โผล่แล้วอดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์เมียนักธุรกิจโคราชที่สามีโพสต์เฟสบุ๊กประกาศตามหาพร้อมตั้งรางวัล 3 หมื่นบาท ด้านเมียอุ้มลูกสาววัย 5 ขวบร้อง "ปวีณา"ช่วย แฉถูกสามีทำร้ายร่างกายทั้งตบและถีบ ยันต้องการหย่าขาดและเป็นผู้ดูแลบุตรเพียงฝ่ายเดียวโดยที่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :นักธุรกิจโคราชตั้งเงินรางวัล 3 หมื่นประกาศตามหา'อดีตผู้สมัครสส.-ลูกสาว'วัย 5 ขวบหายไป 13 วัน)
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 29 ก.พ.67 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หมู่ 2 คลอง 7 ธัญบุรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี น.ส.ใหม่ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ได้เดินทางเข้าพบนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังจากที่นายพงษ์ภูมิพันธ์ หรือนายปิ๊ก อายุ 42 ปีสามีทำร้ายร่างกาย ใช้ปืนยิง ใช้มีดคัดเตอร์กรีดเสื้อผ้าเสียหาย ยึดโทรศัพท์ไม่ให้ใช้ และไล่ออกจากบ้านจนทนพฤติกรรมสามีไม่ไหว ตัดสินใจพาลูกหนีออกจากบ้าน แต่สามีกลับร้องสื่อประกาศตามหาว่าคนหายเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนตัดสินใจเดินทางเข้าขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา
น.ส.ใหม่ เล่าว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้ตัดสินใจโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ พร้อมกับเล่าว่า ตนได้อยู่กินกับนายปิ๊ก ซึ่งจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันอายุ 5 ขวบ ขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสามีมักจะมีอารมณ์รุนแรงโมโหร้ายอยู่ตลอดหาเรื่องทะเลาะกับตน ซึ่งตนไม่อยากมีปัญหาจึงได้แต่ทนอยู่เพื่อลูก แต่ระยะหลังสามีเริ่มมีอารมณ์รุนแรงมากขึ้น หงุดหงิดง่ายทุกครั้งที่มีปัญหาลูกจะอยู่ด้วย ตนจึงเป็นฝ่ายเงียบตลอด
ต่อมาช่วงปลายเดือน พ.ย.66 มีปัญหากับเรื่องร้านอาหาร ออเดอร์อาหารออกช้าทำให้ลูกค้าบ่น ตนจึงได้เข้าไปจัดระบบในครัว อยู่ๆสามีได้เข้าไปต่อว่าตนและพนักงานในครัวใช้คำพูดหยาบคาย ตนจึงได้อธิบายเหตุผลให้ฟัง แต่สามีไม่รับฟังแล้วเดินเข้ามาตบหน้าตน 2 ครั้ง ต่อหน้าพนักงานเกือบ 10 คนจากนั้นตนกับสามีจึงได้เดินไปที่ออฟฟิศ ซึ่งอยู่ภายในพื้นร้านอาหารเพื่อรับความเข้าใจกัน แต่สามีกลับด่าทอตนและไล่ออกจากร้านอาหาร พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงโซฟาที่ตนนั่งอยู่ กระซากแขนให้ออกไปจากออฟฟิศจนล้มลงแล้วใช้เท้าเตะเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้ง จากนั้นตนจึงได้กลับมาที่บ้านพ่อแม่ แต่ไม่ได้เข้าแจ้งความ ซึ่งตนคิดว่ารอให้อารมณ์สามีเย็นลงน่าจะคุยกันได้ แต่สามีก็ยังเป็นเหมือนเดิม
จนวันที่ 13 ก.พ.67 พ่อแม่สามีเห็นว่าทะเลาะกันบ่อยจึงได้เรียกตนกับสามีไปพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกัน แต่สามียืนยันว่าจะเลิกกับตนและคุกเข่ากราบพ่อพูดว่าขอชีวิตผมคืน ผมอยากมีความสุข ผมอยากเริ่มต้นใหม่ยืนยันจะเลิก แต่พ่อกับแม่ช่วยเจรจาขอให้อยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนเดิม หลังจากนั้นตนได้เดินขึ้นไปบนห้องนอนและหยิบโทรศัพท์มือกือเข้าแอปธนาคารเพื่อจ่ายค่าไฟร้านอาหาร สามีเดินตามขึ้นห้องไปเห็นตนจับโทรศัพท์อยู่จึงเข้ามาตบหน้าตน 1 ครั้ง ตนจึงได้ลงมาบอกพ่อกับแม่ว่ากูกสามีทำร้ายอีก และได้เรียกคุยกันอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้บทสรุป สามีจึงขับรกออกจากบ้านไป
กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. สามีกลับเข้ามาบ้านแล้วได้ยึดโทรศัพท์ตนไปไม่ยอมคืนให้ใช้อีกเลย คืนวันที่ 14 ก.พ.67 สามีได้ต่อว่าตนอีกว่ามีอะไรชอบไปฟ้องพ่อแม่เขา ทำให้เขาดูไม่ดีในสายตาพ่อแม่ ชอบไปนั่งปั้นหน้าให้พ่อแม่สงสาร และไล่ออกจากบ้านอีก แต่ตนไม่ได้ตอบโต้อะไร
ต่อมาวันที่ 15 ก.พ.67 จนเวลาประมาณ 21.00 น.สามีกลับเข้ามาบ้านเพื่อมาร่วมงานทำบุญบ้าน แต่ตนไม่ทันเห็นว่าสามีมากึงแล้วเพราะตนป้อนข้าวลูกอยู่ในบ้าน เมื่อตนเดินไปหาสามีกลับกูกสามีไล่ให้ไปไกลๆ หาเรื่องทะเลาะและใช้เท้ากีบที่ต้นขาตนจนล้มลง จากนั้นสามีได้กือมีดคัดเตอร์ไปกรีดเสื้อผ้าของตนและลูกสาว และพูดว่ากูเป็นคนซื้อให้กูจะทำอะไรก็ได้ ทำให้ตนรู้สึกกลัวมาและไม่กล้าพูดอะไร
กระทั่งวันที่ 16 ก.พ.67 เวลาประมาณ 07.30 น. ขณะที่ตนไปส่งลูกที่โรงเรียนกับน้องสาวสามีจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าตนจะไม่ทนอยู่อีกต่อไป จึงพาลูกหนีเข้ามา กทม.เข้าแจ้งความไว้แล้วและติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ต้องการหย่าขาดและเป็นผู้ดูแลบุตรเพียงฝ่ายเดียว โดยที่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก
หลังรับแจ้งนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และประสาน พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา และให้ น.ส.ใหม่ เข้าให้ปากคำ และมูลนิธิปวีณาฯได้รอรับตัว น.ส.ใหม่พร้อมลูกวัย 5 ขวบเข้ามาอยู่ในการดูที่มูลนิธิปวีณาฯแล้ว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี