เยาวชนชาติพันธุ์วอนหยุดสร้างเขื่อน-ทำลายสิ่งแวดล้อม ร่วมแสดงจุดยืน 6 ข้อเรียกร้อง
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน จัดกิจกรรมวันหยุดเขื่อนโลก บริเวณหาดทรายริมแม่น้ำสาละวิน บริเวณบ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีตัวแทนชุมชนและเยาวชนชาติพันธุ์ทั้งกะเหรี่ยงฝั่งไทยและรัฐกะเหรี่ยงกว่า 200 คน รวมถึงตัวแทนเครือข่ายชุมชนจากลุ่มน้ำโขงและลุ่มน้ำยม และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการผันน้ำยวมเข้าร่วม
กิจกรรมเริ่มต้นโดยกลุ่มเยาวชนพร้อมถือป้ายผ้าที่มีข้อความคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำสาละวิน และคัดค้านโครงการผันน้ำยวม รวมถึงคัดค้านโครงการเหมืองแร่ที่กระทบต่อวืถีชุมชนและสิ่งแวดล้อม เดินขบวนไปสู่หาดทรายริมน้ำสาละวิน โดยร่วมร้องเพลง Salween in the world บทเพลงสะท้อนเรื่องราวของแม่น้ำสาละวิน ที่ประชาชนทั้งสองฝั่งร่วมกันปกป้องแม่น้ำและเรีบกร้องให้เกิดสันติภาพ
นายสะท้าน ตัวแทนเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เกิดจากความร่วมมือของชุมชนต่าง ๆ บนแม่น้ำสาละวินร่วมกับเครือข่ายลุ่มน้ำ คือ เมย เงา ยวม ที่กำลังจะมีโครงการที่มีผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการเหมืองแร่ฟลูออไรต์ ที่บ้านแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน โครงการเหมืองแร่ถ่านหิน โครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ มีโครงการผันน้ำยวม และผลกระทบจากเขื่อนภูมิพล ที่บ้านแม่งูด จ.เชียงใหม่ รวมถึงผลกระทบจากการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแม่เงา และการสร้างเขื่อนเพื่อผันน้ำยวม ดังนั้นชาวบ้านจึงมาร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อปกป้องให้สาละวินไหลอย่างอิสระ และเกิดสันติภาพแก่พี่น้องสองฝั่งสาละวิน
นายสะท้าน กล่าวอีกว่า สาละวินเป็นเขตแดนไทย-รัฐกะเหรี่ยง รัฐกะเหรี่ยงยังไม่มีความสงบตั้งแต่รัฐประหารในเมียนมา ทำให้ชาวบ้านต้องหลบซ่อน หนีความตาย หลังจากนี้พวกเราจะทำอย่างไรให้เกิดการช่วยเหลือด้านมนุษธรรมแก่ชาวบ้านเหล่านั้น
ด้านตัวแทนเครือข่ายเยาวชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน กล่าวว่า เยาวชนเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการแสดงพลัง การพัฒนาต่าง ๆ ควรมีเยาวชนเป็นคนสำคัญในการร่วมตัดสินใจ หรือออกมาเรียกร้องความยุติธรรม เพราะเยาวชนต้องอยู่อีกนาน พ่อแม่สอนเราอยู่ป่า ให้รักษาป่า เราจึงต้องออกมายืนหยัดว่าไม่ต้องการโครงการเหล่านี้ที่จะทำลายอนาคตของพวกเรา
"แม้ตอนนี้โครงการยังไม่เกิดขึ้น แต่ชุมชนได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การไร่หมุนเวียน หรือวิถีความเป็นอยู่ได้รับผลกระทบแล้ว ถ้ามีโครงการต่าง ๆ เกิดขึ้น ปัญหาเหล่านี้จะรุนแรงมากขึ้น การทำลายแม่น้ำสาละวินจะส่งผลกระทบต่อทุกชุมชนสองฝั่งน้ำแต่พี่น้องฝั่งกะเหรี่ยงไม่ได้มีสิทธิออหมาเรียกร้องเหมือนพวกเรา"ตัวแทนเยาวชนเครือข่ายลุ่มน้ำฯ กล่าว
ตัวแทนชาวบ้านจากบ้านอิตุท่า ในฝั่งกะเหรี่ยง กล่าวว่า หากมีเขื่อนเกิดขึ้นบนแม่น้ำสาละวิน วิถีชีวิตของชาวบ้าน สภาพแวดล้อม และทรัพยากรจะล่มสลายอย่างแน่นอน ชุมชนที่พึ่งพาแม่น้ำจะได้รับความหายนะจากเขื่อน แต่คนที่ได้ประโยชน์ คือบริษัทและผู้มีอำนาจ ขอขอบคุณทุกท่านที่มาปกป้องแม่น้ำร่วมกัน เพื่อให้แม่น้ำไหลอย่างอิสระ และในอนาคตให้มีสันติภาพเกิดขึ้น
จากนั้นตัวแทนเครือข่ายเยาวชนลุ่มน้ำฯ ได้อ่านแถลงการณ์ระบุข้อเรียกร้อง 6 ข้อ ดังนี้ 1.ยุติโครงการสร้างเขื่อนเพื่อให้แม่น้ำไหลอิสระ 2.ยุติโครงการพัฒนาของรัฐที่สร้างผลกระทบต่อชุมชนและทรัพยากร เช่นโครงการสร้างเขื่อนผันน้ำยวม เหมืองแร่ถ่ายหินอมก๋อย เหมืองแร่ฟลูออไรต์แมาลาน้อย 3.ยกเลิกรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) โครงการสร้างเขื่อนผันน้ำยวม เนื่องจากขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
แถลงการณ์ ระบุต่อว่า 4.เผด็จการทหารพม่าที่ก่อรัฐประหาร ต้องยุติการทำร้ายประชาชน และคืนอำนาจให้ประชาชน 5.ขอให้รัฐบาลไทยให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ปนะชาชนจากรัฐกะเหรี่ยง ที่หนีภัยความตายมายังแผ่นดินไทยตามหลักสิทธิมนุษยชน
แถลงการณ์ ระบุต่อว่า 6.พัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การศึกษาที่มีคุณภาพ ระบบสาธารณสุขที่ดี เพื่อประชาชนในลุ่มน้ำสาละวินมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
หลังจากนั้นจึงมีพิธีการปล่อยแพไม้ไผ่ติดป้ายผ้ามีข้อความ No Dam หรือ ไม่เอาเขื่อนล่องไปตามแม่น้ำสาละวิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี