วันที่ 12 มีนาคม 2567 จากกรณีที่ นส.มัลลิกา อายุ 57 ปี ชาวจังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้แจ้งว่า แฟนตนเองชื่อ นายสรายุทธ หรือ ยุทธ ชาวจ.ปทุมธานี ได้หายตัวออกจากบ้านเลข โดยน่าจะมีคนเอารถมารับไป ปัจจุบัน นายสรายุทธ ยังไม่กลับมาบ้าน ผู้แจ้งเป็นห่วง เกรงว่า นายสรายุทธ ได้รับอันตราย เบื้องต้นได้แจ้งความร้องทุกพข์ไว้กับ พ.ต.ต. ชัยพัชร์ อารีย์วงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานีแล้ว
ล่าสุด นายสรายุทธ อายุ 53 ปี พร้อมด้วย นางสาวสายฝน ได้เดินทางมาที่ สภ. เมืองปทุมธานีเพื่อเข้าพบกับ พ.ต.ท.เสฏฐพงศ์ ทรงกลด รอง ผกก.สส.สภ.เมืองปทุมธานี และ พ.ต.ต. ชัยพัชร์ อารีย์วงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อแสดงความ บริสุทธ์ใจ หลังจากที่ตกเป็นข่าวที่อดีตภรรยาร้องขอความช่วยต่อสื่อมวลชน จากการหายตัวไปจากบ้านพัก
นายสรายุทธ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนออกมาเรียกรถแท็กซี่ให้มาส่งที่สวนพริกไทยเพื่อไปหานางสายฝน และที่ตนเองตัดสินใจออกจากบ้านเพราะตนเองเบื่อและทนไม่ไหวถูกภรรยาด่าทุกวันทรัพย์สินที่ติดตัวมาสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พระเลี่ยมทอง 2 บาท ทองได้ขายไปหมดแล้ว และเหลือโทรศัพท์อีกเครื่อง ส่วนเงิน 6,000 บาทนั้นตนเองได้โอนไปให้ทางญาติเล็กจริง แต่เป็นการเพื่อใช้หนี้ เพราะตนเองขอยืมเป็นค่าเดินทางค่ารถ โดยเดินทางไปกับนางสาวเล็กไปด้วยกันตลอด
ตนเองไม่ได้มีการนัดแนะอะไรกับนางสาวเล็ก ตอนที่ไปหาเขา เขาอยู่ที่ร้านสวนพริกไทย วัดเสด็จเขายังงงทั้งหมดทั้งมวนเป็นความคิดของตนเอง ไม่มีใครชักจูง และที่หนีออกไปและไม่อยากติดต่อหรืออยากคุยกับทางภรรยาที่อยู่กันมานานกว่าสิบปี แต่ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส และไม่มีลูกด้วยกัน และที่ตนเองอัดอั้นตันใจทนมานานเกือบสองปี หลังจากป่วยตนเองใส่เสื้อเองไม่ได้เขาก็กระชาก กระชาก เหมือนไม่เต็มใจ เหมือนว่า เราเป็นภาระให้ทางเขา มีการทำกรมธรรม์ประกันชีวิต หากตนตายด้วยอุบัติเหตุเ ขาจะได้เงิน 10 ล้านบาท
โดยทางภรรยาเป็นคนทำและที่ตนเองมาโรงพักแสดงตัวเพื่อให้ทางนางสาวสายฝน เขาได้พ้นมณทินที่ถูกกล่าวหาว่า ล่อลวงตนเองไปซึ่งตนเองอายุ 53 ปีแล้ว ทางนางสาวสายฝน อายุ 44 ปีเราโตแล้วไม่มีใครมาล่อลวงเราได้และขอยืนยันว่า ตนเองทำด้วยตนเองทั้งหมดไม่มีใครมาล่อลวงและที่บอกว่า ตนเองสมองครึ่งซี่กความจำเสื่อม จำไม่ค่อยได้ ตนเองขับรถกลับจากกระบี่ได้คนเดียวจำได้ทุกอย่าง และสิ่งที่ทำคิดเองทั้งหมดและวันนี้ขอลงบันทึกประจำ ขอแยกทางกับภรรยาจะไม่ขอกลับไปคืนอีกแล้ว ซี่งต่อไปก็จะขอออกไปหาอาชีพ ไปหางานทำ และยืนยันว่าจะไม่กลับไปกับภรรยา ตนเองไม่เอาแล้ว ส่วนหลังแยกทางกับภรรยา ตนเองจะไปอยู่กับนางสาวเล็กหรือไม่ อันนี้อยู่ที่อนาคตก็ถามเขาว่า เขาจะอยู่กับผมและเขาจะดูแลได้ไหม เรื่องที่เขามีสามีอยู่ก็ทราบแต่ไม่ได้มีการคุยกัน
ด้านนางสาวสายฝน กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนเองแม้แต่ลูกของตนเองก็ถูกทางเขาคุกคามข่มขู่ พี่สาว พี่ชาย ถูกคุกคามหมดทุกคนกลัวไม่ได้ทำกินคอยเป่าว่า ให้ตำรวจตามล่าถ้าเจอตัวจะกระตื๊บทำร้ายลูกของตนเองอายุ 8 ขวบก็ให้คนไปหาที่โรงเรียนถามหาตนเองแล้วเด็กจะคิดยังไง เด็กไม่ได้ไปสอบเพราะขู่ จะจับตัวเพื่อดึงให้แม่ออกมา ส่วนนายสรายุทธตนเองไม่ได้คุยกันหรือนัดแนะ แต่เฮียสรายุทธ มาตนเองที่ร้านเอง แต่ตอนที่อยู่ทำงานตนเองดูแลเฮียเขา แต่ไม่เคยพูดให้เขาออกมา และตนเองอยู่ทำงานได้ค่าตอบแทนแค่ 2,000 บาท และที่ตนเองดูแลเฮียเขาดูแลเหมือนลูกจ้างกับนายจ้าง คือไม่มีอะไรกัน และหาว่าตนเองไปพูดว่า ได้สามีเป็นนายจ้างแล้ว ตนเองไม่เคยพูด ผู้ชายที่เอาไปพูดเขารู้กัน และตนเองก็ไม่มีสามีผู้ชายคนนี้ไม่ใช่สามี ลูกสาวก็เป็นของสามีเก่าที่เลิกไปแล้ว แต่เขามาใส่ร้ายหาว่า ตนเองเอาผัวนายจ้างตอบแทนด้วยการเนรคุณ ทั้งทั้งที่ตนเองไม่มีอะไรและกล่าวว่า ตนเองเข้าหาเฮียในห้องเพราะตนเองเลี้ยงแมวไว้ ห้องนั้นตนเองต้องทำความสะอาดห้องและให้ยาแมวสองตัวที่ไม่สบายอยู่ ตนเองมีกุญแจอยู่ แต่ไม่เข้าหาเฮีย ส่วนตอนนี้ตนเองกับเฮียมีความสัมพันธ์กันแล้ว แต่ตอนที่ถูกเขาใส่ร้ายยังไม่มีอะไรกัน มีความสัมพันธ์กันหลังเฮียหนีออกจากบ้าน ส่วนเขาบอกว่า เขาช่วยเหลือตนเองและให้งานทำเขาช่วยเหลือจริง
ต่อมานางสาวมัลลิกา อายุ 57 ปี ภรรยาได้เดินทางถึงและเปิดประตูห้องสอบสวนตรงเข้าถีบนางสาวสายฝน และด่าว่าเนรคุณเลี้ยงไม่เชื่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ากั้นพร้อมให้ออกไปอยู่ด้านนอกก่อน จากนั้นได้เรียกให้นางสาวมัลลิกาเข้ามาคุยเจรจากับนายสรายุทธสามี โดยแยกนางสาวเล็กไปอยู่อีกที่ ซึ่งทางฝ่ายสามียืนยัน และมีความประสงค์จะแยกทางกับนางสาวมัลลิกา โดยนายสรายุทธฯ และมอบทรัพย์สินให้กับนางสาวมัลลิกา 1.บ้านพร้อมที่ดิน 2.อาวุธปืนจำนวน 1 กระบอก 3.ห้องพักอาคารเอื้ออาทร จำนวน 1 ห้อง 4.กรมธรรม์ประกันชีวิตผู้เอาประกันชื่อนางสาวมัลลิกา โกละกะ จำนวน 2 กรมธรรม์ 5.กรมธรรม์ประกันชีวิต จำนวน 1 กรมธรรม์ คู่กรณีได้ตกลงกันด้วยดีไม่มีผู้ใดบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใดจึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะต่างคนต่างเดินทางกันกลับ
นางสาวมัลลิกา กล่าวว่า เลือกทางฝ่ายนั้นแต่เท่าที่เจอเขาวันนี้เปลี่ยนเยอะเปลี่ยนที่ไม่ได้เจอ 7วันด้วยผู้หญิงคนนั้นจะพูดยังไงตนเองไม่ทราบคุยจบกับเขายังไงคือเขาเปลี่ยนไปและวันนี้ก็มีการตกลงกันกับสามีในเมื่อเขาไปที่ไปทางนั้นก็แยกทางกันคือวันนี้จบกันด้วยดีเขาจะไปจะโดนหลอกหรือไม่โดนหลอกก็พี่ไม่ทราบถ้าจะไปจริงมาบอกกันดีๆส่วนทรัพย์สินได้มีการลงบันทึกเขายกให้ทางพี่หมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี