วันที่ 19 มีนาคม 2567 รายการโหนกระแสวันนี้ มาพูดคุยกับ ปัญหาโลกแตก เพื่อนบ้านจอดรถกีดขวางทางเข้าบ้าน แถมท้าเป็นทนายความ รู้กฎหมาย ท้ามาออกรายการโหนกระแส ขอมาเจอทั้ง หนุ่ม กรรชัย และทนายแก้ว 

คุณวาสนา เจ้าของบ้านฮาวทาวน์เฮ้าส์หลังมุม ที่เป็นผู้ร้องเรียน เล่าว่า ตนซื้อบ้านมาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งตนอยู่หลังมุมสุดซอย  ส่วนบ้านคู่กรณีอยู่เยื้องมา ตอนนั้นเห็นมีรถยนต์จอดอยู่เพียง แค่ 1 คันเท่านั้น  ช่วง 2 ปีแรก ตนไม่ได้ค่อยมาอยู่ แต่ก็ขับรถมาดูเรื่อยๆ เห็นมีราวตากผ้าบริเวณหน้าบ้านตนบ้าง เห็นเครือกล้วยที่อยู่ตนปลูกไว้ในบ้านถูกตัดมาวางไว้หน้าบ้านบ้าง  ตอนนั้นก็แปลกใจ ต่อมาตนย้ายมาอยู่แล้วก็พบปัญหามาตลอด เรื่องที่จอดรถ ตนเคยพยายามจะจอดรถในบ้าน แต่เพราะเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามจอดรถ 2 คันหน้าบ้าน ทำให้ตนไม่สามารถตีวงเข้ามาจอดในบ้านได้ ทำให้ต้องจอดรถหน้าบ้านแทน

วันเกิดเหตุที่มีการท้าทายกัน คือ จะไปหาคุณพ่อที่ประสบอุบัติเหตุ จึงรีบไปถอยรถ แล้วบ้านคู่กรณี คือ คุณประสิทธิ์ ซึ่งลูกสาวกำลังถอยรถเข้ามาจอดในซอยเช่นกัน  จากคลิปที่เห็นมีราวตากผ้าหน้าบ้าน ตนเห็นว่าไม่พ้น แล้วก็พยายามถอย แต่ก็ไม่พ้น แล้วเริ่มมีปากเสียง แล้วฝ่ายลูกชายที่อ้างเป็นทนาย ก็มาต่อว่า มึงจะถอยทำเหี้_อะไร  ก็เลยมีการถ่ายคลิปเอาไว้ จนมีการแจ้งตำรวจสายตรวจ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรีมาตรวจสอบ พอตำรวจมาถึงฝ่ายคู่กรณีพูดว่า รู้ไหมว่า คุยกับใครอยู่ เนี่ยทนายนะ ผมทนาย   แล้วก็มีช่างหนึ่ง  เจ้าของอู่มีรถจอดซ่อมหน้าบ้านที่อยู่ถัดไป ก็มาต่อว่า มีปากเสียงกับตนอีกด้วย  

ตนอยากบอกว่า หลายครั้งที่ผ่านมา ตนต้องจอดรถกลางซอยแล้วค่อยขนของเข้าบ้าน เพราะมีจอดขวางทำให้และต้องขนของเข้าบ้านบ่อยๆ ถามว่าตอนนี้ตนรู้สึกอยากขายบ้านมาก และถ้าเป็นไปได้ก็อยากขายให้บ้านคู่กรณีไปเลย 

ขณะที่คุณนัท ลูกสาวคุณประสิทธิ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเป็นขับรถยนต์สีขาวในคลิป ตนยืนยัน ตอนถอยรถมาตนไม่ทันเห็นว่า รถคุณวาสนา กำลังถอยออกมา ตอนนั้นตนจอดให้ทุกคนลง และจุดที่ตนไปจอดคือบ้านญาติของตน ซึ่งตอนเขาถอยมา ตนยังจอดไม่เสร็จเพราะพยายามขยับให้ชิดมากที่สุด แต่ปรากฏว่า เขายังถอยอยู่ แต่พอเห็นแล้วว่า เขาถอยตนเลยหยุดและพับกระจกให้เขาถอยให้สะดวก แต่ปรากฏเขาก็ยังถอยมา แล้วเขาก็ลงจากรถมาถ่ายคลิป จนมามีปากเสียงกัน ยืนยันที่ผ่านมา ตนจะจอดให้ชิดที่สุดเพื่อให้ทางบ้านคู่กรณีออกได้สะดวก 

ด้านช่างหนึ่ง ซึ่งในคลิปมีรถยนต์สีเหลืองจอดซ่อมรถอยู่ บอกว่า ตนไม่ได้เปิดอู่ซ่อมรถ แต่คนในหมู่บ้านเวลามีปัญหาก็มักจะมาให้ตนช่วยดู บ้านตนมีแค่รถ จยย.จอดหน้าบ้านเท่านั้น ส่วนวันเกิดรถสีเหลืองในคลิป เป็นรถยนต์เพื่อนตนมีปัญหาขับมาจากดาวคะนองมาให้ตนช่วยดู ส่วนรถยนต์สีน้ำเงินที่เห็นนั้น เป็นคนรู้จักมากินข้าวที่อู่ถัดไป 2-3 หลัง พอเห็นเขาถอย ตนก็พยายามบอกให้หยุดก่อนแล้วตามเจ้าของรถยนต์สีน้ำเงินมาให้ขยับให้ พร้อมบอกด้วยว่า หากอยากจะถอยรถก็ขอให้มาพูดคุยบอกกันดีดี ไม่ได้มีปัญหาใดๆ 

ขณะที่เจ้าของบ้านเช่าที่อยู่ติดบ้านคุณประสิทธิ์ และรถยนต์บ้านคุณประสิทธิ์ได้จอดล้ำไปหน้าบ้านเช่านั้น  ได้โฟนอินเข้ามาเล่าด้วยว่า  คุณลุงประสิทธิ์จอดแบบนี้ ตั้งแต่แรกๆ เลย เอากระถางและราวตากผ้ามาหน้าบ้าน ซึ่งคุณตาเคยไปเห็นพอดี แล้วคุณตาก็บอกให้ลุงประสิทธิ์เอาออก พอตอนนี้ตนให้เช่าบ้าน แล้วผู้เช่าเป็นผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียว ไม่อยากมีปัญหา ก็มาเล่าให้ฟังว่า  คุณลุงมาขอให้ผู้เช่าตนเอากล้องวงจรปิดมาติด และมาขอจอดรถที่บริเวณหน้าบ้าน พี่คนเช่าก็ไม่อยากมีปัญหาเลยเอารถไปจอดที่อื่นแล้วเดินเข้าบ้านเอา ตอนนี้อยากให้ลุงช่วยเอารถไปจอดที่อื่น เพราะผู้เช่าตนจะได้จอดรถในโรงจอดรถในบ้านเช่าได้

ด้านคุณประสิทธิ์ เจ้าของบ้าน บอกด้วยว่า บ้านคู่กรณีแต่ก่อนมาอยู่ก็คุยกันดีๆ ไม่เคยมีปัญหากัน แต่ทำไมมาเกิดปัญหาแบบนี้ได้ ส่วนเรื่องผู้เช่านั้น ตนก็ทักพูดคุย เรียกเขาว่าน้อง บอกน้องจะจอดรถตรงบ้านได้นะ แต่ถ้าเอาหัวเขา มันจะสะดวกไหม เพราะผมเห็นแล้วจะจอดได้แค่ครึ่งคัน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า น้องผู้เช่าเขาไม่พอใจ ถ้ารู้ว่าไม่พอใจ ผมก็จะไม่ทำ  

ด้านทนายแก้ว ดร. มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล กล่าวว่า การจอดรถที่ถนนส่วนกลางในหมู่บ้านถือว่ามีความผิด เพราะเป็นถนนสาธารณะ ทุกคนควรจอดรถในโรงจอดรถของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้นิติบุคคลควรมาดำเนินการ หากนิติบุคคลไม่มาดำเนินการ ลูกบ้านสามารถฟ้องร้องและเปลี่ยนนิติบุคคลยกชุดได้ ส่วนเรื่องนี้ เห็นว่าวันเกิดเหตุ  ตอนคุณลุงหรือตัวน้องชายลงมาแล้ว ราวผ้ามันอยู่ตรงนั้น  โดยวิญญูชนก็ควรขยับราวผ้านิดนึง  พี่ขอตำหนินิดนึง ถ้าเราขยับราวผ้า คุณแม่มาขยับนิดนึง ปัญหาก็จะคลี่คลาย 

ท้ายที่สุดบ้านผู้ร้องเรียน และบ้านคู่กรณี ได้มีการปรับความเข้าใจกัน โดยทางคุณวาสนาบอกว่า ตนแค่ต้องการพื้นที่ให้ตนสามารถเข้าออกได้สะดวกเท่านั้น และขอร้องด้วยว่า ภรรยาลุงประสิทธิ์ พูดเรื่องลองป่วยดูก่อนสิ ตรงนี้ที่ตนติดใจ ที่บอกว่า หากมีอะไรให้ไปกดออด หรือลองป่วยดูก่อน แฟนของตนเป็นไตวายเฉียบพลัน และอาจต้องไป รพ.แบบฉุกเฉิน ตรงนี้ตนรู้สึกว่า ไม่ควรพูดเพราะไม่มีใครอยากจะป่วย และต้องขอโทษ หากทำให้ลุงประสิทธิ์และช่างหนึ่ง รู้สึกไม่ดี จริงๆ หนูต้องการซื้อบ้านแล้วอยู่ด้วยความสงบ แค่อยากเข้าออกได้สะดวก ถ้าหนูทำให้เดือดร้อน ให้เบอร์พร้อมพูดคุย

ด้านคุณประสิทธิ์ และลูกสาว รับด้วยว่า หลังจากมาออกรายการเป็นเรื่องดีที่มาพูดคุยและพร้อมจะปรับให้เพื่อนบ้าน ส่วนเรื่องที่ติดใจว่า ลูกชายอ้างเป็นทนายนั้น จริงๆ คือที่ปรึกษากฎหมาย แล้วพ่อกับแม่ก็จะเข้าใจว่า คนรู้กฎหมายต้องเป็นทนาย ซึ่งคุณนัทรับว่า ที่พูดไปด้วยอารมณ์ เพราะอีกฝ่ายเองก็หยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปตนในวันเกิดเหตุ