เรียกสอบพยานสำคัญ!มัดคอจนท.รัฐเอี่ยวผิดพ.ร.บ.อุ้มหายฯคดี‘ลุงเปี๊ยก’

18 มีนาคม 2567 นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าการร่วมตรวจสอบกำกับการสอบสวนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในกรณีนายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก ที่ถูกตำรวจ สภ.อรัญประเทศ บังคับให้รับสารภาพคดีการเสียชีวิตของ “ป้าบัวผัน” ว่า คดีดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือพ.ร.บ.อุ้มหายฯ เนื่องจากอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งให้ทีมอัยการได้เข้ามาร่วมกำกับตรวจสอบและกำกับการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะพนักงานสอบสวนได้เข้าไปสอบปากคำลุงเปี๊ยกซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรงที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ และลุงเปี๊ยกได้ให้การอย่างชัดเจน แต่เบื้องต้นยังไม่ขอเปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ฯอุ้มหายกี่ราย และในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.67) จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนชุดใหญ่ในคดีนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้า ที่สำนักงานการสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุดเวลา 13.30 น. และในวันพุธนี้จะมีการสอบปากคำพยานสำคัญซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ 2-3 ปากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาไปถึงกรณีผู้บังคับบัญชาในที่เกิดเหตุได้ให้ความเป็นธรรมในการสอบสวนตั้งแต่ต้น และเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ฯอุ้มหายมาตรา 42  หรือไม่ (ผู้บังคับบัญชาใดทราบว่าผู้ใต้บังคับชาของตนกระทำหรือได้กระทำความผิดและไม่ได้ดำเนินการตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันและระงับการทรมาน อุ้มหาย หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ผู้บังคับบัญชาจะต้องรับโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้) ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพียงว่า การกระทำดังกล่าว ของเจ้าหน้าที่รัฐผิดตามมาตรา 5, 6, 7 ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หรือไม่ 

-005