ป๋าเทพ ยอมรับงงกับรางวัลที่ได้ พร้อม ขอบคุณ ม.ขอนแก่น ที่มอบรางวัล “ยกย่องเชิดชูเกียรติเป็น ศิลปินมรดกอีสาน สาขาศิลปะการแสดง (นักแสดงตลก)” เผยตนก็มีเชื้อสายลาวพวน ตระกูลเป็นคนอีสาน ตอนนี้ขอเกษียณอยู่บ้านแล้ว ด้วยวัย 74 แถมป่วยโรคหลอดเลือดสมอง แพทย์ให้พักผ่อน ไม่ถือโกรธคนที่เสียงแตก วางมือทุกอย่างแล้ว ขอใช้ชีวิตบันปลายอย่างมีความสุข
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณีที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินมรดกอีสาน แห่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปี พุทธศักราช 2567 เนื่องในโอกาสมหามิ่งมงคล วันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และวันอนุรักษ์มรดกไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมเทิดพระเกียรติ โดยการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินมรดกอีสาน โดยรางวัลเชิดชูเกียรติศิลปินมรดกอีสาน มอบแด่ ศิลปิน ผู้เป็นต้นแบบศิลปะพื้นถิ่นอีสาน เปี่ยมล้นคุณธรรม จริยธรรม เป็นจุดเริ่มต้นแห่งแรงบันดาลใจ ถ่ายทอดศาสตร์ศิลป์ จนเป็นองค์ความรู้อันมีค่ายิ่ง มีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนคนรุ่นหลังอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นทุ่มเท สร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่าต่อแผ่นดินอีสาน ก่อคุณูปการด้านศิลปวัฒนธรรมต่อแผ่นดินไทย
โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มอบรางวัลศิลปินมรดกอีสาน ประกอบด้วยสาขาทัศนศิลป์ สาขาวรรณศิลป์ และสาขาศิลปะการแสดง ซึ่งในรางวัลดังกล่าวปรากฏรายชื่อของ นายสุเทพ โพธิ์งาม หรือ ป๋าเทพ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินมรดกอีสาน สาขาศิลปะการแสดง (นักแสดงตลก)
จนกลายเป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่หน้าเพจของ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น KKU Art&Culture Center มีผู้เข้าไปคอมเม้นในประเด็นนี้กันอย่างดุเดือด กันเรียกได้ว่า รถทัวน์ลงจอดเป็นที่เรียบร้อย อาทิ ทบทวนหน่อยครับมันทำให้ท่านอื่นๆที่ได้รับการยกย่องเชิดชูดูไร้ค่า *สาขาศิลปะการแสดง (3)นายสุเทพ โพธิ์งาม (นักแสดงตลก) หรือ มรดกอีสาน เคยใช้ภาษาอีสาน ในการแสดง เชิดชู ภาษาถิ่นบ้านเกิดในการแสดง เคยนำอะไรที่เกี่ยวกับอีสานไปใช้ในการแสดงหรือไม่ ผลงานเด่นเกี่ยวกับภาคอีสานคืออะไร ถึงเอามาเชิดชูว่าเป็น ศิลปินมรดกอีสาน(เทพ โพธิ์งาม)
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ไร่ของป๋าเทพ อยู่ที่ ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พบกับ ป๋าเทพ หรือ นายสุเทพ โพธิ์งาม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีที่ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้คัดเลือกตนได้รับมอบรางวัลมรดกอีสาน สาขาการแสดงตลก ซึ่งตนได้ทราบจากทางมหาวิทยาลัย เมื่อประมาณเดือนก่อน ตนก็ไม่ทรายรายละเอียดในรางวัลดังกล่าว ตนก็ไม่เคยคิดว่าจะได้รับรางวัลอะไร ที่ผ่านมาศิลปินตลกทั่วๆไป และก็เป็นตลกมานานแบบว่าอยู่วงการตลกจนแก่ แต่ตอนนี้อายุ 74 ปีแล้วก็วางมือจากทุกๆอย่างแล้ว ตนก็ต้องขอบคุณทางมหาวิทยาลัยที่มอบรางวัลให้
เมื่อถามถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลนี้ ภูมิใจไหมในฐานะคนอีสาน ตนก็ตอบได้ว่า ตนก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะว่าอยู่ดีๆเขาก็โทรมาบอกเราจะมีโล่รางวัลเกี่ยวกับมรดกอีสานตนเองก็ยังไม่เข้าใจ ไม่รู้จริงๆ อยู่ที่ทางผู้ใหญ่เขาว่าจะมอบให้ในเรื่องอะไรตนไม่รู้จริงๆ แต่เมื่อเขาเอามาให้ก็รู้สึกขอบคุณ เขาให้ไปรับเราก็ไปรับ และก็ภูมิใจที่สังคมยังเห็นคุณค่าของเรา ถ้าจะสอบถามว่าได้เรื่องอะไรก็ต้องถามทางมหาวิทยาลัยซึ่งตนเองก็ไม่รู้รายละเอียดมาก
ในส่วนเรื่องที่มีคนเข้ามาคอมเมนต์ในทำนองที่ว่าป๋าเทพไม่เหมาะสมกับรางวัลนี้เพราะไม่ใช่คนอีสานแท้ ไม่เคยพูดอีสาน ประเด็นนี้ ป๋าก็ตอบได้ชัดเลยว่า ป๋าเป็น “คนลาวพวน” ไม่ได้เป็นลาวอีสาน แต่ปู่เป็นคน จ.ร้อยเอ็ด ตาเป็นคน จ.ศรีสะเกตุ ย้ายกันมาอยู่ที่ปาจีนบุรี มาได้เมียที่นี่เป็นลาวพวน ป๋าก็มาเกิดที่นี่ จะให้ป๋าพูดลาวเลยก็ไม่ถนัดหลอก แต่พอพูดได้ไม่ชัดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เรามันก็เชื้อสายอีสานนี่แหละ
ป๋าเทพ ยังเล่าต่อว่า ตอนนี้อายุ 74 ปีแล้ว ป่วยเป็นหลายโรค เป็นทั้งโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการวูบมาแล้ว 2 ครั้ง หมอต้องให้ทานยาอย่างเคร่งครัด ต้องคุมในการกิน การพักผ่อน ต้องเลี่ยงเรื่องเครียดๆ ตามแพทย์สั่ง อีกทั้งตอนนี้วางมือทุกอย่างแล้ว ทังการแสดงรับไม่ได้แล้ว เพราะป๋าเริ่มจำบทไม่ได้ พูดบางทียังพูดแบบเร็วๆ ความคิดก็เริ่มช้าลง ธุรกิจขนมเปี๊ยะ ก็ให้ลูกๆดูแลทั้งหมด ตอนนี้ไม่ได้หวังอะไรมาก ก็อยู่ตามประสาคนแก่แล้ว อยู่ในไร่ทุกๆวัน บางครั้งก็ออกไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง ไปครัวลุงรงค์บ้าง ไปต่างจังหวัดบ้าง แต่ก็ยังมีสื่อเป็นของตนเองคือช่อง TikTok ที่ทำ โดยมีคนในครอบครัวช่วยกัน ในช่วงวันหยุดก็จะนำสินค้าไปขายที่ร้านครัวลุงรงค์
ในส่วนการโยงในเรื่องประเด็นทางการเมืองตรงนี้ ป๋าก็ไม่รู้ เพราะป๋าไม่ได้ยุ่ง หรือ เข้าไปพูดเกี่ยวกับการเมืองแล้วยุติบทบาทไปนานแล้ว เราห้ามคนที่จะคิด หรือ พูดได้ก็ต้องปล่อยให้เขาพูดกันไป ตนก็ยังขอบคุณแฟนคลับ คนที่คอยสนับสนุนอุดหนุนสินค้าของครอบครัวของตนเอง ตอนนี้ป๋าอายุมากแล้ว จะอยู่หรือไปก็ไม่รู้วันไหน เพื่อนๆตลกก็ไปกันหลายคนแล้ว ส่วนรางวัลที่ได้มานี้ ตนก็ขอบคุณทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นอีกครั้งที่เห็นถึงความสามารถที่ตนเคยเป็นศิลปินตลกมาเกือบชั่วชีวิต
สำหรับประวัติของป๋าเทพ หรือ ชื่อจริง สุเทพ โพธิ์งาม ชื่อเล่น เทพ เกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2492 เกิดที่อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด แต่ไปเติบโตที่นราธิวาส เรียนจบประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนบ้านยะบะ(อุปการวิทยา) อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ก่อนย้ายมาอยู่สะเดา หาดใหญ่ เคยทำงานกับหน่วยฉายหนังกลางแปลง ได้เงินค่าจ้างวันละ 5 บาท ซึ่งได้มีโอกาสเป็นนักพากย์การ์ตูนในหนังกลางแปลงเพราะขาดนักพากย์พอดี ทำอยู่ 7 ปี หนังกลางแปลงถูกยุบ จึงหันเหไปเป็น กรรมกรในโรงถ่าน และได้ไปสมัครงานกับวงดนตรีเพลิน พรมแดน ประมาณ พ.ศ. 2512 นับเป็นการเริ่มต้นในวงการจึงได้เจอกับ เด่น ดอกประดู่ให้มาเล่นตลกหน้าเวที หลังจากเด่น ออกจากวงดนตรีเพลินพรมแดน เด่นได้ชวนเขาเข้าร่วม คณะ เด่น เด๋อ เทพ ประมาณ พ.ศ. 2520 จากนั้น 2 ปี ได้แยกมาตั้งคณะ "เทพเพชรธงจิ๋ม" ต่อมาได้น้อย โพธิ์งาม แฉ่ง ช่อมะดัน หม่ำ จ๊กม๊ก มาร่วมคณะกลายเป็นคณะ เทพ โพธิ์งาม จนถึงประมาณปี 2538 จึงได้เลิกเล่นคาเฟ่รับงานทีวี ละคร ภาพยนตร์ อย่างเดียว
ชีวิตครอบครัว ใช้ชีวิตคู่ร่วมกับ ภัสราวรรณ ทรงพีระพัฒน์ (จุ๋ม) มีบุตรธิดา 2 คนคือ "ทอฟฟี่" นิชาภา โพธิ์งาม อดีตนักร้องค่าย "ลักษ์มิวสิก" และไทค์ ธนพล โพธิ์งาม (ภัทร โพธิ์งาม) ในปี พ.ศ. 2558 ทั้งคู่ก็ได้ประกาศแยกทางกันหลังจากอยู่กินกันมานานถึง 35 ปี และในปี พ.ศ. 2559 ได้ประกาศว่ากลับมาคืนดีกันอีกครั้ง[1] และมีน้องสาวอีกคนที่เป็นนักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน คือ น้อย โพธิ์งาม
"ป๋าเทพ" มีผลงานการแสดงละคร 38 เรื่อง และภาพยนตร์จำนวน 85 เรื่อง และยังเป็นผู้กำกับ 1 เรื่อง และเขียนบทภาพยนตร์อีกด้วย โดยผลงานทางด้านละคร อาทิ พ.ศ. 2526 เธอกับฉัน , ตามจับตามจีบ และ หลวงตา , กองร้อย 501 ตอน แผ่นดินข้าใครอย่าแตะ และ นายฮ้อยทมิฬ , คมแฝก และ ปีสุดท้าย พ.ศ. 2561 เรื่องตี๋ใหญ่ 2 ดับ เครื่อง ชน
"ป๋าเทพ" นอกจากการเป็นนักแสดงตลกแล้ว ยังเคยประกอบธุรกิจหลายอย่าง จนเป็นหนึ่งชื่อเสียงของเจ้าตัว เพราะบ่อยครั้งที่ "ป๋าเทพ" ทำธุรกิจ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร อู่ซ่อมรถ ร้านเสริมสวย บ้านจัดสรร ร้านหมูกระทะ ฯลฯ ก่อนจะผันตัวมาทำแบรนด์น้ำข้าวกล้อง ยี่ห้อ "โพธิ์งาม" แต่ก็ทำได้ไม่นาน เพราะมีปัญหาการขึ้นทะเบียน อย. จนต้องล้มเลิกไป
และนอกเหนือจากการทำหน้าที่พิธีกร หรือคอมเมนเตเตอร์รายการเพลงลูกทุ่ง "เทพ โพธิ์งาม" ยังมีกิจการ "ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ" ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 หลังเจ้าตัวประกาศลาออกจากวงการบันเทิงในปี 2557 และมาใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่ในหมู่บ้านไผ่สามเกาะ ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยใช้การโปรโมทผ่านแฟนเพจ รวมถึงกลุ่มแฟนคลับพากันอุดหนุนอยู่เสมอ รวมถึงยังมีร้าน “ภักดีคาเฟ่” ที่ตั้งอยู่ที่ไร่ป๋าเทพด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี