วิณะโรจน์เซ็นคำสั่งเด้งฟ้าผ่า‘6 ส.ป.ก.โคราช’ช่วยราชการส่วนกลางชั่วคราว เซ่น‘หมุดส.ป.ก.นิรนาม’ผุดป่าเขาใหญ่ พร้อมชะลอออกเอกสารสิทธิ
20 กุมภาพันธ์ 2567 นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ได้ออกคำสั่ง เมื่อวันที่19 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ให้ นายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา , นายวัฒวี วิเลิศรัมย์ , นางปรียาภรณ์ เพิ่มแสงสุขกุล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-01 ใน ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รวม 6 คน มาช่วยราชการที่ ส.ป.ก. ส่วนกลาง เนื่องจากขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อสั่งการของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากขณะนี้กรมแผนที่ทหารได้เข้าไปตรวจสอบแนวเขต เพื่อให้ทราบชัดเจนว่าที่ดินบริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินหรืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยกรมแผนที่ทหารแจ้งว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
สำหรับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีนายประพันธ์ คำบาง ผู้ตรวจราชการ ส.ป.ก. เป็นประธาน ส่วนกรรมการประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักจัดการปฏิรูปที่ดิน สำนักกฎหมาย และสำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน
อย่างไรก็ตาม การให้มาช่วยราชการที่ ส.ป.ก. ส่วนกลาง ไม่ใช่การเด้งหรือการย้าย แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้แต่งตั้งรักษาราชการแทนปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาแล้ว หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของส.ป.ก. กระทำผิดหรือบกพร่อง ต้องดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย แต่หากเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ต้องให้ความยุติธรรม
ทั้งนี้ ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมายุติการดำเนินการใดๆในพื้นที่ที่ยังมีความไม่ชัดเจนเรื่องแนวเขต จนกว่ากรมแผนที่ทหารจะตรวจสอบแล้วเสร็จ โดยต้องไม่ไปปักหมุด และชะลอการออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-01 ส่วนการสำรวจเพื่อปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติในจังหวัดนครราชสีมาดำเนินการแล้วเกือบทุกพื้นที่ ยกเว้นโดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เนื่องจากมีความซับซ้อนเกี่ยวกับระเบียบและกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน หากดำเนินการเสร็จสมบูรณ์จะลดปัญหาการบริหารจัดการระหว่างหน่วยงานได้ หากผลปรากฏว่าพื้นที่ที่มีปัญหาขณะนี้ เป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะส่งคืน
แต่หากเป็นพื้นที่ของส.ป.ก. จะพิจารณาเกี่ยวกับความเหมาะสมของการอนุญาตให้เกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์อีกครั้ง ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า ให้คำนึงถึงสภาพพื้นที่ว่า เหมาะสมจะออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 หรือไม่ โดยหากมีสภาพเป็นป่าอาจใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นที่เป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามที่ส.ป.ก. เคยดำเนินการมาต่อเนื่องหลายปี
นายวิณะโรจน์ ยืนยันว่า ส.ป.ก. ไม่ส่งเสริมการทำลายป่าอย่างแน่นอน ตรงกันข้ามกลับส่งเสริมการปลูกต้นไม้ในเขตปฏิรูปที่ดิน เช่น โครงการวนเกษตร ส่วนการเปลี่ยนแปลงจากเอกสารส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร มีข้อกำหนดต้องปลูกต้นไม้เศรษฐกิจ ไร่ละไม่น้อยกว่า 10 ต้น โดยกรมป่าไม้สนับสนุนกล้าไม้ให้แก่เกษตรกรผ่านศูนย์เพาะชำกล้าไม้ โดยส.ป.ก. ปลูกป่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 45,000 ไร่ต่อปี
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี