แม่เด็กหญิงวัย 13 ปี ร้องสื่อถูกหนุ่มอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเด็กและสตรี ทักมาตีสนิทในเฟสบุ๊คก่อนลวงไปข่มขืนกระทำชำเราคาบ้าน ไกล่เกลี่ยยอมจ่าย 70,000 ยังหื่นไม่เลิก บุกถึงบ้านเด็กหญิงข่มขืนกระทำชำเราอีกครั้งต่อหน้าเด็ก 2 ขวบ แม่หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ผ่านมาเกือบปีคดีถึงอัยการแล้วไม่คืบหน้าไปไหนมาไหน แถมหนุ่มรายนี้ข่มขู่อ้างมีญาติเป็นอัยการไม่กลัวฟ้องเลย เตรียมพาแม่และลูกสาวเข้าพบอัยการจ.อุดรธานี วันนี้

วันที่ 25 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางแคท อายุ 31 ปี พร้อมน้องไข่มุก (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 13 ปี ชาวอุดรธานี ร้องเรียนกับนายภาณุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วยและสื่อมวลชนที่จ.อุดรธานี ขอความช่วยเหลือเร่งประสานและติดตามคดี “กรณีลูกสาวเป็นเด็กหญิงวัยเพียง 13 ปี ถูกหนุ่มชื่อเต๋า (นามสมมติ) วัย 33 ปี อ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านช่วยเหลือเด็กและสตรีคนหนึ่งทำงานที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานีลวงลูกสาวไปข่มขืนกระทำชำเราถึงบ้านพัก  ไปแจ้งความตำรวจสอบปากคำส่งสำนวนถึงอัยการแล้วคดีไม่มีความคืบหน้า จนเวลาผ่านไปเกือบปี เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม” หลังรับแจ้งได้ประสานนักข่าวร่วมลงพื้นที่ติดตามสอบถามโดยเดินทางไปยังบ้านผู้เสียหายที่อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี

นางแคท อายุ 31 ปี เปิดเผยว่า เมื่อเดือนพ.ค.66 กลางปีที่แล้ว ลูกสาวถูกชายคนดังกล่าวทักมาทางเฟสบุ๊คเหมือนมาตีสนิทพูดคุยให้ตายใจหว่านล้อมต่างๆ นานา จากนั้นได้ลวงลูกสาวไปบ้านพักบังคับให้มีอะไรด้วยจนลูกสาวต้องยอม  ตนเองเลยโทรไปหาลูกสาวก็รู้ว่าอยู่บ้านผู้ชาย รีบตามไปพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้น มารู้อีกทีว่าเขาทำงานที่ศาลากลาง เป็นหน่วยงานด้านดูแลเด็กและสตรี จึงได้พูดคุยกันและสงสารกลัวจะกระทบหน้าที่การงาน มีการพูดไกล่เกลี่ยและทางหนุ่มรายนี้ยอมจ่าย 70,000 บาทและสัญญาจะไม่ยุ่งกับลูกสาวอีก แต่พอผ่านมาเดือนมิ.ย.66 หนุ่มคนนี้ก็ทักมาหาลูกสาว บอกว่า มีใครอยู่บ้านมั้ย จะเข้าไปหา วันนั้นตนเองไม่อยู่ออกไปขายของ เขาก็เข้ามาหาลูกสาวที่บ้านและมีอะไรกับลูกสาวจนสำเร็จความใคร่ ต่อหน้าลูกตนเองอีกคนอายุเพียง 2 ขวบด้วย ในเมื่อคุยกันแล้วยังดอดมาหาลูกสาว ตนเองจึงไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับหนุ่มรายนี้

โดยตำรวจได้สอบปากคำเก็บพยานหลักฐานและส่งสำนวนไปถึงอัยการแล้ว แจ้ง 4 ข้อหาคือ พรากเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีไปเสียจากบิดา,พาเด็กต่ำกว่า 15 ปีไปเพื่ออนาจาร,อนาจาร,กระทำอนาจาร เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี,กระชำทำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีโดยเจ้าตัวจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม  แต่ตอนนี้เรื่องเวลาผ่านไปเกือบจะ 1 ปี คดีไม่มีความคืบหน้าจึงเอาเรื่องนี้มาร้องเรียน ที่สำคัญตอนนี้เกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากหนุ่มคนนี้ขู่เอาไว้ว่าแจ้งความดำเนินคดีเลย ไม่กลัวเพราะเขามีญาติเป็นอัยการ และคำขู่ของเขาเลยเป็นที่ข้อสงสัยที่ทำให้คิดว่าสาเหตุคดีไม่มีความคืบหน้า จะเป็นจริงตามที่เขาอ้างหรือไม่

ด้านน้องไข่มุก อายุ 13 ปี บอกว่า ย้อนกลับไปตนรู้จักกับผู้ชายคนนี้ ผ่านทางเฟซ พี่เขามาเป็นขอเป็นเพื่อน จากนั้นเขาก็มากดหัวใจแล้วบอกว่าน่ารักจัง แล้วเราก็ติดต่อทางแชทพูดกัน โดยพูดคุยกันไม่ถึงอาทิตย์พี่เขาก็ชวนออกไปบ้านพี่เขา เขาขอมีอะไรด้วย กลัวจะถูกทำร้ายจึงต้องยอม หลังแม่รู้ก็พูดตกลงไกล่เกลี่ยกันและพี่เขาบอกไม่มายุ่งกับหนูอีก ผ่านไปไม่ถึงเดือนพี่เขาก็ทักมาอีก พี่เขาบอกว่าคิดถึงทำอะไรอยู่แม่อยู่บ้านหรือเปล่า หนูเขาตอบกลับไปว่าแม่ไม่อยู่บ้านแม่ออกไปทำงาน มีหนูกับน้องวัย 2 ขวบอยู่กันแค่ 2 คน พี่เขาก็มาหาที่บ้าน โดยจอดรถที่บริเวณข้างบ้านจากนั้นก็เดินมาเข้าบริเวณทางหลังบ้าน แล้วพี่เขาก็ขอมีอะไรด้วย หนูก็ต้องยอม โดยมีอะไรกันต่อหน้าน้อง 2 ขวบ ต่อมาแม่มาเห็นรอยแดงที่คอ แม่ถามจึงยอมบอกว่าพี่เขามาหาที่บ้านและบังคับให้มีอะไรด้วยอีกหลังเกิดเรื่องขึ้นตนคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าจะรักเราจริงแน่นอน

นายภาณุมาศฯ บอกว่า หลังจากจากนี้ตนจะได้ประสานกับอัยการจังหวัดอุดรธานี เพื่อนำเรื่องสอบถามความคืบหน้าของคดีติดขัดตรงไหน เพื่อให้ทางอัยการจังหวัดช่วยเหลือต่อไป แม้คดีนี้ทางผู้ปกครองจะยินยอมเสียค่าปรับไหมชดใช้เป็นเงินต่อกัน แต่คดีที่เกี่ยวกับเด็กแบบนี้ในทางฏหมายถือว่าเป็นอาญาแผ่นดินและไม่สามารถยอมความกันได้ ซึ่งวันจันทร์ที่ 25 มี.ค.นี้ ตนจะพาเข้าพบอัยการจังหวัดอุดรธานีเพื่อสอบถามคดีนี้อีกครั้ง