25 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้สนธิกำลังลาดตระเวนเพื่อป้งกันการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด จนกระทั่งไปถึงสวนยางพาราริมทางหลวงหมายเลข 323 หมู่ 4 บ้านทิโคร่ง ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊กซ์ สีบอรนซ์ ดัดแปลงเป็นคอกโครงเหล็กสำหรับบรรทุกสินค้าการเกษตร หรือมีไว้สำหรับรับซื้อของเก่า ปิดคลุมด้วยสแลนสีดำโดยใช้เชือกรัดเอาไว้อย่างแน่นหนา โดยมีกระสอบเรียงเอาไว้ด้านหลังให้ดูคล้ายรถส่งของเพื่อตบตา ด้วยความสงสัย เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังติดตามไป เมื่อคนขับเห็นจึงเร่งเครื่องหลบหนี เมื่อเห็นจวนตัวจึงจอดรถทิ้งเอาไว้แล้วอาศัยความชำนาญเส้นทางวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงช่วยกันแกะเชือกและสแลนออกมา เมื่อปิดเข้าไปดูทุกคนถึงกับต้องตกใจเนื่องจากภายในมีการนำโครงเหล็กมาดัดแปลงให้แรงงานนั่งแออัดกันมารวมกันถึง 2 ชั้น เจ้าหน้าที่จึงให้ทยอยลงมาจากรถนับรวมกันได้มากถึง 44 คน เป็นชาย 29 คน คน หญิง 15 คน
จากการสอบสวนกลุ่มแรงงานให้การว่าพวกตนเป็นชาว ย่างกุ้ง,เนปิดอและเมาะละแหม่ง ประเทศเมียนมา หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อต้องการไปทำงานในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จ.สมุทรสาคร โดยต้องจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าผู้นำพาคนละ 12,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง ส่วนสาเหตุที่ต้องหลบหนีมาหางานทำในประเทศไทย เพราะภายในประเทศเกิดความไม่สงบและที่สำคัญต้องการหลบหนีการถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเพื่อสู้รบกับฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล หลังจากกลุ่มแรงงานให้การยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนที่จะส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อผลักดันกลับสู่ประเทศต้นทางต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลายวันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดพร้อมลาดตระเวนและออกหาข่าวกันอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถจับกุมคดี พรบ.คนเข้าเมืองได้หลายคดี โดย เวลา 21.00 น.วันที่ 24 มี.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี ชุดปะฉะดะ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ และหน่วยงานข้างต้น ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการขนแรงงานเข้ามาในราชอาณาจักรด้วยการใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา หมายเลขทะเบียน บท 6223 ยโสธร เป็นพาหนะนำพา หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงออกตรวจตราพร้อมลาดตระเวนเพื่อสกัดจับ
กระทั่งพบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวอยู่ที่หน้ารีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่ง ท้องที่หมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น จากการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งอยู่ภายในห้องโดยสารรวมทั้งนอนเรียงงายอยู่ท้ายกระบะโดยใช้สแลนสีดำปิดทับเอาไว้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ นับรวมกันได้ จำนวน 11 คน เป็นชายทั้งหมดอายุระหว่าง 22-30 ปี เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายธนากร วงศ์รุจรวี อายุ 26 ปี คนขับชาว หมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เอาไว้ จากนั้นจึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.สังขละบุรี
นายธนากร ผู้ต้องหาที่เป็นคนขับรถให้การในเบื้องต้นว่า ตนขับรถไปรับกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา มาจากท้องที่หมู่ 8 ต.หนองลู โดยจะได้ค่าจ้างคนละ 1,000 บาท ขณะกำลังนำแรงงานไปส่งเพื่อลงเรือที่บริเวณท่าน้ำ หมู่ 1 ต.หนองลู ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนกลุ่มแรงงานทั้ง 11 คน ต้องการเดินทางมุ่งหน้าไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย
หลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีกับคนขับที่เป็นผู้นำพา ในข้อกล่าวหา “ช่วยเหลือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆให้ บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย” และดำเนินคดีกับแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 11 คน ในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”
ขณะเดียวกันช่วงเช้าของวันที่ 23 มี.ค.67 ขณะที่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไปถึงบริเวณท้องที่บ้านทิโคร่ง หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี พบกลุ่มคนต้องสงสัยหลบซ่อนตัวอยู่ภายในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งหมด จำนวน 8 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 5 คน อายุระหว่าง 18-39 ปี
โดยแรงงานทั้ง 8 คนให้การยอมรับสารภาพผ่านล่ามว่า พวกตนเป็นชาวกิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติ จากนั้นจะเดินทางไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย ซึ่งหลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”ก่อนที่จะส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.ผลักดันกลับสู่ประเทศต้อทางต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี