สตม.ตะครุบ 2 รัสเซีย เช่าโรงแรมในสมุย ลอบเปิดคลินิกเสริมความงามเถื่อน
13 มีนาคม 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. , พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. , พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. , พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมแถลง ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติรัสเซีย คือ 1.นายอเล็กซานเดอร์ อายุ 35 ปี โดยกล่าวหาว่า ทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้ และ 2.น.ส.ลิลเลีย อายุ 32 ปี โดยกล่าวหาว่าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี สืบทราบว่ามีคนต่างชาติลักลอบเปิดสถานประกอบการเสริมความงามในลักษณะเป็นสถานพยาบาล ในพื้นที่ ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยได้เปิดให้บริการหลายประเภท รวมทั้งมีการรักษาด้วยวิธีการปั่นเกล็ดเลือด แล้วนำกลับไปฉีดเข้าร่างกายของผู้รับบริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งการบริการประเภทนี้จะต้องได้รับการควบคุมจากเจ้าหน้าที่เฉพาะทาง ถ้าไม่มีการควบคุมอาจเป็นอันตรายจนถึงชีวิตต่อผู้มาขอรับบริการได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้สืบค้นข้อมูลสถานบริการดังกล่าวจากในโลกสังคมโซเชียล ปรากฏว่ามีการโฆษณาการให้บริการในแอปพลิเคชั่น สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆจำนวนมาก ที่สามารถนำข้อมูลมาทำการสืบสวนได้ เช่น ภาพการลงโฆษณาการให้บริการในแอปพลิเคชั่น TIKTOK และ Instagram ที่ปรากฏให้เห็นการบริการในสถานประกอบการดังกล่าวและตัวคนต่างชาติที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการ
จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่าสถานบริการดังกล่าวได้เช่าพื้นที่ของโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเป็นสถานประกอบการ โดยไม่ปรากฏว่ามีการจดทะเบียนหรือขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาลตามกฎหมาย จึงสืบสวนหาข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ทำหน้าที่ให้บริการและเจ้าของสถานประกอบการดังกล่าว จนทราบว่าเจ้าของสถานบริการดังกล่าวเป็นคนต่างชาติสัญชาติรัสเซียชื่อ น.ส.ยูเลีย (นามสมมติ) และมีคนต่างชาติทำหน้าที่เป็นหมอเสริมความงามที่ปรากฏในการลงโฆษณาจำนวนหลายราย โดยวิธีการผลัดเปลี่ยนกันมาให้บริการตามรายการจองเข้าใช้บริการของลูกค้า
เมื่อเป็นที่แน่ชัดว่าสถานประกอบการดังกล่าวเปิดโดยผิดกฎหมาย และมีคนต่างชาติมาทำงานโดยผิดกฎหมาย ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนเข้าทำการจับกุม โดยขณะเข้าทำการจับกุมได้พบ น.ส.ลิลเลีย และนายอเล็กซานเดอร์ กำลังให้บริการเสริมความงามใบหน้าและบริการนวดรักษาอาการอักเสบกล้ามเนื้อแก่ลูกค้าคนต่างชาติด้วยกัน
จากการตรวจสอบเอกสารพบว่า น.ส.ลิลเลีย ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ส่วนนายอเล็กซานเดอร์ ได้รับอนุญาตให้ทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ประเภทกิจการให้บริการที่พักอาศัย แต่มาทำงานเสริมความงาม จึงเป็นการทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้ นอกจากนี้ยังพบยาอันตรายและยาควบคุมพิเศษ , ยาที่ไม่มีสลากภาษาไทยเข้าข่ายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนในสถานพยาบาล , ผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ใช้ในการให้บริการกับผู้ที่ใช้บริการเสริมความงามกับสถานพยาบาลดังกล่าวอีกจำนวนหนึ่งไว้ จึงยึดไว้เพื่อตรวจสอบ
นอกจากนี้ตรวจพบทำหัตถการ อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องปั่นพลาสมา (เครื่องแยกเกล็ดเลือด) เข็มฉีดยาที่ใช้แล้วจำนวนมาก ยาที่มีเข็มฉีดยาเสียบติดไว้ที่เพิ่งผ่านการให้บริการ เข็มฉีดยาหลายขนาด กระบอกฉีดยา ผลิตภัณฑ์เสริมความงามอยู่ในตู้เย็นและลิ้นชักซึ่งจัดไว้ให้บริการแก่ลูกค้า ระเบียนการรักษาหรือ OPD การ์ดของลูกค้าผู้มาใช้บริการ และรายการอัตราค่าบริการมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งพยานหลักฐานเหล่านี้บ่งชี้ชัดว่าสถานประกอบการดังกล่าวเป็นสถานพยาบาลซึ่งไม่พบว่ามีการจดทะเบียนหรือขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาลตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดสิ่งของเหล่านี้ไว้เป็นของกลางทางคดีและดำเนินคดีกับคนต่างชาติทั้ง 2 ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือสิทธิ์ ที่จะทำได้ พร้อมทั้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ยูเลีย อายุ 41 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการตามคำให้การของผู้ถูกจับทั้ง 2 ราย ในความผิดฐานจัดตั้งกิจการสถานประกอบการพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 16 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 12 และมียาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับ ตามมาตรา 72 (4) แห่ง พ.ร.บ.ยา 2510 ////-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี