น้ำมันเถื่อนสงขลาคืนชีพ นำเข้าวันคืนละ 20 พ่วง ”ตั้งคอก” รับซื้อที่ อ.คลองหอยโข่ง และ ท่านางหอม” จี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเร่งตรวจสอบ อย่าทำตา”มืดบอด” มองไม่เห็นการเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจ

11 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานจากภาวะน้ำมันเชื้อเพลิงทั้ง ดีเซลและเบนซิน ในประเทศมีราคาแพง ทำให้ตลาดน้ำมันในประเทศไทย     โดยเฉพาะในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ในส่วนของปั๊มน้ำมันอิสระ และวงการขนส่ง ต้องการใช้น้ำมันในราคาถูก จึงทำให้ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนทางบกนำเข้าจากประเทศมาเลเซียผ่านชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา ฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากที่มีการชะลอตัวในการนำเข้ามาแล้วระยะหนึ่ง

แหล่งข่าวในพื้นที่รายงานให้ทราบ พร้อมทั้งส่งภาพรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนที่เข้ามารับน้ำมันเถื่อน จากคอกน้ำมัน หรือ”แท็งค์เกอร์”ให้เป็นหลักฐาน  โดยขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนทางบก จากประเทศมาเลเซียที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้เป็นของ”เสี่ย บ.และ”เสี่ย ท."  โดยทั้งสองรายเป็นหุ้นส่วนที่มีการตั้ง"แท็งค์เกอร์”  หรือที่รียกว่า คอกน้ำมันเถื่อน 2 แห่ง ใน จ.สงขลา

โดยแห่งแรกอยู่ในพื้นที่ของอำเภอคลองหอยโข่ง ส่วนแห่งที่สองใน ต.ท่านางหอม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  โดยรับซื้อน้ำมันเถื่อนจากขบวนการขนน้ำมันเถื่อนจากชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา เข้ามาส่งยังแท็งเกอร์ หรือ “คอกน้ำมัน ในทั้ง 2 พื้นที่ ซึ่งน้ำมันเถื่อนบางส่วนมาจาก อ.ควนโดน จ.สตูล ที่ถูกนำผ่านด่านศุลกากรกรวังประจัน ชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน อ.ควนโดน

แหล่งข่าวระบุว่า สำหรับคาราวานน้ำมันเถื่อน จะใช้วิธีการ”ดัดแปลงรถกระบะ” และ”รถเก๋ง” ด้วยการติดถังลับในตัวรถให้สามารถบรรจุน้ำมันตั้งแต่ 500 ลิตร จนถึง 1,000 ลิตร โดยการนำรถผ่านด่านศุลกากรไปรับน้ำมันเถื่อนจาก”คอกน้ำมันเถื่อน”ในมาเลเซียแล้วจึงนำรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนผ่านด่านศุลกากร กลับเข้ามายังฝั่งไทยก่อนนำมาขายให้กับ“คอกน้ำมัน” ทั้ง 2 แห่งที่เป็นของ" เสี่ย บ." และ "เสี่ย ท."

หลังจากนั้นนายทุนทั้งสองจะนำรถบรรทุกน้ำมันทั้ง 10 ล้อ และ 18 ล้อ ซึ่งมีความจุในการบรรทุกน้ำมันตั้งแต่ 16,000 ลิตร จนถึง 40,000 ลิตร มารับน้ำมันใน คอกน้ำมันเถื่อน ทั้งที่ คลองหอยโข่ง และ ที่ท่านางหอม ก่อนเดินทางไปส่งให้ลูกค้าที่ต้องการ

สำหรับน้ำมันดีเซล และเบนซินในประเทศมาเลเซีย ราคาลิตรละ 16 บาท ส่วนในประเทศไทย ดีเซล ราคาลิตรละ 31 บาท ส่วนเบนซินลิตรละ 39 บาท โดย ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนขอคนทั้งสองจะส่งขายให้กับลูกค้าต่ำกว่าราคาขายปลีกหน้าปั๊มลิตรละ 3 บาท และมีการจัดหาใบกำกับภาษีปลอมให้กับลูกค้าที่ต้องการใบกำกับภาษีด้วย

ทั้งนี้ พลเมืองดีที่ร้องเรียน ได้ฝากเรื่องขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนใน จ.สงขลา ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ อาทิ ศุลกากร ,สรรพสามิต และ ตร.ปนม. ซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามน้ำมันเถื่อนและตำรวจท้องถิ่นให้ดำเนินการตรวจสอบ และจับกุมขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนเพราะเห็นว่าเป็น”อาชญากรทางเศรษฐกิจ” ทำให้รัฐสูญเสียภาษีเป็นจำนวนมาก รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจสอบใบกำกับภาษีที่ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนนำไปใช้ในการส่งขายให้กับลูกค้าด้วย