7 จังหวัดภาคเหนือเผชิญวิกฤตฝุ่นพิษต่อเนื่องระดับสีแดง ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าน่าเป็นห่วง ปะทุลุกลามหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังดับไฟบริเวณผาดำ ในอุทยานฯออบหลวง ทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน ส่งผลให้เชียงใหม่พบจุดความร้อนเพิ่ม 142 จุดใน 12 อำเภอ ทะลุร้อยจุดครั้งแรกของปี ด้านสำนักฯ16 สั่งงดชิงเผาถึง 29 ก.พ.เป็นรอบสอง ลดฝุ่น ขณะที่นายกฯสั่งทุกหน่วยที่รับผิดชอบทำแผนเผชิญเหตุดับไฟ
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เกาะติดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยเฉพาะหลายจังหวัดในภาคเหนือยังน่าเป็นห่วง
7จว.เหนือค่าฝุ่นอ่วมระดับสีแดง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” พบ 18 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐาน โดยมี 7 จังหวัดที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจระดับสีแดงคือ จ.ลำพูน 115.7 ไมโครกรัม ลำปาง 104.5 ไมโครกรัม สุโขทัย 88.4 ไมโครกรัม แพร่ 86.7 ไมโครกรัม เชียงใหม่ 86.3 ไมโครกรัม ตาก 82.9 ไมโครกรัม และแม่ฮ่องสอน 77.8 ไมโครกรัม ขณะที่อีก 11 จังหวัดมีค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ
กรุงเทพฯคุณภาพอากาศดี
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครพบค่าคุณภาพอากาศปานกลางถึงดี โดยแอปพลิเคชั่น“เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 พบหลายพื้นที่ค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับสีส้มต่อเนื่องโดยเฉพาะโซนภาคเหนือ ประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
เชียงใหม่PM2.5พุ่งเกินมาตรฐาน
ด้านนพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ว่า ค่าเฉลี่ยทั้งจังหวัดมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน สูงสุดที่ต.หางดง อ.ฮอด วัดค่า PM 2.5 ได้ 82.4 มคก./ลบ.ม. จึงแจ้งเตือนประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัย ลดการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งสถานการณ์ในอ.แม่แจ่ม อ.ฮอด อ.อมก๋อย สภาพท้องฟ้าหลัว แสงพระอาทิตย์แดงอมส้ม จากหมอกควันปกคลุมตลอดวันต่อเนื่องเกินกว่า 2 สัปดาห์แล้ว
จุดความร้อนพุ่ง142จุด
ขณะที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เชียงใหม่ รายงานพบจุดความร้อน (Hotspot) รอบเช้าวันเดียวกันนี้ พุ่งขึ้นสูง 142 จุด ในพื้นที่ 12 อำเภอ จากทั้งหมด 25 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่แจ่ม 52 จุด ฮอด 42 จุด ดอยเต่า 11 จุด เชียงดาว 8 จุด แม่แตง 7 จุด จอมทอง 6 จุด พร้าว 4 จุด อมก๋อย 4 จุด สะเมิง 3 จุด ดอยสะเก็ด 3 จุด สันทราย 1 จุด และไชยปราการ 1 จุด ถือว่าเกิดจุดความร้อนมากเกิน 100 จุดเป็นครั้งแรกของปีนี้ โดยอ.ฮอด ตรวจพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นใหม่ 42 จุด
สรุปสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอนพบค่า PM 2.5 มีค่าระหว่าง 25.9-82.4 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ และพบพื้นที่ที่ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพที่ ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ PM2.5 วัดได้ 82.4 มคก./ลบ.ม. พบพื้นที่ที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย วัดได้ 46.9 มคก./ลบ.ม. ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ วัดได้ 39.2 มคก./ลบ.ม. ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ วัดได้ 37.7 มคก./ลบ.ม. ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูนวัดได้ 51.5 มคก./ลบ.ม. ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูนวัดได้ 74.7 มคก./ลบ.ม. ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนวัดได้ 39.1 มคก./ลบ.ม. ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน วัดได้ 48.4 มคก./ลบ.ม. คาดการณ์การสะสมของฝุ่นภาพรวมภาคเหนือถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ คุณภาพอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
เร่งดับไฟในอทช.ออบหลวง
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดับไฟป่าที่กระจายวงกว้าง โดยศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่าภาค 3 กองทัพภาคที่ 3 และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ KA-32 เพื่อดับไฟทางอากาศในพื้นที่ ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ เนื่องจากยังพบประชาชนบางส่วนมุ่งหน้าเข้าไปหาของป่าในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวง ทั้งที่จังหวัดออกประกาศห้ามเข้าพื้นที่เด็ดขาดแล้วก็ตาม ส่วนพื้นที่โซนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ ไฟป่าเริ่มปะทุในหลายพื้นที่ไล่ตั้งแต่ สถานีควบคุมไฟป่าผาแดง อ.เชียงดาว เริ่มพบจุดความร้อน ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดงหลายจุด สาเหตุมาจากการหาของป่า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ ระดมกำลังเข้าสกัดไฟป่าที่ลุกไหม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง ทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) เข้าโปรยน้ำดับไฟต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณผาดำ พื้นที่หน้าผาสูงชันเข้าถึงลำบาก ซึ่งยังไม่สามารถดับไฟได้ เพราะไฟป่าเกิดขึ้นหลายจุดและยังมีการลักลอบจุดไฟเพิ่ม ประกอบกับมีใบไม้แห้งสะสมอยู่จำนวนมากทำให้ไฟป่าไหม้ลามอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าหน้าที่วางแผนตักน้ำอ่างน้ำห้วยสะแพด ต.แม่สอย อ.จอมทอง มาใช้ดับไฟป่าในอ.ฮอด รวมถึงอ่างเก็บน้ำใกล้เคียง
ไฟป่าปะทุสั่งงดชิงเผารอบ2ถึง29กพ.
นายกริชสยาม คงสตรี ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ สั่งระดมกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฝ่ายปกครอง ทหาร ผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ลงพื้นที่ช่วยสกัดไฟ ทั้งนี้ หากพบคนจุดไฟเผาป่าให้ดำเนินคดีเด็ดขาด นอกจากนี้ ยังสั่งงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงทุกพื้นที่ระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ เนื่องด้วยสถานการณ์ไฟป่ามีความรุนแรง ประกอบกับอัตราการระบายอากาศต่ำ ส่งผลให้ค่า PM2.5 สูงขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์อำเภอที่รายงานวอร์รูมจังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิงหรือชิงเผาของอช.ศรีลานนา 17 แปลงเนื้อที่ 2,493 ไร่ และอช.อินทนนท์ 7 แปลง 540.23 ไร่ และข้อมูลจากระบบ FireD มีคำขอรวมตั้งแต่ 1 ม.ค.-26 ก.พ.67 รวม 5,200 คำขอ 166,826.4 ไร่ อนุมัติให้ดำเนินการ 4,799 ราย 156,322.9 ไร่ มีการรายงานผลการดำเนินการ 3,201 ราย 117,910.2 ไร่ โดยจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจจับได้เป็นจุดความร้อนที่เกิดในพื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิงหรือ Hotspot สีเขียวและลบออกจากข้อมูลจำนวน 153 จุด.
นายกฯห่วงไฟป่าปะทุสั่งคุมเข้ม
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นห่วงสถานการณ์ไฟป่าในหลายพื้นที่ ล่าสุดที่จ.แม่ฮ่องสอน มีแนวโน้มเกิดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนที่มีจุดความร้อนและจุดเสี่ยงเกิดการปะทุไฟได้มาก รวมถึงฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม และการดับไฟป่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้กำลัง เครื่องมือและอุปกรณ์ ที่อาจเกินกำลังในการควบคุมและดับไฟ
นายชัยกล่าวว่า นายกฯ สั่งกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าประมาทและร่วมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงและมีความร้อนสูงในแต่ละจุดเพื่อป้องกัน และเมื่อเกิดไฟต้องรีบเข้าควบคุมและดับในระยะเริ่มแรกให้เร็วที่สุด และสั่งให้วางแผนเผชิญเหตุให้รัดกุม ปฏิบัติได้ โดยมอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นกลไกหลักบูรณาการทุกระดับทั้งจังหวัด อำเภอและระดับท้องถิ่น รวมทั้งความร่วมมือจากกองทัพเพื่อป้องกันและรับมือสถานการณ์ไฟป่า ให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในจุดเสี่ยงป้องกันไฟป่าที่เกิดขึ้นง่ายช่วงฤดูร้อน และให้มีแผนเผชิญเหตุแก้ไขสถานการณ์ร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี