เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2567 ที่สยามพารากอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่สภาผ่านความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ …) พ.ศ….หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ว่า ดี อยากจะให้ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาด้วย เพราะมีคนอยากจะแต่งงานกันเยอะไปหมด วันนี้ตนเองมาเดินที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ได้เห็นรอยยิ้มของกลุ่ม LGBTQ เยอะไปหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่สภาผ่านความเห็นชอบกฎหมายฉบับดังกล่าว หลายคนมองว่าไม่ใช่เป็นการให้สิทธิ์แต่เป็นการคืนสิทธิ์ให้กับกลุ่ม LGBTQ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันอยู่แล้ว เป็นไปตามหลักการ ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อสักครู่นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับกลุ่ม LGBTQ ได้มีการพูดคุยอะไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ถามเขาว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน เพราะมีหลายคู่ที่รอคอยการแต่งงาน เพราะเป็นเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐาน

“อย่างผมหรือผู้สื่อข่าวที่เป็นผู้หญิง อยากจะแต่งงานพรุ่งนี้ก็สามารถแต่งได้ แต่ลองจินตนาการดูว่าถ้าเป็นกลุ่ม LGBTQ อยากจะแต่งงานแต่ก็ไม่สามารถที่จะแต่งได้ มันเป็นอะไรที่จำกัดสิทธิ์เขา  แต่วันนี้ไม่ว่าจะเรียกว่าการให้สิทธิ์หรือคืนสิทธิ์ แต่ก็ต้องให้เขา เป็นเรื่องที่เราไฟท์มาโดยตลอด”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่  นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมบูธขายสินค้าจากผ้าขาวม้า มีกลุ่ม LGBTQ เดินเข้ามาขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามกลับว่า แต่งงานหรือยัง  ทำให้คนดังกล่าวตอบกลับทันทีว่า “ถ้ากฎหมายผ่านพวกหนูแต่งเลยค่ะ”