เชียงใหม่หนัก
เมืองอากาศแย่
พุ่งอันดับ2โลก
พายุถล่มอุดรฯ
“เชียงใหม่” วิกฤตหนัก หมอกควันไฟป่าปกคลุมพื้นที่หนาแน่น สภาพอากาศแย่ขึ้นอันดับ 2 ของโลก ด้านกรมอุตุฯ เตือนไทยร้อนจัด บางพื้นที่มีฝนถล่ม ส่วนอุดรฯ พายุซัดบ้านเรือนเสียหายกว่า 20 หลัง
เมื่อวันที่ 31มีนาคมที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพท้องฟ้าตัวเมืองเชียงใหม่ ยังถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟป่า โดยมองจากจุดชมวิวบนดอยสุเทพ มีแต่ม่านหมอก ทัศนวิสัยไม่ดี จนมองไม่เห็นอาคารบ้านเรือนประชาชน แสบตา ได้กลิ่นควันชัดเจน มีจุดความร้อนมากถึง 90 จุด กระจายอยู่ใน 17 อำเภอ มากที่สุด อ.เชียงดาว 16 จุด อ.ฮอด 11 จุด และ อ.อมก๋อย 10 จุด ขณะที่บางอำเภอไฟป่าลุกลาม เข้าไปถึงป่าช้า สถานที่ฝังศพผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลัง ร่วมกับจิตอาสาเข้าดับไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามถึงหลุมฝังศพ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–29 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดไฟป่าสะสม4127ครั้ง และค่ามลพิษเกินค่ามาตรฐาน เป็นเวลา 48 วันแล้ว
ด้านศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานคุณภาพอากาศแบบรายชั่วโมง พื้นที่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาวค่า PM2.5 อยู่ที่ 460 ไมโครกรัม (มคก.)/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) บ้านหัวโท อ.เชียงดาว อยู่ที่ 454 มคก./ลบ.ม.ชุมชนหมื่นสาร อ.เมือง อยู่ที่ 206 มคก./ลบ.ม.ส่วนย่านไนท์บาร์ซ่าอ.เมือง อยู่ที่ 160 มคก./ลบ.ม.มีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ เว็บไซต์ไอคิวแอร์ยังจัดอันดับให้ จ.เชียงใหม่ ประเทศไทย มีคุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับ 2 ของโลก
ขณะเดียวกัน งานถนนคนเดินวัวลาย จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ยังคงมีนักท่องเที่ยว เดินทางมาเที่ยวชมงานอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ที่มาจับจ่ายซื้ออาหารและสินค้า แต่นักท่องเที่ยวคนไทย บางตา ถนนโล่งเป็นช่วงๆ
นางรัตนา หนึ่งในแม่ค้าที่งานถนนคนเดินวัวลาย เปิดเผยว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวยังเยอะอยู่แต่พอมีหมอกควันไฟป่าปกคุมทั่วตัวเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวในช่วงเดือนมีนาคมหายไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนไทยจากต่างจังหวัดมีจำนวนน้อยลง มีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ ส่วนใหญ่จะไม่สวมหน้ากากป้องกัน ส่วนตนเองเวลามาขายสินค้า ก็ต้องอยู่กลางแจ้ง ตั้งแต่ช่วงเวลา 16.00 น.ไปจนถึง 23.00 น.หรือเป็นเวลานานเกือบ 7 ชั่วโมง และต้องสวมหน้ากากชนิด N95 เพื่อป้องกัน หากไม่สวมแมสก์ภายใน 1ชั่วโมง จะรู้สึกคอแห้ง บางครั้งก็มีน้ำมูกไหล ที่สำคัญจะรู้สึกแสบตา เมื่อกลับบ้านแล้วก็ต้องหยอดน้ำตาเทียมตลอด อยู่ในบ้านถึงจะถอดหน้ากาก หากออกนอกบ้านต้องสวมหน้ากากทันที ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวมาเดินเที่ยวงานเยอะ ขายของดีมาก แต่พอเดือนมีนาคมนี้ นักท่องเที่ยวหายไปจำนวนมาก
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดในระยะนี้ ส่วนลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
มีรายงานข่าวว่า ในช่วงเย็นวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ได้เกิดพายุหมุนถล่มบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านหนองเม็ก ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายไปประมาณ 20 หลังคาเรือน รวมถึงโรงเก็บฟางคอกสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน โดยพายุฤดูร้อนที่ถล่ม จ.อุดรธานี วันเว้นวันแบบนี้ ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างสำหรับความเสียหายของโรงเก็บฟางฯ ถูกแรงลมซัดเสาไปทั้งต้น มีต้นไม้หักโค่น ซึ่งชาวบ้านต่างรู้สึกตกใจเนื่องจากไม่เคยพบกับลมพายุที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหนองเม็ก หมู่ 13 ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน ที่มีบ้านติดริมถนนบ้านหนองเม็ก-บ้านเชียง โดยเป็นบ้านของนายประกอบ ดวงศรี อายุ 64 ปี ได้พาผู้สื่อข่าวไปตรวจดูโรงเก็บฟางและคอกควาย ซึ่งถูกพายุหมุนพัดเสียหาย พบว่าโรงเก็บฟางดังกล่าว ถูกพายุหมุนยกเอาเสา 10 ต้นขอโรงเก็บฟางฯ เสียาหยจนหลังคาเปิดไปทั้งแถบ และหลังคาบางส่วนถูกแรงพายุพัดปลิวตกเกือบ 20เมตร
นายประกอบ กล่าวว่า ช่วงเย็นวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา อากาศร้อนจัดแต่หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าครึ้ม ฟ้าร้อง และมีลมแรงพัดอย่างรุนแรง ก่อนจะพัดยกเอาเสาของโรงเก็บฟางฯ ดังกล่าว ซึ่งตนกับภรรยา ได้หลบอยู่ภายในบ้าน ไม่กล้าออกมา โดยพายุลมแรงพัดมาแค่เพียงเสี้ยวนาที แต่ได้สร้างความเสียหายอย่างหนัก เป็นลมที่แรงมากว่าที่คิด ไม่เคยพบเห็นมาก่อน โชคยังดีที่ไม่พัดบ้านที่ตนอาศัยอยู่ เสียหายไปด้วย
ส่วนที่บ้านเลขที่ 229 หมู่ 15 บ้านหนองเม็ก ที่เป็นของนายทศชัย นามวงศา อายุ 56 ปี ก็ได้รับความเสียหาย โดยนายทศชัย ได้พาผู้สื่อข่าวไปตรวจดูความเสียหายจากพายุลมแรง โดยพบว่ามีต้นไม้หักโค่นหลายต้น และทำให้หลังบ้านพังลงมากองอยู่ห่างจากตัวบ้านออกไปประมาณ 10 เมตร ซึ่งนายทศชัย กล่าวว่า พายุลมแรงมารวดเร็วแค่เพียงนาทีก็พัดเอาบ้านพักตนเสียหาย ขนาดเสาบ้านที่แข็งแรงยังต้านไม่อยู่ โชคดีที่ช่วงพายุซัดมา ตนไม่ได้อาศัยที่ด้านหน้าบ้าน แต่หลบอยู่ด้านหลังบ้านกับภรรยา ขณะนี้ยังไม่ได้สำรวจและซ่อมแซม คงต้องรอหาเงินเพื่อมาซ่อมภายหลัง และยังรู้สึกกลัวว่าจะเกิดพายุลมแรงซ้ำอีก ทราบว่าที่บ้านหนองเม็กและบ้านเชียง ถูกพายุถล่มจนได้รับความเสียหายประมาณ 20 หลังคาเรือนเป็นอย่างน้อย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี