รองโฆษก อสส.เผยตั้งอัยการชุด"คดีเป้รักผู้การ" สอบตร. อรัญฯ ปม"ลุงเปี๊ยก"แพะแก๊งลูกตำรวจฆ่าป้าบัวผัน เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่ ระบุแนวทางจะตรวจสอบว่าขั้นตอนการคุมตัวถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะที่ระบุ"ลุงเปี๊ยก"ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก แต่ขออุบไว้ก่อน
วันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่กรมคุมประพฤติ ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และในฐานะแนวทางการสอบสวนตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ จะต้องเริ่มจากการตรวจสอบว่ามีการแจ้งการควบคุมตัวไปยังนายอำเภอหรืออัยการจังหวัดตามกฎหมายหรือไม่ เมื่อควบคุมตัวแล้วได้พาลุงเปี๊ยกไปที่ใด มีการบันทึกภาพระหว่างการสอบปากคำหรือไม่ ได้เข้าร่วมการประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 9/2567 หรือคดีลุงเปี๊ยก (ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีว่าภายหลังจากที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษนั้น
นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้ากรณีนายปัญญา คงแสนคำ หรือ ลุงเปี๊ยก ที่ถูกตำรวจสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ทำร้ายเพื่อให้รับสารภาพคดีทำร้าย"ป้าบัวผัน"เสียชีวิต ซึ่งพฤติกรรมของตำรวจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565
โดยก่อนหน้านี้นายกัน จอมพลัง ได้พาญาติของลุงเปี๊ยก มาร้องทุกข์ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเข้าข่ายความผิด จึงทำให้ดีเอสไอรับสอบสวนคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษได้ตาม มาตรา 31 ไปด้วยตามกฎหมาย โดยสำหรับการสอบสวนจะต้องให้อัยการเข้ามากำกับการสอบสวนตั้งแต่แรกจนถึงสรุปสำนวน ซึ่งดีเอสไอได้ส่งหนังสือไปยังอธิบดีอัยการสอบสวนแล้ว
นายวัชรินทร์ กล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าสอบปากคำลุงเปี๊ยกที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ที่ให้การรักษาแล้ว ลุงเปี๊ยกสามารถให้การได้เป็นอย่างดี และได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษยังได้ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อสอบปากคำพยานในคดีนี้เบื้องต้นแล้ว 7 ปาก ซึ่งมีทั้งตำรวจ และชาวบ้านที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ของลุงเปี๊ยกไว้ได้
ส่วนแนวทางการสอบสวนนั้น เนื่อง จากข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจนแล้วว่าเป็นการควบคุมตัวลุงเปี๊ยกไม่ใช่การเชิญตัวตามที่ตำรวจกล่าวอ้าง ดังนั้น แนวทางการสอบสวนตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ จะต้องเริ่มจากการตรวจสอบว่ามีการแจ้งการควบคุมตัวไปยังนายอำเภอหรืออัยการจังหวัดตามกฎหมายหรือไม่ เมื่อควบคุมตัวแล้วได้พาลุงเปี๊ยกไปที่ใด มีการบันทึกภาพระหว่างการสอบปากคำหรือไม่ และจะทำการตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐว่าเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.อุ้มหายฯเพื่อให้ได้มาซึ่ง คำรับสารภาพจากลุงเปี๊ยกหรือไม่ เช่น บังคับให้สารภาพ ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ส่วนผู้บังคับบัญชาจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ด้วยหรือไม่นั้น นายวัชรินทร์ กล่าวว่า จะต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมว่ารู้เห็นการกระทำ และได้ยับยั้งเพื่อไม่ให้เกิด การกระทำนั้นหรือไม่ หากพบว่ามีความผิด ผู้บังคับบัญชาจะต้องรับโทษกึ่งหนึ่ง
นายวัชรินทร์ ย้ำว่าคณะทำงานชุดนี้ประกอบไปด้วยอัยการ 9 คน ซึ่งเป็นชุดเดียวกับชุดที่ร่วมกำกับการสอบสวนใน"คดีเป้รักผู้การ"กรณีเรียกรับทรัพย์จากเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท และยังมีอัยการที่ร่วมร่าง พ.ร.บ.อุ้มหายฯ อยู่ในคณะทำงานด้วย จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า เรื่องนี้ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือให้การช่วยเหลือผู้ใด แม้แต่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยว ข้อง หรือผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ยับยั้งการกระทำก็จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เหมือนคดีของผู้กำกับโจ้ ยืนยันว่าเอาจริงและจะไม่มีอัยการคนใดถูกข่มขู่ในการทำคดีอย่างแน่นอน
ส่วนความคืบหน้าใน"คดีเป้รักผู้การ"นั้น รองอธิบดีอัยการ ยืนยันว่าได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรณีที่ผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมมาเรียบร้อยแล้วตามสิทธิ์ของผู้ต้องหา โดยคณะพนักงานสอบสวนจะประชุมคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 18 มีนาคมนี้ เพื่อสรุปว่าจะสั่งฟ้องผู้ต้องหารายใดบ้างในความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ และจะดำเนินการให้เสร็จก่อนช่วงวันสงกรานต์ว่า ซึ่งไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหายื่นพยานหลักฐานเพื่อร้องขอความเป็นธรรมอีก เนื่องจากได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานที่ผู้ต้องหาทั้ง 33 รายได้ยื่นขอความเป็นธรรมมาเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว
ส่วนนายต้น หนึ่งในผู้ต้องหาที่หลบหนีไปนั้น มีมติแล้วว่าจะแจ้งไปยังตำรวจสากลเพื่อออกหมายน้ำเงินสำหรับผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีออกหมายจับแล้ว เพื่อให้ติดตามที่อยู่ของผู้ต้องหา และเมื่ออัยการได้สั่งฟ้องแล้วก็จะเปลี่ยนเป็นหมายแดง เพื่อติดตามจับกุมและดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
นายวัชรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ตำรวจ สภ.อรัญญประเทศ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 157 เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในคดีบังคับลุงเปี๊ยกรับสาร ภาพฆ่าป้าบัวผันนั้น ทาง ป.ป.ช. จังหวัดสระแก้ว ก็จะส่งสำนวนกลับมาให้ดีเอสไอดำเนินการร่วมกับอัยการสำนัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี