วันที่ 27 มีนาคม 2567 จากกรณีพบรถยนต์ต้องสงสัย ถูกจอดทิ้งปริศนาในพื้นที่บ้านดงโชค ต.หนองญาติ อ.เมือง จ. นครพนม เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา  ภายหลังชุดสืบสวน สภ. เมืองนครพนม ได้มีการตรวจสอบพบว่าเป็นรถยนต์ของนางวันเพ็ญ หรือป้าอ้วน อายุ 64 ปี ภรรยาของ นายขนบ หรือนายหัวสมาร์ท หรือโกหมาด อายุ 56 ปี เจ้าของบ่อนไก่ชน ชาวจังหวัดชุมพร และในฐานะป้าอ้วนเป็นผู้เช่าซื้อ รถยนต์คันดังกล่าวกับบริษัทไฟแนนซ์ โดยได้แจ้งหายไว้ที่ สภ. นาสัก อ.ฉวี จ. ชุมพร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา พิสูจน์หลักฐาน จ.นครพนม จึงมีการตรวจสอบเก็บหลักฐานหาที่มา เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นขบวนการค้ารถยนต์ข้ามชาติ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด มีรายงานว่าพบศพ คาดน่าเป็นศพของนายขนบ อายุ 56 ปี หรือโกหมาด เซียนไก่ชนชื่อดังที่หายตัวพร้อมกับรถยนต์คันดังกล่าว จนกระทั่งพบรถไปโผล่ที่ จ.นครพนม ส่วนสาเหตุคาดว่าถูกฆาตกรรม ก่อนพบศพถูกฝังดินในสวนยาง ที่มีเนื้อที่กว้างนับพันไร่ ในพื้นที่ของ อ.บางขัน จ. นครศรีธรรมราช และอยู่ระหว่างการตรวจสอบชันสูตร หาที่มาของการเสียชีวิต ในสภาพศพที่ถูกราดด้วยน้ำกรดชนิดเข้มข้นจนร่างเปื่อยยุ่ย

ในส่วนของ จ.นครพนม จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าว ได้ตรวจสอบข้อมูลหาเบาะแสที่มาของรถยนต์ต้องสงสัย โดยทางตำรวจชุดสืบสวน สภ. เมืองนครพนม พบหลักฐานจากกล้องบันทึกความเร็ว มีหญิงสาวผู้ต้องสงสัย 2 ราย ขับรถยนต์ในพื้นที่ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม จนกระทั่งทราบตัวผู้ต้องสงสัย พร้อมเชิญตัวให้ปากคำ แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวได้

ขณะเดียวกันผู้ต้องสงสัยหญิงสาวทั้งสองราย เป็นชาว อ.โพนสวรรค์ ให้ข้อมูลเชิงลึกแต่ไม่ขอสัมภาษณ์ผ่านสื่อ โดยระบุว่ารถยนต์คันดังกล่าว ได้ซื้อผ่านเพจซื้อขายรถยนต์เถื่อน ในราคา 300,000 บาท โดยมีคนขายอ้างเป็นเจ้าของรถขับมาส่งถึงบ้านในพื้นที่ จ.นครพนม จนกระทั่งทราบข่าวว่าเป็นรถยนต์ที่แจ้งหายไว้ และเกรงว่าจะมีความผิดร่วมด้วย จึงขับไปจอดทิ้งในพื้นที่ ต.หนองญาติ อ. เมือง จ.นครพนม พร้อมยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของโกหมาด

ส่วนรถยนต์คันดังกล่าวยัง เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทไฟแนนซ์ โดยมีป้าอ้วน อายุ 64 ปี ภรรยาของโกหมาด  มีชื่อเป็นผู้เช่าซื้อ ส่วนเบาะแสการเสียชีวิต คาดว่าน่าจะขัดแย้งภายในครอบครัว โดยป้าอ้วนภรรยาอยู่ระหว่างตำรวจชุดสืบสวนภาค 8  เร่งหาเบาะแสที่มาของปมอุ้มฆ่าฝังดิน ในส่วนของ จ.นครพนม ดำเนินการสอบสวนสืบสวน เฉพาะกรณีรถยนต์ที่มาจอดทิ้งในป่าสวนยางเท่านั้น