับดูแลของท่านนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะ กระทรวงทรัพยฯและกระทรวงเกษตรฯ มาจากพรรคเดียวกัน ต้องคุยกันห้ามทะเลาะกัน ให้เอาหลักกฎหมายเป็นหลัก
ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการลงพื้นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่โดยผู้ร่วมประชุมมีทั้งเจ้าหน้าที่ทั้ง จาก ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อรับฟังข้อมูลปัญหา โดยก่อนหน้านึ้ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตรวจพบการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บ้านเหวปลากั้ง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง และได้จับกุมผู้ครอบครองและบุกรุกพื้นที่ 1 แปลง เนื้อที่ 15 ไร่ พร้อมเดินหน้าเอาผิดขบวนการรุกป่าที่อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง
โดยจากการลงพื้นที่ในวันนี้ ยังพบว่า บริเวณเดียวกัน มีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. แล้ว 5 แปลง แปลงละ 15 ไร่ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมายืนยัน พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานฯซึ่งปัญหานี้เกิดจากข้อพิพาทที่ดินของ 2 หน่วยงาน ที่ต่างถือแผนที่ และกฎหมายคนละฉบับ หลังจากนี้จะเสนอให้ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการกลาง เพื่อพิจารณาปัญหานี้จนได้ข้อสรุป และระหว่างนี้ขอให้ทั้ง 2 หน่วยงาน ยุติการใดๆ รวมทั้งชะลอการดำเนินคดีผู้ครอบครองที่ดิน แปลงที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-01 เรียบร้อยแล้ว การลงพพื้ตที่ครั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ จุดปักหมุด บ้านเกวปลากั้ง หมู่10 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อดูเขตพื้นที่อุทยาน และสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ อีกด้วย
สำหรับปัญหาการบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2566 เจ้าหน้าที่พบว่า สภาพพื้นที่ป่าที่ถูกแผ้วถาง เป็นรอยแหว่งเข้าไปในเขตป่าทึบของผืนป่ามรดกโลกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงลาดตระเวน และพบหลักหมุดของ ส.ป.ก. ที่เพิ่งนำมาปักในเขตอุทยาน จึงทำหนังสือทักทวงไปที่ ส.ป.ก.นครราชสีมาให้ตรวจสอบ เพราะจุดที่ปักหมุดยังมีสภาพป่ายังสมบูรณ์ และมีร่องรอยการหากินของสัตว์ ไม่ใช่ป่าเสื่อมโทรมแต่อย่างใด การบุกรุกที่ชัดเจนมากขึ้นนำไปสู่การวางแผนจับกลุ่มชายฉกรรก์ 5 คน เข้าไปแผ้วถางป่า เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา และผู้ต้องหาได้นำเอกสารสปก.4-01 มาแสดงว่าเข้ามาทำกินในเขตปฏิรูปที่ดินอย่างถูกต้อง ก่อนจะมีคนมาประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี