นักธุรกิจโคราชสามีอดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.คุกเข่าขอคืนดีภรรยาและลูกสาว
วันที่ 7 มี.ค.67 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มาพบกับนางปวีณา หงสกุล เพื่อเข้าช่วยเหลือ น.ส.ใหม่ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ถูกสามีทำร้ายหนีออกจาบ้านพร้อมลูกสาววัย 5 ขวบและมีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดปทุมธานี โดยมีนายพงษ์ภูมิพันธ์ หรือ นายปิ๊ก อายุ 42 ปีสามีมาพร้อมทนายความของสามีและคุณพ่อคุณแม่สามีมาร่วมประชุมด้วย เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน หากเจรจากันได้ให้ทำข้อตกลงหากเจรจากันไม่ได้ก็ต้องดำเนินการฟ้องศาลเยาวชนและครอบครัว
ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า วันนี้ทางด้านมูลนิธิปวีณาได้เชิญตนมาปรึกษาหารือข้อกฎหมายให้กับน้องใหม่ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลังจากเจรจากันแล้วทางด้านฝ่ายชายขอลูกสาวนำกลับไปและจะหย่าให้แล้วให้ลูกสาวอยู่ในความดูแลของฝ่ายชาย และจะนำน้องผู้เสียหายไปพบแพทย์เพื่อความสบายใจของน้องเขา ซึ่งทางตนและมูลนิธิปวีณาพร้อมทั้ง พมจ.ปทุมธานี ก็ไม่เห็นด้วยที่เขาจะพาลูกสาวกลับไป และทางเราก็เสนอไปว่าถ้าหย่าก็ให้หย่าเลย เมื่อหย่าเสร็จแล้วก็ให้แยกกันอยู่ซักพักหนึ่ง ถ้าฝ่ายชายปฏิบัติตัวตามที่น้องผู้เสียหายสบายใจนั้นก็เป็นเรื่องของน้องผู้หญิงเขา
"ซึ่งเวลานี้ทางน้องผู้หญิงเขาก็ไม่กล้าตัดสินใจ ผมเลยขอให้เวลา 7 วันนับตั้งแต่วันนี้ ซึ่งก็มีพระราชบัญญัติเรื่องความคุ้มครองผู้กระทำความผิดกับความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ให้มีการดำเนินคดีได้ในเวลา 3 เดือน ซึ่งขณะนี้เราก็ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับใคร ซึ่งเราเห็นแก่ครอบครัว แต่ถ้าหลังจากนี้มีความคืบหน้าอย่างไร ทางทีมงานของเราก็จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีและขอความคุ้มครองจากพนักสอบสวนถึงชั้นศาล แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้ปิดกั้นน้องเขา แต่เราเห็นครอบครัวไม่มีใครรู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น นอกจากเขา 2 คนซึ่งมีระยะเวลาอีก 7 วันขอให้น้องทั้ง 2 คนตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป" ทนายอนันต์ชัย กล่าว
ด้านนางปวีณา หงสกุล กล่าวว่า วันนี้ที่ทางมูลนิธิได้เชิญทางทนายอนันต์ชัย ไชยเดช และทาง พมจ.ปทุมธานี มาหาทางออกให้คนสองคน ส่วนนายอานุภาพ อิ่มลิ้มธาร ทนายความของฝ่ายผู้ชายบอกว่า ทางเราเดินทางมาในวันนี้ ไม่ได้ต้องการเพื่อที่จะหย่าล้างกัน แต่ต้องการครอบครัวเขากลับไป ซึ่งทางลูกสาวเขาปัจจุบันขาดเรียนมานานแล้ว และอย่าเอาลูกสาวมาเป็นตัวประกันเรื่องของเด็กกับเรื่องของผู้ใหญ่ต้องแยกออกจากกัน สถานะภาพของเด็กสำคัญกว่า ซึ่งทางคุณปิ๊กก็ยังยืนยันว่าต้องการครอบครัวเขากลับไป
ส่วนนายพงษ์ภูมิพันธ์ หรือนายปิ๊ก บอกว่า ตนอยากจะให้ลูกสาวกลับไปเรียนหนังสือ เพราะขาดเรียนมาเป็นเวลา 2 อาทิตย์แล้วตนตามใจลูกทุกอย่าง ซึ่งทุกคนโฟกัสที่ผู้ใหญ่ ไม่ได้โฟกัสที่เด็กเลย ตนอยากได้ครอบครัวของตนกลับไปทั้งสองคน
ส่วนน้องใหม่ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า ตนเองได้แจ้งเรื่องไปทางโรงเรียนของลูกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทางครูประจำชั้นและทางโรงเรียนก็บอกว่าไม่เป็นไรให้ไปจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน ตนเองพาลูกออกมาช่วงที่โรงเรียนสอบพอดี ซึ่งขณะนี้ทางโรงเรียนก็ปิดเทอมแล้ว และตนเองก็ห่วงความรู้สึกของลูกด้วย ต้องขอระยะเวลาทำใจ เพราะตนเองโดนทำร้ายมาหลายครั้ง และก็มีบางครั้งทางด้านฝ่ายชายก็ทำร้ายตนเองต่อหน้าลูกด้วย ลูกเห็นการกระทำทุกอย่าง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี