ทะลุ40องศา

‘เหนือ-กลาง’ร้อนฉ่า

ฝุ่นพิษวิกฤต/ฝน10%

กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศทั่วไทยร้อน-ฟ้าหลัว แต่ “เหนือ-กลาง” ร้อนจัด ทะลุ 40 องศา ส่วนอีสาน-ตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองโดยกทม.-ปริมณฑลมีฝน 10% ขณะที่ฝุ่น PM 2.5 ทั่วทุกภาคอ่วม เหตุลมอ่อนการระบายอากาศไม่ดี กทม.-ปริมณฑลมีฝน 10%

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าทั่วทุกภาคของประเทศว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีอากาศร้อนจัดบริเวณภาคเหนือและภาคกลาง ขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนสถานการณ์ฝุ่นละอองระยะนี้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และมีการระบายอากาศที่ไม่ดี

กรมอุตุนิยมวิทยายังพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยจนถึงวันที่ 17 มีนาคมว่า ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 40 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิสูงสุด 39 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิสูงสุด 40 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศร้อนตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ อากาศร้อนตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.พัทลุง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ภาคใต้ฝั่งตะวันตก อากาศร้อนตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนกรุงเทพและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส

วันเดียวกัน ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ เมื่อ 07.00 น ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศ พบเกินค่ามาตรฐานใน จ.เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์รวมถึง จ.อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ปราจีนบุรี บึงกาฬ หนองคาย เลย อุดรธานี นครพนม หนองบัวลำภู สกลนคร มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ยโสธร อุบลราชธานี และ จ.นครราชสีมา

สำหรับสถานการณ์ฝุ่นในภาคเหนือ ปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ระหว่าง 50.1 - 182.0 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร (มคก./ลบ.ม.) วัดค่าฝุ่นได้สูงสุดในพื้นที่ ต.เวียงพาคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 182 มคก./ลบ.ม. รองลงมา ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 178.5 มคก./ลบ.ม. ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 161.9 มคก./ลบ.ม. ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 160.5 มคก./ลบ.ม. ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน 144.8 มคก./ลบ.ม.

ส่วนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 26.5 - 87.9 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 3 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 23.0 - 72.7 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 13.3 - 60.9 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 17.5 - 28.0 มคก./ลบ.ม. ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.)ร่วมกับกรุงเทพฯ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีตรวจวัดได้ 15.4 - 35.3 มคก./ลบ.ม.

ขณะที่เว็บไซต์ IQAir ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศทั่วโลกและจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษ รายงานว่า เวลา 08.45 น. จ.เชียงใหม่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 1 เมืองงที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก โดยดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 224 ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 173.6 มคก./ลบ.ม.