ศาลจังหวัดนาทวีตัดสินประหารชีวิต"บ่าว ศรีชุมพวง"มือปืนลำดับที่ 186 ผู้ต้องหาคนที่ 5 คนสุดท้ายในคดียิงถล่มเจ้าของร้านชำและผู้จัดการโรงงานยางพาราที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อปี 60
วันนี้ (21มี.ค.67) ที่ศาลจังหวัดนาทวี ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาตัดสินคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามคาร์บินยิงถล่มนายอาคม พรมโสภา อายุ 55 ปี เจ้าของร้านขายของชำและยังเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิต บริษัทหาดสินรับเบอร์ ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา จำนวน 8 นัด เสียชีวิตคาร้านชำในพื้นที่หมู่7 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อช่วงค่ำวันที่18 ธันวาคม 2560
ซึ่งในวันนี้เป็นการอ่านคำพิพากษาตัดสินจำเลยคนที่5 คือ นายนิพนธ์ ศรีชุมพวง 41 ปี หรือบ่าว ศรีชุมพวง ที่เป็นมือปืนและเป็นจำเลยคนสุดท้ายในคดดีนี้ โดยศาล จว.นาทวี ได้พิพากษาประหารชีวิต นายนิพนธ์ ศรีชุมพวง
ส่วนจำเลยคนอื่นๆที่ถูกจับกุมได้ในคดีนี้ซึ่งศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาไปแล้ว เมื่อ มิย.67 ประกอบด้วย จำเลยที่ 1 นายน้อย สัจมาตย์ (ผู้จ้างวานเป็นตำรวจเก่า) จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 2 นายสมใจ แก้วแหร้(คนจัดหามือปืนและอาวุธปืนคาร์บิน) จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 3 นายอาดัม หมัดเลียด(คนดูต้นทาง) ให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและสอบสวน จากโทษจำคุกตลอดชีวิตลดโทษ เหลือ 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่4 นายกลมชัย สูงศักดิ์ (คนจัดหารถเก๋งมาเลเซีย ที่ใช้ก่อเหตุ) จำคุกตลอดชีวิต และจำเลยคนที่5 นายนิพนธ์ ศรีชุมพวง 41 ปี มือปืนตัดสินประหารชีวิต และเป็นการปิดฉากคดีนี้อย่างสมบูรณ์
ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ถูกจับกุมทั้งหมดและถูกศาลตัดสินหนักเบาตามความผิด โดยคดีนี้สาเหตุมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบและธุรกิจมืด ระหว่างนายน้อย ผู้จ้างวาน กับนายอาคม ผู้ตาย จึงได้ว่าจ้างทีมมือปืนทั้งหมดมายิง นายอาคม ในราคา 2 แสนบาท มีการวางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน ทั้งขณะลงมือก่อเหตุและการหลบหนี โดยส่งคนไปเฝ้าจับตา นายอาคม ก่อนที่จะประสานทีมมือปืนขับรถเก๋งมายิงถล่มจนเสียชีวิต รวมทั้งการเปลี่ยนรถอีกคันมารับตัวมือปืนหลบหนีไป
โดยเฉพาะ นายนิพนธ์ ศรีชุมพวง หรือบ่าว ศรีชุมพวง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนสุดท้ายและเป็นมือปืนในคดีนี้ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ปี 66 ได้ถูกตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ร่วมกับชุดสืบสวนภาค 8 ในขณะนั้นที่ นำโดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.3 ภ.9, พ.ต.อ.กองทัพ เสนาทิพย์ ผกก.ปพ.สส.ภ.9 พตท.เกริกชาย ฉันทจิต รอง ผกก สส3 บก สสภ9 , พตท.ปิยพล แป้นแก้ว รอง ผกก.ปพ.ภ.9, พ.ต.ท.นฤนาท บุตรดำรงค์ รอง ผกก.ปพ.ภ 9 สนธิกำลังหน่วยสวาททั้งจากภาค 9 และภาค 8 วางแผนใช้วิธีซ่อนตัวในรถกระบะ ซึ่งดัดแปลงเป็นรถตัดหญ้า เข้าไปปิดล้อมจับกุมได้ที่บ้านพักในสวนยางพารา พื้นที่บ้านน้ำนิ่ง ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช
พร้อมของกลางเป็นยาบ้าเปียกน้ำ จำนวนหนึ่งและอาวุธปืน 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน ประกอบด้วยอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติก ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน .45 จำนวน 27 นัด, อาวุธปืนสงครามคาร์บิน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน .30 คาร์ไบน์ จำนวน 21 นัด, อาวุธปืนลูกซองยาวเดี่ยว 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนลูกซอง และอาวุธปืนลูกกรด ยาว .22 จำนวน 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืน .22 จำนวน 30 นัด
สำหรับประวัติของ นายนิพนธ์ ศรีชุมพวง หรือบ่าว ศรีชุมพวง มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่6 ต.วังอ่าง อ.ชะอวด จ.นครศรรีธรรมราช ซึ่งเป็นมือปืนรับจ้าง และเป็นผู้ต้องหาลำดับที่ 186 ตามปฏิบัติหมายจับ หรือแบล็กลิสต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นอกเหนือจากคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหายิงเจ้าของร้านชำและผู้จัดการโรงงานยางที่อ.สะเดา จ.สงขลาแล้ว ก่อนหน้านี้ยังมีประวัติต้องคดีอีก 5 คดี เริ่มจาก เมื่อปี 2555 ถูกจับกุมคดีครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน ท้องที่ สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช,ปี 2556 ถูกจับคดีพกพาอาวุธปืน ท้องที่สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช,ปี2556 ถูกจับกุมคดีครอบครองเครื่องกระสุนปืน ท้องที่สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช,ปี2557 ถูกจับกุมคดีเสพยาเสพติดให้โทษ ท้องที่สภ.การะเกด จ.นครศรีธรรมราช,และปี 2557 ถูกจับคดีฆ่าผู้อื่นฯ ท้องที่สภ.การะเกด จ.นครศรีธรรมราช
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี