ทนายของหญิงผูกคอเสียชีวิต 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุก ปมครอบครองปรปักษ์ เผย ผู้เสียชีวิตเคยบ่นกับคนรอบตัว และปรึกษาทนายว่า เครียดจากคดีที่เกิดขึ้น เนื่องจากคู่กรณีใช้สื่อกดดัน ประกอบกับมีโรคประจำตัวร้ายแรง
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 พนักงานสอบสวน สน.คันนายาว รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากการผูกคอ ภายในบ้าน ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนกาญจนาภิเษก จึงประสานเจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าร่วมตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้านเดี่ยวสองชั้น พบร่างนางสาวภานุมาส อายุ 52 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นห้องนอนชั้น 2
จากการสอบถามญาติทราบว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ออกไปซื้อของด้านนอก และกลับเข้ามาในบ้านพักในช่วงเวลาประมาณ 08:00 น. ไม่สามารถเรียกผู้เสียชีวิตได้ เพราะประตูห้องนอนล็อกอยู่ จึงปีนขึ้นไปดูที่บริเวณชั้นสอง จึงพบว่าผู้เสียชีวิตผูกคออยู่ภายในห้องน้ำที่บริเวณประตู จึงปีนเข้าไปและช่วยนำร่างลงมาที่พื้น และเริ่มขั้นตอนการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สาเหตุของการเสียชีวิต น่าจะมาจากการผูกคอโดยใช้ผ้าปูเตียง ฉีกเป็นเส้น และไม่พบร่องรอยการต่อสู้
เบื้องต้นสำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ เป็นหนึ่งในเพื่อนบ้านที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุก จากข่าวการครอบครองปรปักษ์ บ้านทาวน์โฮมหลังหนึ่ง ในพื้นที่รามอินทราซอย 58 ท้องที่ สน.โคกคราม ที่เป็นข่าวดังในช่วงที่ผ่านมา
พนักงานสอบสวนได้มอบร่างให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเคลื่อนย้ายส่งชันสูตร ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ
เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ให้ข้อมูลว่า จากการเข้าร่วมตรวจสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช พบว่าผู้เสียชีวิตคาดว่าจะเสียชีวิตไม่นาน อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพราะร่างยังไม่เปลี่ยนสภาพ ยังไม่แข็ง
อาสามูลนิธิ ผู้ร่วมกตัญญู ที่เป็นอาสาชุดแรก ที่เดินทางไปถึงยังจุดเกิดเหตุ ระบุว่า เบื้องต้นเมื่อตนเองเดินทางเข้าไปถึงพบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่ที่บริเวณชั้นสองภายในห้องนอน จากการตรวจสอบสัญญาณชีพ พบว่าเสียชีวิตแล้ว จากการสอบถามกับทางญาติ ให้ข้อมูลว่าช่วงเช้าหลังจากกลับมาจากการเดินทางไปข้างนอก พบว่าประตูห้องนอนล็อค จึงพยายามเรียกแต่ ไม่มีใครตอบกลับ จึงปีนไปดูที่ระเบียง พบว่าผู้เสียชีวิตผูกคออยู่ภายในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน จึงรีบพังประตูเข้าไปและเคลื่อนย้ายร่างลงสู่พื้น และเริ่มทำการช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ
ขณะที่ อมรินทร์ทีวี ได้สัมภาษณ์ทนายความ ของฝ่ายคู่กรณีของเจ้าของบ้าน ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ ลูกความของตนมีความเครียด ที่ฝ่ายตรงข้ามใช้สื่อเป็นเครื่องมือ และรู้สึกเครียด และบ่น อยากจะหาทางออก เขาเองก็อยากไกล่เกลี่ยกับเจ้าของบ้าน จนเขามีอาการจิตตก และมีโรคประจำตัวร้ายแรงอยู่แล้ว
ฝ่ายเจ้าของบ้าน ใช้สื่อเป็นตัวกดดัน ใช้เสรีภาพอย่างขาดความรับผิดชอบ ตนคิดว่า น่าจะกดดันจนทำให้เขาจิตตก ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนก็ได้พูดคุยแนะนำลูกความเป็นระยะๆ แต่ก็มาเกิดเรื่องร้ายก่อน ขณะนี้ตนอยู่เชียงใหม่ จะรีบกลับให้เร็วที่สุด
หลังจากนี้ต้องคุยกับญาติว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ตนเห็นใจที่เขาจิตตก ไม่สบายใจมาก ส่วนคดีนั้นมีโทษร้ายแรง จนทำให้เครียดจนจบชีวิตตัวเองหรือไม่นั้น ทนายมองว่า พยายานหลักฐานและข้อกฎหมายนั้น สู้ได้ทั้งคดีอาญา และคดีแพ่ง แต่ตอนนี้ภาวะจิตใจเขาเครียด และรับไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าในวันนั้นเขาไม่ตัดสินใจฟ้องครอบครองปรปักษ์ จะเกิดเรื่องวันนี้หรือไม่ ทนายกล่าวว่า
“จริงๆ แล้วเขาโดนดำเนินคดีอาญาก่อน เขาก็เครียดมาระยะหนึ่ง แต่ว่าวิธีการแก้ไขปัญหาของทนายฝ่ายตรงข้าม เอาสื่อเป็นตัวนำ ซึ่งเขาก็อยากจะแก้ไขปัญหาให้พี่สาวเขาเหมือนกัน โดยเขาออกหน้าไปรับผิดชอบโดยไม่ปรึกษาทุกคน เพราะไม่อยากมีปัญหาเรื่องคดี”
ทนาย กล่าวว่า เขาเคยพูดว่า ถ้าคดีแพ้ ก็แพ้ไป ถ้าชนะเขาจะคืนบ้านให้ไปฟรีๆ เขาไม่อยากได้ แต่ตอนนี้เขาถูกกดดันเรื่องคดีอาญา เขาจึงต้องปกป้องสิทธิของตน ผมว่าตอนนี้การใช้สื่อกดดัน ต้องใช้เสรีภาพบนความรับผิดชอบก็เช่นกัน
ส่วนที่มีการโทษทนาย เขามีคดีอาญาอยู่แล้ว และเขาก็มีสิทธิอยู่แล้ว ถ้าเกิดไม่มีคดีอาญาวันนั้น เขาก็อาจจะไกล่เกลี่ยสำเร็จไปแล้ว และคนครอบครองไม่ใช่คนที่ตาย แต่เป็นพี่สาวของเขา ส่วนการครอบครองปรปักษ์นั้น เป็นความเห็นทั่วไปของทนาย ไม่ใช้การยุยงส่งเสริม
ที่มา : เที่ยงวันทันเหตุการณ์ , อมรินทร์ทีวี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'อากู๋'ช็อก! แสดงความเสียใจ ขออโหสิกรรม ผู้บุกรุกครอบครองปรปักษ์ ผูกคอจบชีวิต
ด่วน! เพื่อนบ้านคดีครอบครองปรปักษ์เครียดจัด ตัดสินใจผูกคอลาโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี