ปธ.กสม.ส่งสารวันสตรีสากล ประจำปี 2567 ขอผู้หญิงยืนหยัดต่อสู้ไม่ตกเป็นเหยื่อการใช้อำนาจ ระบุหญิงไทยถูกกระทำความรุนแรงและถูกล่วงละเมิดทางเพศมากเป็นอันดับต้นๆของโลก วอนสังคมเคารพสิทธิ - ไม่เลือกปฏิบัติเพื่อให้ปลอดภัยจากความรุนแรง
7 มี.ค.67 น.ส.พรประไพ กาญจนรินทร์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ส่งสารเนื่องในวันสตรีสากลประจำปี 2567ระบุสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันสตรีสากล เพื่อรำลึกถึงความหาญกล้าของผู้หญิงในอดีตที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิของตน และเพื่อให้ทุกภาคส่วนของสังคมร่วมกันส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของสตรีและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ วัฒนธรรมแบบชายเป็นใหญ่ที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงต้องเผชิญกับความเหลื่อมล้ำและถูกเลือกปฏิบัติจากอคติทางเพศ ผู้หญิงจำนวนมากต้องตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง ทั้งความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ โดยมีรายงานระบุว่าผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ตัว เช่น อดีตคนรัก บุคคลในครอบครัว หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา และพบว่าผู้หญิงไทยถูกกระทำความรุนแรงและถูกล่วงละเมิดทางเพศ มากกว่า 7 คนต่อวัน ซึ่งมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
นอกจากนี้ ผู้หญิงจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยเมื่อตั้งครรภ์ไม่พร้อม ขณะที่ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อถูกทำร้ายหรือกระทำทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจยังมีอุปสรรคในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมที่เป็นมิตร บางกรณีไม่มีพนักงานสอบสวนหญิง และในเหตุรุนแรงหลายกรณี เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่อาจคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัยให้ผู้หญิงได้ เช่น กรณีตำรวจไม่รับแจ้งความจากหญิงรายหนึ่งซึ่งถูกอดีตสามีทำร้ายถึง 3 ครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาเหล่านี้ยังมีความอ่อนไหวมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นกับกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้หญิงและเด็กหญิงที่อยู่ในพื้นที่การสู้รบ กลุ่มชาติพันธุ์ แรงงานข้ามชาติ หญิงพิการ หรือผู้หญิงที่ติดเชื้อเอชไอวี
น.ส.พรประไพ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาคทางเพศ โดยได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงเป็นประเด็นสำคัญของการขับเคลื่อนในงานสมัชชาสิทธิมนุษยชนปีที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อมติที่เสนอแนะให้รัฐบาลกำหนดให้การยุติความรุนแรงในครอบครัวเป็นวาระแห่งชาติ และให้มีแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยพิจารณาจากต้นเหตุรากเหง้าของความรุนแรง ตลอดจนพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางเพื่อจัดเก็บข้อมูลความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงอย่างเป็นระบบ โดยจำแนกข้อมูลตามอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ ท้องที่ภูมิศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างผู้เสียหายกับผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอแนะของคณะกรรม การประจำอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (CEDAW)
"เนื่องในโอกาสวันสตรีสากลประจำปี 2567 กสม. จึงขอเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงและเด็กหญิงที่กำลังเผชิญกับความรุนแรงทุกรูปแบบ กล้ายืนหยัดในสิทธิของตนที่จะต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของการใช้อำนาจ รวมทั้งขอให้ทุกคนในสังคมไม่ว่าเพศใด เคารพสิทธิและความเสมอภาคทางเพศ ปรับทัศนคติเรื่องการใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่น ตลอดจนขอให้รัฐบาลและทุกภาคส่วนของสังคมให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการจัดบริการที่จำเป็นสำหรับผู้หญิง เช่น บริการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย ตามสิทธิที่กำหนดไว้ในกฎหมาย การจัดให้มีพนักงานสอบสวนหญิงที่เพียงพอ การสร้างเสริมศักยภาพของผู้หญิงและส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้หญิงในทุกระดับ เพื่อนำไปสู่สังคมที่เป็นธรรม ปราศจากการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ และปลอดภัยจากการใช้ความรุนแรง" ประธาน กสม.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี