ดินถล่ม! ปิดหลุมกลบร่าง‘นักขุดทอง’บางสะพาน เสียชีวิต 1 ศพ เพื่อนเปิดนาทีระทึก
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 18 มี.ค.67 มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถานบางสะพาน เม่งรุ้ง รับแจ้งเหตุมีชาวบ้านเข้าไป “ขุดทอง” แล้วสูญหาย เหตุเกิดใกล้คลองทอง บ้านวังน้ำเขียว ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่ามีชาวบ้านไม่ทราบจำนวน ลงไปขุดดินเพื่อนำดินมาร่อนทอง แต่ในขณะขุด ดินเกิดยุบตัว ถล่มปิดปากหลุมที่มีความลึก 8-10 เมตร ซึ่งอาสากู้ภัยสามารถลงไปได้ จึงประสานเจ้าหน้าที่เทศบาลร่อนทอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำรถแบ็คโฮ 2 คัน เร่งขุดค้นหาร่างผู้สูญหาย
เบื้อต้นทราบชื่อผู้สูญหาย คือ นายอุทัย อายุ 48 ปี อยู่หมู่ 7 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถแบ็คโฮขุดเปิดบริเวณหน้าดิน เมื่อถึงปากโพรงลักษณะเป็นถ้ำ ได้ใช้กำลังคนในการขุดหาเป็นช่วงๆสลับกับการใช้เครื่องจักรขุดตามเข้าไปเป็นระยะ ต่อมาเวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาได้พบร่างของนายอุทัย ถูกดินอัดทับเสียชีวิต จึงได้ช่วยกันขุดดินแล้วนำร่างขึ้นมาไว้ด้านบน เพื่อให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชันสูตรพลิกศพ
พ.ต.ท.อรรถพล ชุมคง พนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอุทัย พร้อมด้วย นายสมพร อายุ 58 ปี อยู่หมู่ 7 ต.ร่อนทอง และนายเดือนทอง อยู่หมู่ 7 ต.ร่อนทอง ทั้ง 3 คน เดินทางมาร่วมกันขุดหาทองตั้งแต่เวลา 16.00 น โดยนายอุทัย รับอาสาลงไปขุดดินในหลุม ส่วนนายสมพร และนายเดือนทอง เป็นคนคอยดึงกระป๋องดินขึ้นมา เพื่อเตรียมร่อนทอง ทำไปได้ประมาณ 12 กระป๋อง หรือ 6 กระสอบปุ๋ย แต่ในขณะทำงานได้ยินเสียงดินพังถล่มลงไปในหลุม ทั้งนายสมพร และนายเดือนทอง จึงได้ใช้จอบช่วยกันขุดเพื่อช่วยนายอุทัย ที่อยู่ด้านล่าง แต่ในขณะขุด ดินก็ได้ไหลลงไปเรื่อยๆ ทำให้เริ่มทับทั้ง 2 คน โชคดีที่ชาวบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงเอะอะ จึงมาดูและใช้เชือกโยนลงไปให้ทั้ง 2 คนไต่เชือกขึ้นมาจากหลุมจนรอดตายมาได้
นายกิติพงศ์ สุขภาคสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เดินทางไปบัญชาการค้นหาในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ได้เตรียมประชุมเพื่อมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อบต. เทศบาล ทำการสำรวจบ่อทองที่ถูกขุดทิ้งไว้ และ ดำเนินการปิดบ่อเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนอีกต่อไป
ขณะที่หลักฐานจากพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า เมื่อประมาณ พ.ศ.2289 ผู้รั้งเมืองกุยได้ส่งทองร่อนหนัก 3 ตำลึง ซึ่งขุดได้จากบางสะพาน ทูลเกล้าฯถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ต่อมาได้โปรดให้เกณฑ์ไพร่พล 2,000 คน ไปร่อนทองที่บางสะพาน จนถึง พ.ศ.2291 ได้ทองหนัก 90 ชั่ง เป็นน้ำหนัก 54 กิโลกรัม หรือ 3,600 บาท และโปรดให้นำทองทั้งหมดไปหุ้มยอดพระพุทธบาทสระบุรี
สำหรับทองบางสะพาน มีหลักฐานปรากฏดังนิราศเมืองถลาง แหล่งแร่ทองคำในอดีตอยู่ที่ ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน โดยเฉพาะบ้านป่าร่อนหมู่ 6 เป็นแหล่งแร่ทองคำที่อุดมสมบูรณ์มาแต่อดีต และมีการขุดทองกันมากที่สุดบริเวณห้วยจังหัน ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้าน 500-1,000 เมตร ปัจจุบันแม้ว่ามีจำนวนทองคำลดน้อยลง แต่ยังมีชาวบ้านมาร่อนทองเป็นอาชีพ บางครั้งพบก้อนทองปนอยู่ในดินเหนียว
หนังสือเมืองกำเนิดนพคุณกับทองบางตะพาน เล่าว่า เนินทองคำ มีทั้งหมด 33 เนิน ก่อนที่จะขุดทองจะต้องมีการบวงสรวงเจ้าที่เจ้าทาง ตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น อาทิ ห้ามสวมรองเท้าเข้าไปบริเวณที่ขุดทอง ห้ามผู้หญิงที่มีรอบเดือนเข้าไปบริเวณที่ขุดทอง ห้ามใส่เครื่องประดับที่ทำด้วยทองคำไปขุด เมื่อพบทองแล้วห้ามเรียกคนอื่นมาขุดที่เดียวกัน เพราะจะไม่ได้ทองอีกเลย ต้องมีการบวงสรวงเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อนที่จะขุดหาทอง เป็นต้น ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี