รมว.กห.สั่งเร่งทำแผนที่วันแมป
ยุติปมพิพาท
ที่ดินทับซ้อนส.ป.ก.-กรมอุทยานฯ
“รมว.กลาโหม” สั่ง “กรมแผนที่ทหาร” เร่งสำรวจทำแผนที่วันแมปให้เสร็จ เพื่อเสนอเข้า ครม. เคลียร์ปมพิพาทที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ และปัญหารุกที่ทั่วประเทศอีกนับแสนไร่ ย้ำต้องทำพร้อมกันทั้งประเทศ ด้าน “ธนกร” หนุนก.เกษตรฯ-ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯลุยตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.4-01 รุกที่อุทยานทั่วประเทศ ป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อนายทุน
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ฐานปฏิบัติการเสกสรรค์ บ้านแม่โกนเกน อ.แม่สอด จ.ตาก นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงปัญหาเรื่องที่ดินทับซ้อนและเกิดข้อพิพาทระหว่างกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) บริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาว่า ต้องยอมรับยังมีปัญหาเรื่องแผนที่ หลายพื้นที่ทำเสร็จแล้ว แต่พื้นที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมายังไม่เสร็จ มีการถกเถียงกันอยู่ ตนในฐานะประธานคณะกรรมการวันแมพ เร่งรัดให้ทำจุดนี้ให้จบและได้แผนที่ฉบับเดียวกันปัญหาจะคลี่คลายทั้งหมด ยอมรับว่าพื้นที่ตรงนี้ทำยาก ต้องค่อยๆ จัดการไปทีละจุด
ส่วนปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นที่เขาใหญ่อย่างเดียว ทั่วประเทศมีปัญหารุกล้ำกว่าแสนไร่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า มีปัญหามากและซับซ้อน เป็นเรื่องยาก ในส่วนเขาใหญ่ เร่งรัดแล้วทำให้จบ จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว จะให้กรมแผนที่ทหารดูทั้งหมดทั่วประเทศ ดำเนินการในแต่ละกลุ่ม ที่ผ่านมาจบเกินครึ่งแล้ว ยังเหลือพื้นที่เขาใหญ่ มีปัญหา จบยาก
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงปัญหาจัดสรรที่ดินส.ป.ก.ให้เกษตรกร ซึ่งสังคมตั้งคำถามหลายประเด็นว่า เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่มีเสียงสะท้อนมาจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะเกษตรกร ถึงปัญหาการออกเอกสารสารสิทธิ์มิชอบ มีการจัดสรรในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม เป็นปัญหาคาราคาซังมานาน ส.ป.ก.และกรมอุทยานฯจึงควรเร่งหาข้อเท็จจริง และวางแนวปฏิบัติสำหรับกรณีดังกล่าว อีกทั้ง ต้องเร่งรัดทำแผนที่ one-map ให้ครอบคลุมและแม่นยำ เพื่อสร้างความชัดเจนเรื่องกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ต่าง ๆคืนกรรมสิทธิ์ไปยังผู้สมควรได้รับ และสร้างฐานข้อมูลที่ดินกลางที่ทุกหน่วยงานใช้หมุดเขตที่ดินเดียวกัน ทั้งนี้ ประชาชนอีกไม่น้อยยังขาดแคลนที่ดินทำกิน ตนไม่อยากให้การปฎิบัติมิชอบไม่กี่กรณี ที่เป็นปัญหามานานมากแล้ว ทำให้แนวคิดดีๆในการจัดสรรที่ดิน เพื่อช่วยเกษตรกรให้มีที่ทำกิน ถูกมองในทางที่ผิด
เช่นเดียวกับ นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)กล่าวว่า กรณีหมุดนิรนามของส.ป.ก.4-01ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง ที่กำลังเป็นประเด็นปัญหาสะท้อนปัญหากรณีเดียวกันในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศว่า ออกเอกสารถูกต้องหรือไม่ ตนจึงเห็นด้วยที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสั่งการกรมแผนที่ทหาร สำรวจแผนที่ดังกล่าว โดยใช้เป็นมาตรฐานของรัฐแผนที่เดียว หรือ One Map เพื่อให้ยุติข้อพิพาทก่อน ซึ่งจะใช้เวลาสำรวจประมาณ 3 สัปดาห์พร้อมกันนี้ ให้ส.ป.ก. รวมถึงกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เร่งตรวจสอบพื้นที่และผู้ถือครองเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ว่าเป็นเกษตรกรตัวจริงหรือไม่ และสั่งยกเลิกไม่ให้แบ่งที่ดินแนวเขตกันชน หรือ พื้นที่คาบเกี่ยว ระหว่างกรมอุทยาน และส.ป.ก.ทั้งหมดไว้ก่อน ป้องกันปัญหาระยะยาว
นายธนกร กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกกังวล หลัง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติเปิดเผยข้อมูลตัวเลขล่าสุดว่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 142 แห่ง จาก 157 แห่งทั่วประเทศ พบเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับ ส.ป.ก.4-01 ประมาณ 205,000 ไร่ เฉพาะแค่พื้นที่อุทยานฯทับลานมีประมาณ 7-8 หมื่นไร่ คาดว่าจะพบพื้นที่ทับซ้อนมากกว่านี้อีกนั้น จึงขอเรียกร้องให้ทั้ง ส.ป.ก.และกรมอุทยานฯ ชี้เป้าให้ชัด ว่ามีพื้นที่ทับซ้อนจุดใดบ้าง เพื่อให้กรมแผนที่ทหารตรวจสอบให้เกิดความถูกต้องต่อไป ป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตออกเอกสารโดยมิชอบ เพราะหวังผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเอื้อนายทุนที่ต้องการฮุบที่ดินพื้นที่แนวเขตกันชนหรือที่ทับซ้อน โดยไม่ใช่เกษตรกรตัวจริง ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญมาก เนื่องจากพบปัญหาพื้นที่ทับซ้อนมากกว่า 140 แห่งทั่วประเทศ ขอให้ดำเนินการจริงจังโปร่งใสตรงไปตรงมา ยึดประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี