สยองแต่เช้า!! หนุ่มอุดรหลอนยาฆ่าเมียหมกมุ้งในที่นอนตั้งแต่กลางดึก เช้ามาหลอนต่อไล่ทำร้ายชาวบ้านในซอย 5 คนเกือบเอาไม่อยู่ต้องไล่จับกันชุลมุน ชาวบ้านเผยได้ยินเมียหนุ่มคลั่งร้องขอความช่วยเหลือตั้งแต่สองทุ่ม แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เจ้าตัวบอกฆ่าเมียเพราะพระยูไลสั่ง
วันนี้ (30 มี.ค.67) เมื่อเวลา 07.30 น.ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากชาวบ้านที่อยู่ในซอยประชาสันติ 10 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่าได้ช่วยกันจับหนุ่มคลั่งไล่ทำร้ายชาวบ้านเอาไว้ได้ และตรวจสอบในบ้านของหนุ่มคลั่งรายนี้พบว่ามีคนเสียชีวิตภายในบ้านด้วยเป็นภรรยาของคนก่อเหตุ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบชาวบ้านกำลังจับนายบุญช่วย อายุ 49 ปีหนุ่มคลั่ง จึงควบคุมตัวขึ้นรถสายตรวจไปยัง สภ.เมืองอุดรธานี โดยมีคลิปวงจรปิดในซอยเห็นนายบุญช่วย วิ่งไล่ทำร้ายชาวบ้าน โดยใช้กำปั้นไล่ทุบชายคนหนึ่งที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ จากนั้นก็เห็นชาวบ้านหลายคนเข้ามาช่วยกันจับนายบุญช่วย ล็อคคอลงกับพื้น แม้จะมีชาวบ้าน 4-5 คนจับนายบุญช่วย แต่ก็ยังฟิตฟัดพยายามดิ้นหลุด ชาวบ้านจึงใช้เชือกมัดแขนมัดขาเอาไว้ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายเข้าตรวจเข้ามาคุมตัวอีกทีหนึ่ง โดยชาวบ้านแจ้งว่าภายในบ้านของนายบุญช่วย พบศพเมียนอนตายในมุ้งด้วย สงสัยนายบุญช่วย จะฆ่าเมียตัวเองหมกภายในบ้าน
ต่อมา พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดระานี ไปยังที่เกิดเหตุตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุพบศพ น.ส.พนิดา หรือหนึ่ง อายุ 38 ปี ภรรยานายบุญช่วย นอนเสียชีวิตคามุ้งภายในห้องนอน จึงประสานนิติเวชโรงพยาบาลอุดรธานี ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าถูกตีด้วยของแข็งที่ท้ายทอยจนเป็นแผลฉีกขาดความยาวประมาณ 10 ชม. และตามลำตัวมีรอยฟกช้ำ คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบด้ามจอบ ซึ่งเป็นไม้ยาวประมาณ 1.50 เมตรอยู่ภายในบ้าน มีนิ้วมือรอยนิ้วมือเปื้อนเลือด และลอยเลือดที่ปลายอีกด้าน ตำรวจจึงตรวจยึดเป็นของกลาง ขณะเดียวกันภายในบ้านพบว่ามีสังกะสีคล้ายถูกฟันด้วยของมีคม หลอดไฟแตก และมีซองยารักษาอาการป่วยจิตเวชระบุชื่อนายบุญช่วยอยู่จำนวนหนึ่ง
นายบุญช่วย หรือชำนาญ หลังก่อเหตุยังมีอาการหลอนอยู่ บอกกับนักข่าวฟังพอจับใจความได้ว่า ตนชื่อ มหาเทพมุนี เมื่อเช้าพระยูไลสั่งให้ไปตบตาฉลองเพื่อสั่งสอน พอเดินออไปหน้าบ้านฝนตกพระยูไล ก็สั่งให้ไปตบสั่งสอนอีก ก็เลยตบไป 2-3 ที จากนั้นมันก็วิ่งมารุมตน ตนยอมรับว่าเสพยาล่าสุดเสพไป 4 เม็ด ไม่ถึง 5 เม็ดเลย
นายพยนศักดิ์ โสมะคุณานนท์ อายุ 72 ปี ประธานชุมชน บอกว่า นายบุญช่วยป่วยจิตเวชเนื่องจากเสพยามาก ปีที่แล้วก็เผาบ้านตัวเองจนวอด ตอนนี้เหลือแต่เสาบ้าน จนต้องสร้างกระต๊อบหลังเล็กๆ อยู่หลังบ้านที่ตัวเองเผา เขาอยู่กับเมียสองคนเพราะพ่อแม่ตายหมดแล้ว วันดีคืนดีก็จะได้ยินเสียงร้องคนเดียวภายในบ้าน บางครั้งก็ทะเลาะเมีย ครั้งนี้หนักสุดฆ่าเมีย คาดว่าไม่ได้กินยาระงับประสาท อาการจึงกำเริบดังกล่าว
นายธิติวัฒิ ชัยศรีชาติ อายุ 47 ปีชาวบ้าน บอกว่า เช้าวันนี้ขณะตนกำลังเช็ดรถยนต์อยู่หน้าบ้าน เห็นผู้ก่อเหตุเดินมาจากทางบ้าน ตนก็ถามว่าไปไหนมาผู้ก่อเหตุก็ชี้หน้าตาขวางแข็งวิ่งมาหาตนพร้อมง้างมือมาจะตีตนก็วิ่งไปจากนั้นก็ชกต่อยกันที่บริเวณหน้าบ้านอีกหลังนึง ต่อมาพ่อและหลานออกมาช่วยและสามารถจับกุมได้ แต่พ่อคือนายฉลาดก็ได้รับบาดเจ็บตอนกอดปล้ำกับนายบุญช่วยตรงข้อมือด้วย สำหรับพฤติกรรมของคนที่ก่อเหตุนั้นช่วงหลังจะไม่ค่อยพูดคุยกับคน ส่วนตัวคิดว่าเป็นเพราะอาการทางประสาทกำเริบ ซึ่งที่ผ่านมาคนก่อเหตุเคยทำร้ายพระมาแล้ว 1 ครั้ง ปีที่แล้วก็เผาบ้านตัวเองจนวอด ตอนนี้เหลือแต่เสาปูน จนต้องได้ไปสร้างบ้านหลังเล็กอยู่ด้านหลัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่น่าจะพาแกออกจากชุมชนและญาติก็ควรจะพาตัวไปบำบัดรักษา ไม่งั้นศพต่อไปเป็นชาวบ้านแน่
นางจิตติมา มาตาปิตา หรือต๋อม อายุ 50 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 20.00 น.ขณะตนกำลังจะเข้านอนได้ยินเสียเมียเขาร้องเสียงดังคล้ายคนร้องไห้และร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เขาเป็นแบบนี้กับเมีย เลยไม่สนใจอะไร และได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์คิดว่าเมียเขาคงหนีออกไปจากนั้นก็ได้ยินดังตูมตาม ต่อมาเช้านี้ก็พบว่าเกิดเรื่อง ฆ่าเมียตัวเองตายในมุ้งเช้ามาก็อาละวาดไล่ทำร้ายชาวบ้านภายในซอย กลัวมากกับคนหลอนยาแบบนี้ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี